Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ท่องไป ในโลกกว้าง
•
ติดตาม
3 ม.ค. 2021 เวลา 08:45 • ไลฟ์สไตล์
ชากับประวัติศาสตร์โลก ตอนจบ
ดื่มชาอย่างผู้ดีอังกฤษ
Afternoon Tea
จากตอนที่แล้วที่ได้เล่าเรื่องการเดินทางของชาจากต้นกำเนิดในฝั่งเอเชียไปสู่โลกตะวันตก และได้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวตะวันตกนั้น แต่ละชาติก็ได้พัฒนาวัฒนธรรมการดื่มชาขอตนเองขึ้นมาตามลำดับรวมถึงประเทศอังกฤษ
วัฒนธรรมการดื่มชาของประเทศอังกฤษส่งอิทธิพลต่อหลายราชสำนักในยุโรปเนื่องจากในขณะนั้นเองเป็นยุคจักรวรรดินิยม และอังกฤษเองก็เป็นชาติมหาอำนาจในยุคนั้น
หากจะถามว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดของการดื่มชาในประเทศอังกฤษ
แน่นอนคนแต่ละยุคดื่มชาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
ในยุคแรกๆช่วงปี ค.ศ.1650 (พ.ศ. 2193) เป็นต้นมา ใบชาที่ชาวอังกฤษรู้จักนั้นเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีมูลค่า เป็นของแพงที่เข้าถึงยาก การเก็บรักษาใบชาในยุคนั้น ถึงกับต้องปิดล็อกกุญแจไว้อย่างมิดชิด
1
ดังนั้น การดื่มชาในยุคนั้นจึงเป็นเรื่องเฉพาะแค่ชนชั้นสูง ส่วนร้านนอกบ้านที่ขายชาเแบบ coffee house ก็มีจำหน่ายเป็นเครื่องดื่ม แต่ก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่มีราคาสูงอยู่ดี
ในเวลาต่อมา เมื่ออังกฤษครอบครองอินเดียได้สำเร็จ และได้มีการปลูกใบชาในแคว้นอัสสัม ผลผลิตก็ถูกส่งเข้าอังกฤษอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มากขึ้นทำให้ใบชากลายเป็นสินค้าที่ราคาถูกลงและพอจะหาซื้อมาดื่มได้กว้างขวางขึ้น และใบชาเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถแอน (Queen Anne) ได้มีพระราชประสงค์ให้ถือปฏิบัติว่าทุกๆมื้อในอาหารเช้าจะต้องมาชาเป็นเครื่องดื่มเสมอ ซึ่งตรงนี้จึงกลายเป็นการดื่มชาพร้อมกับอาหารในสังคมอังกฤษ
สมเด็จพระราชินีนาถแอน (Queen Anne)
ถึงแม้ว่าในช่วงต้นผู้ชายจะมีโอกาสได้ดื่มชามากกว่าผู้หญิง แต่นอกจากสมเด็จพระราชินีนาถแอน (Queen Anne) แล้ว ก็ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อวัฒนธรรมการดื่มชาของอังกฤษ นั่นก็คือ Dutchess of Bedford
Duchess of Bedford ให้ความสำคัญต่อการดื่มชาและเป็นอีกหนึ่งผู้สร้างวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวตะวันตกให้แตกต่างจากการดื่มชาของชาวตะวันออก
เหตุผลแรกคนอังกฤษในยุคนั้นซึ่งตรงกับสมัยของ Duchess of Bedford ในช่วงศตวรรษที่ 19 หรือเรามักเรียกกันว่ายุควิคตอเรียน มักมีมื้ออาหารเย็นที่ค่อนค้างดึก ในขณะที่อาหารมื้อกลางวันนั้นจะทานรวมกับมื้อเช้าในช่วงสายๆของวันที่เรียกว่า brunch ดังนั้นระหว่างมื้อทั้งสองจึงต้องมีอาหารให้อุ่นท้องบ้าง
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือการดื่มชาจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ของเหล่าชนชั้นสูง เกิดการพบปะพูดคุยกาันชองคนในสังคมได้สอบถามถึงสารทุกข์สุขดิบรวมถึงเป็นโอกาสให้ชายหญิงได้พบปะพูดคุยกันด้วย
ตามแนวคิดของคนในยุควิคตอเรียนคือเน้นความหรูหรา สวยงาม ในการดื่มชาจึงไม่ใช่แค่การละเมียดชาอย่างสงบอย่างวัฒนธรรมเอเชีย แต่กลับเป็นงานสังคมที่ต้องเพรียบพร้อมตั้งแต่เรื่องของใบชา ขนม และความหลากหลาย ซึ่งแน่นอนต้องมีเรื่องของรสชาติ การจัดแต่งสถานที่ การนำอุปกรณที่เหมาะสมที่บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้าน ดังนั้นบ้านที่เป็นเจ้าภาพก็จะตระเตรียมทุกอย่างให้พร้อมที่สุด ดีที่สุดเพื่อสร้างบรรยากาศอันดีในการดื่มชา
หากเปรียบเทียบการดื่มชาระหว่างยุโรปกับเอเชียจะเห็นได้ว่าบรรยายกาศการดื่มชาจะแตกต่างกัน ในฝั่งของยุโรปนั้นจะเน้นที่ความสนุก ในขณะที่ฝั่งเอเชียจะเน้นที่ความสงบ แต่ทั้งนี้ ชาก็เป็นตัวกลางเชื่อมสังคม การพูดคุยต่างๆระหว่างการดื่มชานั้น เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วทั้งโลก
ในฝั่งของอังกฤษ มีการจัด afternoon tea ซึ่งโต๊ะที่ใช้ในการจัดนั้นจะเป็นโต๊ะเตี้ยหน้าแคบ ความสูงของโต๊ะจะไม่เหมือนโต๊ะรับประทานอาหาร(ประมาณโต๊ะรับแขก) เพื่อให้ได้บรรยากาศใกล้ชิดระหว่างสนทนา ส่วนของเจ้าภาพเองก็จะสร้างสรรค์ประดิษฐ์ขนมใหม่ๆขึ้นมาเพื่อที่จะมาเป็นอาหารค้างเคียงน้ำชา
โต๊ะดื่มชายามบ่าย
ในวันที่อากาศดี ชาวอังกฤษจะตั้งโต๊ะชาในสวนที่บ้านเพื่อให้ได้บรรยากาศของธรรมชาติและแสงแดด และช่วงที่แดดดีคือช่วงบ่ายๆกอปรกับเป็นช่วงที่ว่างจากการรับประทานอาหารจากมื้อเช้ารวมกับมื้อเที่ยงจึงเป็นที่มาของการถือกำเนิดวัฒนธรรมการดื่มชายามบ่าย หรือ afternoon tea
ในส่วนของเครื่องเคียงชา หรือขนมนั้นก็มีมากมายทั้ง ขนมเค้กชิ้นเล็ก แซนวิชบาง บิสกิต ผลไม้ เนย แยมต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือสโคน (Scone) ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงน้ำชาของใครก็ตาม เนื่องจากสโคนเป็นขนมอบที่ทำจากแป้งสาลีธรรมดา หาได้ง่าย ราคาถูกและกินแล้วหนักท้อง เราจึงเห็นได้ว่าแม้ในปัจจุบันเวลาที่เราไปจิบชายามบ่าย สโคนก็ยังถูกเสิร์ฟมาเป็นขนมเครื่องเคียงเสมอ
หากชอบบทความนี้สามารถให้กำลังใจโดยการกดติดตามเพจ กดไลค์ กดแชร์ได้ที่นี่ครับ
https://www.blockdit.com/pages/5feda1fc15142f0ae51ea42c
References:
1.
www.tea.co.uk
2. Fieldhouse, P(1998) : Food & Nutrition : Customer & Culture. Nelson Thornes Ltd
3. Mennell, S (1985) : All manners of food : eating and taste in England and France from the Middle Age to the present. Oxford : Blackwell.
4.
https://www.historyextra.com/period/stuart/queen-anne-feuding-favourites-women-olivia-colman/
5.
https://www.watercolour-artist.co.uk/farmanimalpaintings-afternoon-tea.html
6.
https://jamarattigan.com/2014/03/04/arttea-40-favorite-tea-paintings/
3 บันทึก
13
9
9
3
13
9
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย