2 ม.ค. 2021 เวลา 17:29 • ความคิดเห็น
รีวิวปีใหม่
วันแรกของปี 2021 กำลังจะผ่านไปแล้วน้า ขอรีวิววันแรกของปีของเราหน่อย
สำหรับวันนี้ เราตื่นมาเพราะเสียงมือถือปลุกตอน 6.00 น. ท่ามกลางอากาศ 25ํ พร้อมกับอาการ เจ็บหน้าอกข้างขวาเล็กน้อย น่าจะเป็นเพราะไอติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ยิ่งช่วงอากาศเย็นมันก็ยิ่งไอแห้งหนักเข้าไปอีก ตอนนี้หายใจเต็มที่ก็ยังเจ็บ เอาเป็นว่ารักษาสุขภาพนะทุกคน
ปีนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับเราอีกอย่างแน่นอน ปีที่แล้วลำบากลำบนยังไง ปีนี้ก็คงไม่ต่างกัน ด้วยหลาย ๆ สิ่งนั่นคือ โควิด-19 ซีซั่น 2 กลับมาแบบหนักกว่าเดิม แถมมันยังอีโวสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่อีกด้วยนะ บอกตรง ๆ ว่าเรารู้สึกกลัวกว่าซีซั่นแรกที่มันมาอีก
ถัดจากโควิดเดอะซีรีส์ ก็เรื่องงานนี่แหละ ที่น่าเป็นห่วงนัก มีช่วงนึง ที่เรากับทีมเคยต้องทำงานในสภาวะคนไม่พอมาระยะหนึ่ง ซึ่งเอาจริง ๆ มันหนักหนามาก จนเราก็หายใจหายคอกันขึ้นมาได้หลังจากผ่านสภาวะนั้นมาในที่สุด แต่ มันก็กำลังจะกลับมาอีกในปีนี้ ซึ่งเราเองก็พูดตรง ๆ เลยว่าหนนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะทนได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะสภาวะในตอนนั้น กับสถานการณ์ตอนนี้ ความฮาร์ดคอร์มันต่างกันเยอะ
อีกสาเหตุที่เป็นความจริงที่โหดร้าย คืออายุและสังขาร คืออายุมันก็ยังไม่แก่หรอก แต่สังขารเรานี่สิ แค่ 2-3 ปี รู้สึกได้เลยว่าโทรมลงแบบเห็นชัดมาก ๆ เรานะตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลตอนแรกเกิด ก็ไม่มีเหตุให้ต้องไปนอนแอดมิต ใน รพ. เลย ทั้งที่เป็นภูมิแพ้สารพัดสิ่ง ตอนเด็ก ๆ จะเป็นหอบหืด ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นมานานมากแล้ว เป็นช่วงที่รู้สึกว่า เฮ้ย ชั้นแข็งแรงขึ้นล้ะนะ อากาศหนาวก็ทำอะไรชั้นไม่ได้แล้ว ชั้นพร้อมจะเดินหน้าสู่โลกอันสดใส แต่ เหมือนกราฟตกอ่ะ ปีสองปีหลัง ๆ มา เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ หนักสุดคือเป็นชิคุนกุนยา นอนให้ยาอยู่โรงบาล จนเพื่อนตกอกตกใจ มึงเป็นไร อยู่ห้องไหน กุจะหอบผ้าหอบผ่อนไปเยี่ยมมึงเดี๋ยวนี้ !!! แข่งกันโทรหากุสายแทบไหม้ พวกมึงใจเย็น กุยังไม่แอดมิต กุแค่นอนให้ยาแก้ปวด กุกลับบ้านแล้วสบายใจได้
แต่หลังจากหายป่วย ก็รู้สึกว่าสุขภาพไม่แข็งแรงขึ้นอีกเลย ไม่สามารถสะพายโน้ตบุ๊กเครื่องเดิมได้อีกแล้ว ขึ้นบันไดก็เหนื่อยหอบง่าย เดินนาน ๆ ก็ไม่ไหวแล้ว ทั้งที่ก็ขึ้นสะพานลอยทุกวัน แถมเมื่อก่อนเดินจากเยาวราชไปพาหุรัด ก็เดินได้สบาย ๆ มาแล้ว แต่ไอ้ที่ร้ายแรงที่สุดคือ น้ำหนักนี่แหละ ดูเหมือนมันจะขึ้นไม่มีลงเลย เมื่อก่อนเคยตกตะลึงกับเพื่อนเก่าที่กลับมาเจอกันในร่างหมี (กว่าเดิมที่มันก็เป็นอยู่แล้ว) มันว่า น้ำหนักกุเพิ่มมา 20 โลเลยว่ะมึง
บ้าแล้ว!! มึงแดกอะไรเข้าไป ทำไมมันเพิ่มพรวดได้ขนาดนั้นวะ
ตอนนี้ก็ เออ มันก็คงจะแดกเหมือนที่กุแดกเนี่ยแหละ ใครจะไปคิดว่าเราจะมาถึงจุดเดียวกันกะมัน
ตอนเข้างานมาใหม่ ๆ พี่ที่ทำงานเคยบอกว่า พี่อ่ะนะ เดี๋ยวนี้นอนดึก ๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่ไหวแล้ว อายุมันมากขึ้นรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวเลย พวกแกอะ ตอนนี้ยังฟิตกันได้ แต่อีกหน่อยอะจะเป็นเหมือนพี่...
เวลานั้นมันก็คงจะมาถึงแล้วมั้ง แต่ไอ้ที่น่าเศร้าก็คือ อายุของเราตอนนี้ ยังไม่ถึงอายุของพี่แกในตอนนั้นเลยเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้รู้สึกโทรม ทั้งเป็นหวัดนานขึ้น หายยากขึ้น ไอ้อาการไอเป็นอาทิตย์ ๆ นี่ก็ไม่เคยเป็นมาก่อน ซ้ำร้าย ณ ตอนนี้ อยากจะไอก็ไอไม่ได้แล้ว เพราะเจ็บซี่โครง
มันก็หลาย ๆ อย่างทั้งงานด้วย แล้วก็นิสัยเสียส่วนตัว ที่ชอบนอนดึก ๆ ดื่น ๆ แต่พอเข้างานกะ การนอนดึกมันก็อัปเกรดเป็นนอนเช้า นอกจากร่างกายเสีย สติก็เสีย ลืมง่าย สับสนง่าย หนักสุดก็โมโหง่าย จะพาลทำงานพังไปด้วยอีก
นี่ยังไม่รวมการนั่งทั้งวันแล้วเข้าห้องน้ำแค่วันละ 2 ครั้ง ซึ่งอาการแสดงมันก็เริ่มมีมาฟ้องบ้างแล้ว
พูดถึงงานเรา ก็เป็นงานที่สุดยอดนะ ทำที่ไหนก็ได้ สวัสดิการก็ให้ อยากได้ไรก็เบิก ใช้ไอเดียสร้างสรรค์ได้เต็มที่ มันก็ถือว่าดีมาก ช่วงโควิดที่ผ่านมา งานเราถือเป็นไม่กี่อย่างที่ยังรอด
ถึงงานตรงนี้มันก็มีจุดที่เราเพลินไปกับมันอยู่บ้าง แต่ด้วยสถานการณ์มันก็นะ บางทีไอเดียมากมาย แต่เวลาจะให้ทำก็ไม่พอจริง ๆ และเราก็รู้สึกว่า ไม่อยากจะใช้เวลานอกออฟฟิศไทม์เพื่อทำงานอีกแล้ว เพื่อให้ตัวเองได้พัก ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าชีวิตชั้นมันจะอยู่ได้ถึงปีไหน เมื่อก่อนนี้ เรามีเวลานอกออฟฟิศไทม์มากพอจะทำสิ่งที่รัก มากพอจะทำแอนิเมชันไปประกวดได้รางวัลมาแล้วด้วยซ้ำ มากพอจะไปเข้าเวิร์กช็อปเขียนการ์ตูน มากพอจะไปเรียนพากย์เสียง มากพอจะไปเรียน AD ...
ทุกประสบการณ์ที่ได้ไป เราก็ได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ รู้จักคนเก่ง ๆ เรารู้สึกอิสระและโลกของเรากว้างขึ้น และหลังจากนั้น ชีวิตมันก็ต้องเปลี่ยนแปลง เรามีรายได้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็เหมือนชีวิตติดอยู่ในกล่อง แม้ว่าที่ทำงานจะไม่เคยปิดกั้นการเรียนรู้เลย แต่เราจะออกไปใฝ่หาสิ่งที่เราต้องการได้อย่างไร ถ้าเพื่อนในทีมต้องแบกงานแทนเรา...
สุดท้ายมันก็วนมาอยู่ที่เดิม บางทีกลับมาบ้าน นั่งมองกระดาษปอนด์เปล่า ๆ ที่มีเส้นร่างที่ยังไม่เสร็จ หรือกระดาษโน้ตเพลงที่แกะค้างไว้ มันก็เหนื่อยเกินกว่าจะสร้างสรรค์อะไรต่อ พอเวลาผ่านไป ภาพที่อยู่ในหัวมันก็กลายเป็นควัน ไม่มีโอกาสตื่นออกมามีชีวิตชีวานอกหัวสมองของเราได้อีกเลย หรือถ้าไอเดียมันพลุ่งพล่านจริง ๆ ก็ฝืนทำนะ นั่งวาดต่อ ลงสีต่อ สนุกดี พริบตาอีกที เกือบเช้า ต้องเตรียมไปทำงานแล้ว ถึงจะลากสังขารไปทำงานได้ แต่พลังก็ลดอยู่ดี
เป็นมนุษย์มันช่างอ่อนแอ
เป็นอสูรดีกว่ามั้ยนะ เคียวจูโร่ // ผิด!!!
เอาละแต่ถึงชีวิตมันจะอึดอัดยังไง มันก็มาหยุดความเบียวที่ไม่สิ้นสุดของชั้นไม่ได้อยู่ดี อย่างที่บอก เพราะรายได้มากขึ้น ก็เลยทำให้สั่งของไร้สาระที่ไม่ค่อยมีประโยชน์มาเล่นได้อยู่เรื่อย ๆ ล่าสุดเนื่องจากไปติดอนิเมะเข้าเรื่องนึง ก็เลยตะบี้ตะบันสั่งของเล่นไปเป็นสิบ ตระเวนหาซื้อแฟนบุ๊กมาจนได้ (ซึ่งจากการซื้อครั้งนั้น ก็ทำให้รู้ว่า สายตาเริ่มเสื่อมแล้ว เพราะเริ่มรู้สึกว่าเพ่งตัวหนังสือเล็ก ๆ ได้ลำบาก ) เมื่อต้นปีก็ติดซีรีส์จีน ก่อนโควิด-19 จะมา มีคอนจีน ก็ไหว้วานให้พี่ที่มงานกดบัตรให้จนได้ จะมีมีตติงวันไหนก็อดตาหลับขับตานอนทำของแจก บ้าบอชะมัดเลยกุ
สรุปเรื่องราวปีที่ผ่านมา เคยเขียนเป้าหมายของปีใหม่เอาไว้ และในปี 2020 เราก็ทำสำเร็จ....
ไม่ได้สักข้อเลย
เพราะงั้นปีนี้ชั้นก็เลยไม่ได้เขียนเป้าหมายปีใหม่อะไรทั้งนั้น เพราะลืมด้วย แล้วก็ทำงานด้วยแหละ ในหัวมีแต่ กุทำงานมั้ยวะวันนี้ งานกุหมดยังนะ ยังเหลือไรอีกมั้ยนะ
เพราะงั้นก็เลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับปีใหม่ แถมยังเข้านอนตั้งแต่ห้าทุ่ม เพราะอยากนอนซุกผ้าห่มอุ่น ๆ จะได้พ้นทุกข์จากการไอจนเจ็บซี่โครงสักที
หวังว่าทุกคนจะมีความสุข สุขภาพดี ไม่ติดโควิด และไม่ไอจนเจ็บซี่นะ แฮปปี้้นิวเยียร์
รูปแรกของปีนี้
โฆษณา