Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
"หุ้น" กันมั๊ย!
•
ติดตาม
2 ม.ค. 2021 เวลา 03:34 • ประวัติศาสตร์
จุดเริ่มต้นของดอกไม้ไฟจากจีนสู่ยุโรป 🎆🎇
youtube.com
New Year’s 2020 : Paris Fireworks, France
Counting down to 2020 from Paris, France
เริ่มกันที่ Paris จากคลิปใน VDO กันก่อนครับ...
การจุดดอกไม้ไฟใน Paris เพื่อเฉลิมฉลองคืนส่งท้ายปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่นั้น...ปกติพลุดอกไม้ไฟจะถูกจุดขึ้นเหนือประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe)
ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์สำคัญบนถนน Champs Elysees ที่ชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกปรารถนาที่จะได้เข้าร่วมประสบการณ์นี้สักครั้งในช่วงชีวิต
ส่วนดอกไม้ไฟที่จุดเฉลิมฉลองกันบริเวณหอไอเฟลนั้น จะเป็นการจุดในโอกาสวันชาติฝรั่งเศส และ Bastille Day (14 ก.ค.)
ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุ “ทลายคุกบาสติล” (Storming of the Bastille) ที่คุมขังนักโทษการเมือง และเป็นจุดสิ้นสุดของความเหลื่อมล้ำของชาวฝรั่งเศส พร้อมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution) ด้วย
อีกทั้งถือเป็นวันประกาศอิสรภาพของประชาชนฝรั่งเศสที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของระบอบเก่า ตรงกับสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ซึ่งถูกประหารชีวิตด้วยเครื่องประหารกิโยตินต่อหน้าสาธารณชน หลังจากถูกสภาปฎิวัติทำการไต่สวนและพิพากษาข้อหาโกงชาติ อันเนื่องมาจากความเหลื่อมล้ำ การขูดรีดภาษี และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
*Remark - VDO บันทึกภาพไว้ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2019 เข้าสู่วันที่ 1 ม.ค. 2020
🎇 จุดเริ่มต้นของดอกไม้ไฟจากจีนสู่ยุโรป 🎆
หากจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของดอกไม้ไฟคงต้องย้อนกันยาวไปที่จีนสมัยยุคก่อนคริสตกาลที่มนุษชาติรู้จักดินปืนที่ใช้ในการผลิตพลุ ประทัดจีน หรือดอกไม้ไฟกันเสียอีก
ตอนนั้นจะมีเพียงกระบอกไม้ไผ่ที่ใช้เป็นเชื้อไฟ ที่พอเราโยนมันเข้าไปในกองไฟก็จะเกิดระเบิดมีเสียงดังคล้ายๆ เสียงประทัดจีนที่เรารู้จักกันในยุคสมัยนี้ และด้วยความที่มีเสียงดังจนมนุษย์พากันตกใจและหวาดกลัว ชาวจีนจึงนำมาใช้ขับไล่ภูตผีวิญญาณ
จนมีวิวัฒนาการกันมาเรื่อยๆ และประยุกต์มาเป็นอาวุธทางการทหาร ซึ่งเป็นต้นแบบของพวกปืนใหญ่ ปืนไรเฟิลในปัจจุบัน
จนราวปี ค.ศ. 1200 มาร์โค โปโล นักเดินทางชาวอิตาเลี่ยนกลับจากการตระเวนสำรวจดินแดนเอเชียตะวันออก และเขาได้นำเอาเคล็ดลับการทำดินปืนกลับมาด้วย
Marco Polo / Cr: www.silk-road.com
ขณะที่โรเจอร์ เบคอน ชาวอังกฤษเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ศึกษาและเขียนบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับดินปืนเอาไว้
ด้วยความที่โรเจอร์ เบคอน กังวลว่าเรื่องดินปืนนี้จะถูกพัฒนาไปเป็นอาวุธร้ายแรง และใช้ฆ่าแกงกันในอนาคต เขาจึงเขียนกรรมวิธีทำดินปืนไว้เป็นรหัสลับ ซึ่งนับเป็นร้อยๆ ปีที่ไม่มีใครสามารถถอดรหัสนี้ได้
Roger Bacon / Cr: Getty Images
จนต่อมานักวิทยาศาสตร์ยุโรปคนอื่นๆ ได้คิดค้นทดลองสูตรใหม่ ซึ่งทำให้ดินปืนในช่วง ค.ศ. 1500 มีการระเบิดได้แรงกว่าเดิมด้วยการเพิ่มดินปะสิวเข้าไปในสัดส่วนที่มากขึ้น (ดินปะสิว 75% ถ่าน 15% กำะถัน 10%)
ซึ่งสูตรนี้ที่ผลิตใน ค.ศ. 1550 คือส่วนผสมของสารเคมีเพื่อทำดอกไม้ไฟที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และยังคงใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน
และในที่สุดสิ่งที่โรเจอร์ เบคอน พยายามจะไม่ให้เกิดขึ้นคืออาวุธที่จะทำลายล้างมนุษย์ด้วยกันก็ได้เกิดขึ้นจนได้ เมื่อนักการทหารในยุโรปนำความรู้เรื่องดินปืนและวัตถุระเบิดมาพัฒนาเป็นอาวุธปืนใหญ่ร้ายแรงเพื่อใช้ช่วงชิงอำนาจจากข้าศึกอย่างที่เราเคยเห็นกันในหนังสงครามนั่นแหละครับ
กลับมาที่วิวัฒนาการของดอกไม้ไฟในยุโรปซึ่งเกิดขึ้นช่วงราว ค.ศ. 14-15 ในยุคเรอเนสซองซ์ โดยชาวอิตาเลี่ยนเป็นผู้เริ่มพัฒนาขึ้นด้วยการดัดแปลงเพิ่มโลหะกับถ่านเข้าไปในส่วนผสมที่ใช้ทำจรวด ซึ่งพอมันถูกจุดและปล่อยขึ้นฟ้าไปนั้น ก็จะทำให้เปล่งประกายแสงสีเงินสีทองระยิบระยับเต็มไปทั่วท้องฟ้า
ส่วนฝั่งอังกฤษนำการแสดงดอกไม้ไฟสู่สาธารณชนมากขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งตอนนั้นเริ่มฮิตกันแล้วในยุโรป และแน่นอนมนุษย์ผู้กระหายพลังอำนาจเหนือไฟ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกษัตริย์ในยุคนั้นก็มักอาศัยการแสดงดอกไม้ไฟร่วมในการประกอบพิธีการทางศาสนา งานอภิเษกสมรส และพิธีราชาภิเษก โดยใช้เป็นช่องทางแห่งการสื่อสารอวดอ้างความมั่งคั่ง และพลังอำนาจในยุคนั้น
A hand-color etching of fireworks over the River Thames in 1797, artist unknown / Cr: www.ssec.si.edu
ค.ศ. 1780 การแสดงดอกไม้ไฟไม่ใช่เป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่ถูกจำกัดในราชสำนัก หรือหมู่ชนชั้นสูงเท่านั้น คนทั่วทั้งยุโรปต่างนิยมชมชอบและมาดูการแสดงดอกไม้ไฟในอังกฤษ
ซึ่งตอนนั้นช่างประดิษฐ์ดอกไม้ไฟค้นพบวิธีทำสายชนวนเพื่อจุดดอกไม้ไฟหลายๆ ชุดได้พร้อมกัน รวมถึงสามารถประดิษฐ์และจุดดอกไม้ไฟเป็นรูปทรงต่างๆ เช่นบุคคลสำคัญในราชสำนักได้ด้วย และมันก็ถูกพัฒนาให้มีสีสัน ความสวยงามมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน
🎉🎊🎁 Hope you are doing well and safe. May you have good health, lots of happiness, and a great New Year.
"Happy New Year 2021"
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
About Europe
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย