พวกคุณรู้จักคำว่า Rabbit Holes Mysteries กันไหมครับ?
ปริศนาความลี้ลับเหมือนกับการที่เราดำดิ่งลงไปในโพรงกระต่ายในนิทานเรื่อง Alice in Wonderland
เป็นคำแสลง หมายถึงปริศนา หรือสิ่งผิดปกติในเรื่องราวที่มันแปลกประหลาดในการหาคำตอบ และยิ่งเราพยายามหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ เรากลับยิ่งได้คำถามมากขึ้นเท่านั้น
.
ในบทความนี้ ผมจะพาไปดูคดีฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมคดีหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เป็นการฆ่าทั้งครอบครัว ในที่เกิดเหตุคนร้ายก็ได้ทิ้งหลักฐานระบุตัวไว้อย่างมากมาย แต่ไม่น่าเชื่อว่า ประเทศที่มีอัตราการไขคดีฆาตกรรมสูงถึง 96% จะไม่สามารถปิดคดีนี้และระบุตัวหาคนร้ายได้จนถึงปัจจุบัน
.
ปริศนาคดีสังหารโหดแห่งเซตะงะยะ
.
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2000 เป็นวันธรรมดาๆ ที่ครอบครัวมิยาซาวะ ที่อาศัยในย่านเซตะงะยะ กรุงโตเกียว ใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุขเหมือนทุกๆ วัน
.
ครอบครัวมิยาซาวะ ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ คุณพ่อ มิคิโอะ ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้บริษัท คุณแม่ ยาสุโกะ เป็นคุณครู ลูกสาวคนโต นีนะ อายุ 8 ขวบ และลูกชายคนเล็ก เรย์ อายุ 6 ขวบ ครอบครัวธรรมดาๆ ที่ดูอบอุ่นนี้ ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าวันต่อมา จะถูกสังหารหมู่อย่างโหดเหี้ยม
.
บ้านของครอบครัวมิยาซาวะจะค่อนข้างอยู่อย่างสันโดษ อยู๋ในซอยลึกๆ ห่างจากเพื่อนบ้านพอสมควร และถนนหนทางที่เข้าไปยังตัวบ้านก็ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่ สาเหตุก็เพราะว่าหมู่บ้านในเขตนั้นกำลังมีลานสเกตบอร์ดสร้างใหม่ ทำให้หลายๆ ครอบครัวย้ายออกจากที่แห่งนั้นไป จนเมื่อประมาณปลายปี 2000 ย่านนั้นก็มีบ้านผู้อยู่อาศัยเพียงแค่ 4 หลังคาเรือน ทำให้ครอบครัวมิยาซาวะเองก็วางแผนที่จะย้ายบ้านเหมือนกัน
.
มาดูช่วงเวลา ไทม์ไลน์ของสมาชิกครอบครัวมิยาซาวะ ก่อนเกิดการสังหารหมู่ขึ้นว่า แต่ละคน กำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง
.
เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ดูเหมือนว่าทั้งครอบครัวจะพากันไปช็อปปิ้งซื้อของ และกลับบ้านมาประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งยาสุโกะเองก็ได้เรียกแม่ของเธอให้มาที่บ้านด้วย (แม่ยาสุโกะอาศัยอยู่บ้านข้างๆ)
ลูกสาวคนโต นีนะ ก็ไปนั่งเล่นกับคุณยาย เล่นคอมจนถึงประมาณ 3 ทุ่ม 38 นาที
เวลาประมาณ 4 ทุ่ม 10 นาที ทุกคนในครอบครัวอยู่ที่บ้าน ที่คอมของคุณพ่อมิคิโอะก็ได้รับอีเมลปริศนาฉบับหนึ่งที่ต้องใช้รหัสผ่านในการเปิดอ่าน และนี่ก็เป็นข้อมูลทั้งหมดที่เรารู้ในขณะที่ครอบครัวนี้ยังมีชีวิตอยู่
.
บ้านของครอบครัวมิยาซาวะ เป็นบ้านสองชั้นที่มีรั้วเหล็กดัดหลังบ้าน มันสูงพอที่จะให้คนปีนขึ้นแล้วเข้ามาทางห้องน้ำตรงชั้นที่สองของบ้าน ซึ่งคนร้ายก็ได้เข้ามาในบ้านกลางดึกด้วยวิธีนี้ โดยใช้มีดทำซาชิมิค่อยๆ แง้มหน้าต่างเข้ามา
.
หลังจากที่คนร้ายได้ย่องเข้ามาในบ้าน เขาก็ได้ค่อยๆ เข้ามายังห้องนอนของหนูน้อย เรย์ ที่อยู่ชั้นสอง และรัดคอของเด็กน้อยวัย 6 ขวบจนขาดใจตายคาเตียงนอน ทำให้คุณพ่อมิคิโอะ ที่กำลังทำงานอยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงแปลกๆ จากชั้นสอง
.
มิคิโอะได้เดินขึ้นมาเพื่อหาต้นตอของเสียงนั้น แต่สิ่งที่พบเจอก็คือตัวคนร้ายซึ่งๆ หน้า มีการต่อสู้กันขึ้นเล็กน้อย แต่จบลงด้วยการที่มิคิโอะ ถูกมีดซาชิมิเสียบเข้าไปแล้วกลิ้งตกบันไดลงมายังชั้นล่างของบ้าน
.
หลังจากฆ๋าไปสองศพ คนร้ายก็ยังไม่รู้สึกพอใจและก็หาเหยื่อในบ้านต่อ และเขาก็เห็นบันไดเล็กๆ ที่สามารถปีนขึ้นไปยังห้องใต้หลังคาของบ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนของนีนะ กับคุณแม่ของเธอที่กำลังนอนหลับอยู่
.
แต่ด้วยเสียงอึกทึกจากการฆ่าสองศพไปก่อนหน้า ทำให้คุณแม่และเด็กน้อยที่นอนอยู่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
.
เมื่อคนร้ายขึ้นมาบนห้องนอนได้ ก็พยายามเข้าทำร้ายทั้งสองคน แต่ด้วยมีดซาชิมิที่หักไปจากการต่อสู้กับคุณพ่อเมื่อสักครู่ ทั้งนีนะและยาสุโกะแม้จะบาดเจ็บหนักแต่ก็ยังไม่ตายทันที
.
ตัวคนร้ายเองไม่สามารถฆ่าคนด้วยมีดทื่อๆ ได้ ก็ยังจะมีความใจเย็น ลงไปยังชั้นล่างและหยิบมีดทำครัวเล่มใหม่มา หวังจะสังหารแม่ลูกที่ยังมีชีวิตอยู่ ในขณะเดียวกันนั้นเอง ดูเหมือนว่าคุณแม่ยาสุโกะก็พยายามจะรักษาแผลของตัวเองและลูก ทำให้ตอนพบศพ ตำรวจก็ได้พบกับกล่องปฐมพยาบาลอยู่ข้างๆ
.
ทั้งสองแม่ลูกแม้จะบาดเจ็บหนัก แต่ก็พยายามซ่อนตัวไม่ให้คนร้ายพบ พวกเขาคงจะพยายามหาทางขอความช่วยเหลือ แต่อนิจา ที่ตัวคนร้ายเองก็เหมือนมีการเตรียมการมาดี เพราะสายโทรศัพท์ในบ้านถูกตัดจนติดต่อข้างนอกไม่ได้
.
เมื่อคนร้ายหยิบมีดเล่มใหม่และกลับขึ้นมาบนห้องนอนชั้นใต้หลังคา เขาก็ได้ทำการฆ่าสองแม่ลูกอย่างโหดเหี้ยมกว่าที่ทำกับสองพ่อลูกก่อนหน้านี้ โดยศพของยาสุโกะ และนีนะ มีรอยแผลทั้งถูกฟันและถูกแทงจนพรุนหลายแผล แม้ว่าทั้งคู่จะตายไปแล้วคนร้ายก็ยังคงแทงศพด้วยมีดซ้ำแล้วซ้ำอีก นักจิตวิทยาที่ได้เข้ามาวิเคราะห์คดีนี้ให้ความเห็นว่า ที่คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมแบบนี้เป็นเพราะว่า ชีวิตเขาอาจจะมีปัญหากับผู้หญิงก็เป็นได้
.
ในระหว่างการสังหารหมู่ ดูเหมือนว่าคนร้ายเองก็จะไดรับบาดเจ็บ เพราะภายหลังตำรวจก็ได้พบกับผ้าพันแผลที่เต็มไปด้วยเลือดของคนร้ายในจุดเกิดเหตุ
.
ดูเหมือนว่าคดีนี้โหดเหี้ยมและฟังดูดาร์คมาก แต่มันยังดาร์คไม่พอ เพราะเมื่อเราพบกับหลักฐานต่างๆ ที่ได้ในจุดเกิดเหตุ มันทำให้เรารับรู้ถึงความจิตวิปริตของฆาตกรที่ยากเกินกว่าเราจะเข้าใจ
.
(ขอเรียกคนร้ายว่าไอ้โรคจิต) หลังจากที่ไอ้โรคจิตนี้ได้ฆ่ายกครัวไปแล้ว แทนที่จะหนีออกไป กลับอาศัยในบ้านอย่างหน้าตาเฉย ทำเหมือนกับเป็นบ้านตัวเองแบบชิลๆ เดินสำรวจบ้าน ทำแผลให้ตัวเอง เข้าครัวไปหาอะไรกินอย่างหน้าตาเฉย
.
ชิลขนาดที่ว่า หาอะไรกินในตู้เย็น เช่น ไอติม กินเมล่อน แล้วเอากระดาษห่อทิ้งลงถังขยะที่มีอยู่รอบๆ บ้านๆ แล้วก็เข้าไปนั่งเล่นคอมของคุณพ่อมิคิโอะในห้อง โดยมีหลักฐาน เป็นประวัติการท่องเว็บของคนร้าย เขาพยามที่จะจองตั๋วหนังตอนเวลาตี 1.18 น.
.
หลังจากนั้นดูเหมือนว่า เขาพยายามค้นหาข้อมูล เอกสารต่างๆ ของครอบครัวนี้ภายในบ้าน เช่นสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต ใบขับขี่ แต่พฤติกรรมของเขาแปลกมาก เพราะเขารวบรวมเอกสารสิ่งต่างๆ เหล่านี้มา แล้วโยนเข้าไปกองๆ ไว้ในอ่างน้ำในห้องน้ำของบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์บางอย่างของตัวฆาตกรเองเราก็ไม่อาจจะรู้ได้
.
ความประสาทยังไม่หมด ไอ้โรคจิตนี้พอเข้าห้องน้ำ ทั้งถ่ายหนักถ่ายเบา ก็ไม่กดชักโครก แล้วก็นอนพักในบ้านบนโซฟาทั้งๆ ที่มีศพอยู่รอบบ้าน จนถึงตอนเช้าเขาก็ยังไม่ออกจากบ้าน เพราะมีประวัติการใช้งานเว็บไซต์ตอน 10 โมง 5 นาที โดยรอยนิ้วมือของคนร้ายถูกพบอยู่รอบๆ คอมพิวเตอร์ ทั้งคีย์บอร์ดและเมาส์ หลังจากที่เขาเล่นคอมเสร็จ ก็กระชากสายไฟของคอมออกหมด และก็ออกจากบ้านไป
.
สิ่งเดียวที่คนร้ายนำติดมือไปก็คือเสื้อกันหนาวเก่าๆ เพียง 1 ตัว
.
ที่น่าสนใจก็คือ ก่อนออกจากบ้าน คนร้ายได้ทิ้งของหลายอย่างเอาไว้ในที่เกิดเหตุ
.
ในขณะเกิดเหตุช่วงต้นๆ เขาได้เปลี่ยนชุดของเขา และทิ้งชุดตัวเดิมที่ใส่มาไว้ในบ้าน โดยมีรองเท้าผ้าใบแบรนด์ของเกาหลี เสื้อแจ็คเก็ต หมวก ผ้าเช็ดหน้า กระเป๋าคาดเอว ถุงมือกันหนาว และผ้าพันคอ ที่เขาได้ทิ้งเอาไว้
.
จากหลักฐานที่ได้ ทำให้เราสันนิษฐานรูปร่างของคนร้ายได้ โดยคนร้ายสูงประมาณ 170 เซ็นติเมตร และ DNA ของคนร้ายที่ได้จากจุดเกิดเหตุ ระบุได้ว่าคนร้ายเป็นลูกครึ่งยุโรปตอนใต้ และครึ่งเอเชียตะวันออก
.
หลักฐานชิ้นต่อมาก็คือ กลิ่นโคโลญที่คนร้ายใช้ โดยเขาได้ใช้กลิ่น Drakkar Noir (ดราคาร์นัวร์) ยี่ห้อ Guy Laroche (กีลาโรช) ซึ่งเป็นน้ำหอมที่นิยมกันในหมู่คนเล่นสเก็ตบอร์ด
.
การที่เขาทิ้งหลักฐานไว้ขนาดนี้ ดูเหมือนว่าคนร้ายจะไม่สนใจและไม่กังวลเลยว่าเขาจะโดนจับ เหมือนกับเขารู้สึกว่า ไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้
.
อ่านมาถึงตรงนี้พวกคุณคงคิดว่า หลักฐานตามตัวเยอะมาก คนร้ายคงถูกจับเขาคุกไปเรียบร้อยในเวลาไม่นานแน่ๆ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ประเทศที่คดีฆาตกรรมกว่า 96% ถูกไข คนร้ายถูกจับยัดคุก แต่เปล่าเลย ในคดีนี้จนถึงปัจจุบัน ทางตำรวจก็ไม่สามารถหา หรือระบุตัวคนร้ายได้เลย
.
ความแปลกประหลาดที่ทิ้งเป็นปริศนาคาใจจนชวนขนลุกของคดีนี้ ที่จะนำพาเราดำดิ่งสู่โพรงกระต่ายก็คือ ในกระเป๋าคาดเอวที่คนร้ายทิ้งไว้ในจุดเกิดเหตุ มีทรายจำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋านั้น
.
ทราย สามารถวิเคราะห์แหล่งที่มาของมันได้ และสิ่งที่แปลกก็คือ ทรายนี้ มาจากประเทศอเมริกา รัฐแคลิฟอร์เนีย
.
ทรายนี้ไม่ได้มาจากหน้าบ้านของใครบางคน หรือในสนามเด็กเล่น แต่ทรายนี้มาจาก ฐานทัพอากาศ Edwards ของสหรัฐอเมริกาที่ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย
.
ปริศนาในจุดนี้เอง ทำให้ผู้คนที่ติดตามคดีนี้เกิดความสงสัยว่า ฆาตกรไปทำอะไรที่ฐานทัพอากาศของอเมริกา? ถ้าเขาเป็นคนของกองทัพอากาศจริง ทำไมผลตรวจ DNA ถึงไม่ตรงกับใครที่อยู่ที่นั่นได้เลย แถมรอยนิ้วมือก็ยังไม่มีข้อมูลไหนบันทึกไว้อีก?
.
บางทีฆาตกรเองอาจจะเป็นนักท่องเที่ยวก็ได้ เพราะเขาเองก็ใส่รองเท้าจากเกาหลี และได้ทรายจากการไปเที่ยวอเมริกา แต่เราลองคิดดูดีๆ ว่า ถ้าคนร้ายเป็นนักท่องเที่ยวจริง จะต้องถูกบันทึกลายนิ้วมือไว้ตอนเข้าประเทศมาก่อนอยู่แล้วใช่ไหม แต่ทำไมเรามีข้อมูลรอยนิ้วมือคนร้ายแต่ไม่สามารถหาตัวเขาได้เลย?
.
วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2000 หกชั่วโมงหลังจากศพของครอบครัวถูกพบโดยคุณแม่ของยาสุโกะ ห่างจากบ้านของครอบครัวมิยาซาวะประมาณ 120 กม. ได้มีชายคนหนึ่งได้รับการรักษาจากแผลมีดบาดลึกที่สถานีรถไฟโทบุนิกโกะ ดูเหมือนว่ามีดบาดมือของเขาลึกมากจนเห็นกระดูก
.
หลังจากชายปริศนาได้รับการรักษา เขาก็ได้หายตัวไป ไม่ได้บอกชื่อแซ่ หรืออธิบายว่าได้แผลมายังไง และเขาก็ไม่เคยถูกพบเห็นอีกเลย
.
กว่า 20 ปีแล้วที่ทางเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถหาเบาะแส หรือตามจับคนร้ายในคดีนี้ ปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นปริศนารอวันไขต่อไป
.
.
บอกเลยว่า ยิ่งหาข้อมูล ยิ่งเขียนเรื่องนี้ไป โดยเฉพาะช่วงท้ายนี่ขนลุกซู่เลยล่ะครับ เพราะมันมีปริศนาที่ไม่ว่าเราจะคิดถึงความเป็นไปได้ยังไงก็คิดไม่ออก แล้วคุณผู้อ่านคิดว่าคดีนี้เป็นอย่างไรบ้าง คอมเมนต์พูดคุยกันได้นะครับ
.
ชอบเรื่องราวแบบนี้กันไหมครับ ถ้าชอบล่ะก็ อย่าลืมสนับสนุนได้ง่ายๆ ด้วยการกด Like กด Share และกดติดตามเพจไว้ด้วย
.
พบกับเรื่องราวลึกลับจากทั่วโลก คดีแปลกๆ ปริศนาชวนขนหัวลุกที่ไม่ได้รับการไข และอื่นๆ อีกมากมายได้ที่เพจ Ordinary Mystery ปริศนาธรรมดาๆ ในโลกที่ไม่ธรรมดา
.
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด
สามารถสนับสนุนผู้เขียนเป็นค่าข้าวได้ที่
.
พร้อมเพย์ - True Money
0972217753
อนิรุทธ์ เสริมสุข
.
เลขบัญชี 328-2-96012-3
ธนาคารทหารไทย TMB
อนิรุทธ์ เสริมสุข
Anirut Sermsuk
.
ขอบคุณทุกการสนับสนุนนะครับ
ถ้าหากข้อมูลผิดพลาดตรงไหน เรียบเรียงไม่ดียังไง
คอมเมนต์ติชมได้ และจะน้อมรับไปปรับปรุงนะครับ