#จาการ์ตา...มาทำไม ep.2
การเดินทางของเราในจาการ์ตายังไม่จบ ขอเล่าต่อจากโพสที่แล้ว...
ปล. โพสต์นี้แอบจริงจังนิดนึงนะคะ😅😅
หลังจากพักทานอาหารจนอิ่มหนำสำราญ เราก็มุ่งหน้าไปถ่ายรูปต่อที่ Istiqlal Mosque เค้าว่ากันว่าที่นี่เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในนั้นจุผู้มีศรัทธาได้ถึง 200,000 คน ไม่รอช้า พี่นี่รีบไปเลยจ้า เอาจริง อิ่มก็อิ่ม แล้วยังต้องแบกเป้เดินอี๊กกกก ถือว่าเดินย่อยละกัน แดดยามบ่ายนี่...เปรี้ยงสุด ๆ แต่ใจสู้มากบอกเลย หึหึหึ...
Istiqlal Mosque
ในทุกวันจะมีชาวมุสลิมมาที่นี่เยอะมาก เพราะที่นี่เหมือนเป็นศูนย์กลางเลยก็ว่าได้ เราเดินเข้ามาก็จะงงๆ หน่อยๆ 555 เราไม่เคยมาศาสนสถานของมุสลิมแบบนี้ก็รู้สึกแปลกนิด ๆ เพราะไม่ค่อยคุ้นชิน ไม่เหมือนไปวัด เห็นคนอื่นเขาทำอย่างไรเราก็ทำตามนั้นแหละ 😅😅😅
พอเดินเข้ามาในบริเวณมัสยิด ก็มีคนมาขายถุงให้ตลอดทาง ยกถุงขึ้นมา 1 ใบ แล้วพูดขายของ ถ้าแปลเป็นไทย คงประมาณว่า "ถุงมั้ยพี่ ถุงมั้ยพี่ 1000 เดียว !!" เราก็งงเนาะ ไม่รู้ทำไมเค้าขายถุงกัน เรานี่ก็ยกมือยกไม้บอกปัดตลอดทาง โบกไม้โบกมือแล้วส่งยิ้มไปเป็นนัยว่าไม่เอา โบกจนคิดว่าตัวเองเป็นนางงามเลย..ฮ้วย!!
พอเดินเข้ามาใกล้ทางเข้าอาคารเท่านั้นแหละ ถึงได้ถึงบางอ้อเลยว่าทำไมเค้าขายถุงพลาสติกกัน....ก่อนเข้าอาคารเค้าให้ถอดรองเท้า..การจะเข้าไปข้างในจะใส่รองเท้าไม่ได้ เป็นธรรมเนียมของเค้าต้องปฏิบัติตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่มุสลิมถ้าจะเข้าชม สามารถเข้าได้แต่ต้องมีไกด์ และแต่งตัวเรียบร้อย รวมถึงต้องใส่ฮิญาปและจำกัดให้เข้าได้แค่บางพื้นที่เท่านั้น
ส่วนเราขอแค่ถ่ายรูปข้างนอกก็พอจ้า
kiosk ขายอาหาร
เดินถ่ายรูป ดูสถาปัตยกรรมจนสาแก่ใจแล้วก็ได้เวลาโยกย้าย เดินจากตรงนี้ไปไม่ไกลมีมหาวิหารจาการ์ตาอยู่ (Jarkata Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่สร้างมาเป็นร้อยปี และมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เราไม่พลาดแน่นอน555
เดินออกจากมัสยิด Istiqlal ไปมี kiosk ขายของตลอดทาง street food ของเค้าก็น่ากินมากกกกก มีหลายอย่างละลานตาไปหมดเลย ทั้ง สะเต้ะ บักโซ มะตะบะคาว-หวาน บักเปา(bakpau หรือซาลาเปา) แต่อดใจไว้ก่อน !!!
เราว่าบ้านเมืองเค้าก็เดินง่ายดีนะ ทางเท้า ต้นไม้ และแนวพุ่มไม้ ถูกจัดวางไว้ในที่ที่เหมาะสม เอื้อประโยชน์ต่อคนเดินเท้า ซึ่งการวางผังเมืองมีส่วนสำคัญเลยทีเดียว แม้อากาศจะร้อน ก็ยังเดินได้สบายและปลอดภัย
เราเดินเลาะถนนไปตามเรื่อย ๆ แฮพพรี่😁😁😁 เดินเลียบแม่น้ำไปไม่นาน ก็มองเห็นโบสถ์อยู่ไม่ไกล ความจริงออกประตูอีกฝั่งนึงของมัสยิดก็เจอโบสถ์อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย..แต่เราออกผิดฝั่ง555😅
แต่ก็ดีนะ ถ้าไม่เดินอ้อมมาทางนี้เราก็คงไม่รู้ว่ามองเห็นโบสถ์จากแม่น้ำได้ด้วย
บางทีจุดหมายปลายทาง มันอาจไม่ต้องเดินเป็นเส้นตรงก็ได้ เดินอ้อมนิดอ้อมหน่อย เราอาจจะเจอจุดหมายเราในมุมอื่นก็ได้ การใช้ชีวิตก็คงเป็นเช่นเดียวกัน
Jakarta Cathedral
เราเดินเข้าใกล้โบสถ์เข้าไปเรื่อย ๆ เห็นโบสถ์อยู่ไม่ไกลแล้ว โบสถ์นี้สร้างมาตั้งร้อยกว่าปีแล้ว ยังคงสวยงามอยู่จนถึงทุกวันนี้ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิค ใครมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้มาชม คนมาถ่ายรูปที่นี่เยอะมากกก ข้างในโบสถ์ก็สวยไม่แพ้ข้างนอกเลย
Jakarta Cathedral
จากตรงนี้ไป ใกล้ ๆ มีอนุสาวรีย์ Irian Jaya liberation Monument เป็นทางผ่านก่อนจะไปถึง MONAS เราว่าพื้นที่ตรงนี้เป็น public space ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เป็นทั้งลานกิจกรรมสำหรับชุมชนเมือง ที่นั่งเล่น ที่ออกกำลังกาย ที่ที่คนมาถ่ายรูป หรือทำกิจกรรมอื่นๆ กัน รวมทั้งกิจกรรมแสง สี เสียง หรืออีเว้นท์ต่าง ๆ ก็ถูกจัดขึ้นที่นี่บ่อยครั้ง
ตอนเย็นมีการประดับไฟสวยงาม ที่สำคัญลานตรงนี้ จัดการพื้นที่เป็นสัดส่วน และลงตัว ด้วยการเล่นระดับ มีลานน้ำพุ พื้นที่สีเขียว พื้นที่จัด exhibition สระน้ำ อัฒจันทร์ และเวทีกลางน้ำ พื้นที่แต่ละส่วนเปิดมุมมองให้เห็นต่อเนื่องกัน เราสามารถมองเห็นกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณนี้เกือบทั้งหมด เราคิดว่า เฮ้ย...ทำดีอ่ะ ไม่เสียเวลาที่แวะมาเลย ถ้ามากับเพื่อน ๆ นั่งจิบเบียร์ตรงนี้ก็ดีเลยทีเดียว555😁
Irian Jaya liberation Monument
เดินชิล นั่งชิลกันพอประมาณแล้ว ได้เวลาไปต่อ เดินเลาะไปตามถนนเช่นเดิม เป็นผู้สาวขาเลาะ555😁
อากาศที่นี่ร้อนสุด ๆ ไม่แพ้บ้านเราเลย และร้านรถเข็นก็เยอะมากเช่นกัน อากาศแบบนี้เราก็หาน้ำหวานเย็น ๆ จากร้านรถเข็นนี่แหละ ชื่นใจ ผู้คนก็มีเสน่ห์ดี เราคุยกับลุงขายน้ำ เค้าบอกว่าเราโชคดีมากที่มาในช่วงปลายปี เพราะที่ MONAS มีการแสดงแสง สี เสียงด้วย ให้อยู่รอดู ทุ่มนึงก็เริ่มแสดง จากตรงนี้เดินไป MONAS ไม่ไกล ต้องรีบเดินแล้ววว
MONAS ก็เป็นอีกหนึ่งที่ ที่เป็น public space คนมาทำกิจกรรมที่นี่เยอะเหมือนกัน และพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากกก มีรถรางให้บริการนักท่องเที่ยว พาชมรอบ MONAS ใครชอบถ่ายรูปแนว landscpae แนะนำให้มาเลย
เราเดินมาถึงทางเข้า MONAS ยังไม่เย็นมาก ด้านหน้าทางเข้ามีรถขนส่งสาธารณะเต็มเลย ทั้งแท็กซี่ รถตู้ สามล้อ รวมไปถึงรถม้า ให้บริการด้วย ในความเจริญของบ้านเมืองก็ยังแอบมีเสน่ห์เล็ก ๆ เหมือนกัน555
เราเดินถ่ายรูปอยู่พักนึง แล้วก็นั่งชมการแสดง แสง สี เสียง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของประเทศอินโดนีเซีย จริงๆ แล้วฟังไม่รู้เรื่องหรอกว่าเสียงบรรยายเค้าว่ายังไง แต่อาศัยดูรูปกับแสง ที่เค้าฉายลงบนตัวหอคอยเอา555 บอกเลยอลังการงานสร้างทั้งแสง สี เสียง ภาษาเลยไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเราตราบใดที่ยังมีรูปภาพ555😅 นั่งดูการแสดงประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเข้าที่พักแถวย่านเมืองเก่า แถวนั้นก็ของกินเพียบบบ!!!
Indonesia national monument
การเดินทางของเรายังไม่จบ ไว้มาเล่าต่อ...😁😁😅
ด้วยรัก
Me and My Sis.
30/12/2020
ติดตามการเดินทางท่องเที่ยวในอินโดนีเซียของเราได้ที่นี่จ้า
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
