6 ม.ค. 2021 เวลา 13:32 • ท่องเที่ยว
รีวิวการไปเที่ยว"หอศิลป์"คนเดียว
เริ่มแรกเลยคือเรามาทำธุระกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วคือด้วยความที่มันน่าเบื่อมากๆๆ เราก็เลยขอพ่อกับแม่เราออกมา โดยกำเงินไป500บาทก็คือขอพ่อแม่200บาทที่เหลือก็คือเงินเรา300บาทเท่านั้นเอง จริงก็คือเยอะไปด้วยซ้ำ
เริ่มแรกเลยเราเดินออกมาจากบริษัทที่แม่เรามาทำธุระเพื่อเรียกGradตรงหน้าแวนเทจคอนโด เพื่อที่จะไป mrt พหลโยธิน โดยค่าGradอยู่ที่ 71 บาทเท่านั้นเอง!! แต่ๆๆเรายังได้ส่วนลดจากการตัดจ่ายผ่านบัตรเครดิตครั้งแรกอีก จนลดเหลือแค่ 51 บาทอ่ะแกถูกมาก!!! และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ พี่Gradก็น่ารักมากน่ารักไม่ไหว พูดจาดีบริการเริศ เรานี่กดให้5ดาวเต็มไปเลยยยจ้าา ปล.แอร์ร้อนไปนิดนึง
อ่ะต่อๆ หลังจากถึง MRT พหลโยธิน เราก็นั่งจาก MRT พหลโยธิน ต่อไปยัง MRT สุขุมวิท จริงๆจะขึ้น BTS ก็ได้นะทุกคน วิธีก็คือ ขึ้น BTS ตรงห้าแยกลาดพร้าว ไปลง BTS สนามกีฬา ก์คือสุดทาง ก็คือจะถึงหอศิลป์เลย ค่าใช้จ่ายก็จะไล่ๆกันไม่แพงมาก แต่ที่เรานั่งMRTมาก็จะแค่ 33 บาทเท่านั้นเอง!! ถูกและสะดวกมากๆๆ
1
อ่ะหลังจากที่เรามาถึง MRT สุขุมวิท ในการเดินทางจากพหลโยธินมาสุขุมวิท ก็จะใช้เวชาประมาณ 5-10 นาที เท่านั้นเองถ้าจำไม่ผิด หลังจากนั้นเราก็เดินต่อไปเพื่อจะไปขึ้น bts อโศก เพื่อจะต่อไปสถานี สยาม เอาง่ายๆคือถ้าขึ้น BTS ตั้งแต่แรกก็จะง่ายกว่านี้แต่เราดันชอบอะไรยากๆไง อ่ะต่อ ค่าใช้จ่ายในการนั่งไปก็แค่ 30บาท เท่านั้นเอง ถูกแบบสุดๆ ก็ใช้เวลาแปปเดียวก็ถึงสถานีสยามเป็นที่เรียบร้อย แล้วเราก็เดินลงไปที่สยามเพื่อที่จะหาอะไรทานก่อนแล้วพอทานข้าวเสร็จสับเราก็เดินออกมาเพื่อจะเดินตัดไปที่สกายวอร์คที่เชื่อมระหว่าง MBK หอศิลป์ และ สยาม ใช้เวลาเดินอยู่พักนึงเพราะแอบหลงทางนิดหน่อย และสุดท้ายมาถึงจนได้!! เย้! ปล.ร้อนมากคือเหนื่อยออกหนักมาก
ต่อ ชั้น1 วินาทีที่เราเปิดประตูเข้าไปคือ บรรยากาศตั้งแต่ก้าวเท้าเก้าแรกเข้าไปก็คือดีมาก ที่สำคัญก็คือมีมารตราการ การรักษาความปลอดภัยอย่างดี และก็ยังมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าด้วย ก็คือไม่ต้องห่วงเรื่องไวรัสโควิด-19เลย หลังจากเดินเข้ามาที่แรกที่เราจะเข้าไปดูก็คือกล่องสีเหลี่ยมสีดำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเราเลย ด้านหน้าทางเข้ากล่องจะมีพี่ที่เป็นพนังงานยืนรอเพื่อจำกัดจำนวนคนเข้าไปอยู่ และส่วนด้านในถ้าทุกคนอยากรู้ว่าคืออะไรก็ไปดูกันเองเองนะ55555
ต่อมาเราก็เดินขึ้นบรรไดเลื่อนมาเพื่อขึ้นมาชั้นสอง นิทรรศการที่จัดอยู่ตอนที่เราไปน่าจะเป็นประเภทการออกแบบที่พักอาศัยในอนาคต อะไรประมาณนี้ ก็จะมาโมเดลที่พักอาศัยจำพวกคอนโดอพาทเม้นต์เยอะมาก และก็คือเดินต่อไปไปเลื่อยๆเพลินมากๆๆเลย
ต่อ ปล.ด้วยความที่เรามาคนเดียว ก็คือมันวังเวงมาก เหงามาก แต่จริงๆก็ทำให้รู้ว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น อย่างมากก็แค่เหงาเอง เอาจริงการมาหอศิลป์คนเดียวในครั้งนี้ของเรา ทำให้เราได้คิดอะไรหลายๆอย่างเลยนะในขณะที่เราเดินอยู่ ได้คิดถึงสมัยเด็ก ได้คิดถึงอดีตที่เราเคยทำมา ได้คิดถึงช่วงเวลาเก่าที่เราได้เคยผ่านมันมา ได้เรียนรู้ตัวเองไปด้วยพร่างๆ เดี๋ยวนะเศร้าได้ไงเนี่ย!! ไปต่อทุกคน!! ก็คือหอศิลป์มีทั้งหมด9ชั้นถ้าจำไม่ผิด!!! เดินคิดเดินดูไปเลยแบบจุกๆ และด้วยความที่เรามาคนเดียวอย่างที่บอก แอดมองไปรอบข้างก็คือทุกคนมาเป็นคู่เป็นกลุ่มกันเกือบหมด แต่แอดมาคนเดียวอย่างที่บอก ก็คือวังเวงมากๆ ความรู้สึกตอนเดินอยู่ในนั้นคือ เหงาและเคว้งคว้างมากๆ เดี๋ยววนกลับมาที่เดิมรึเปล่า5555 แต่คือเราก็ยังไม่ย้อท้อ เดินต่อไปตั้งแต่ชั้นแรกยันชั้นบนสุด และเราขอทิ้งท้ายไว้ว่างานศิลปะทุกอย่างในนั้นคือสวยและดีมาก และการไปในครั้งนี้คือทำให้รู้เลยว่าศิลปะคือทุกอย่างคือที่สิ่งรอบตัวเราเลยจริงๆ คือศิปปะไม่มีคำมาจำกัดความว่าต้องเป็นแบบนี้นะต้องเป็นแบบนั้นนะ คือมันเป็นศิปปะได้ทุกอย่างจริงการที่เราถ่ายรูปท้องฟ้าก็คือศิปปะการที่เราทำสีหกก็คือศิปปะ สำหรัลเด็กศิลป์ศิปปะก็คือทุกอย่างไม่มีถูกไม่มีผิด แต่อยู่ที่ว่าอาจารย์ถูกใจรึเปล่าแค่นั้น55555 และอยากจะบอกว่าเราได้ส้อยกระเป๋ามา1ใบคือน่ารักมากๆ แล้วราคาถูกมากเริ่มต้นที่ 100-150 เองทุกคน
จบแล้ววว ไม่รู้จะงงกันไหม55555 อย่าลืมไปกันเยอๆนะ อย่าลืมอ่าน ปล.ข้างล่าง
ปล.พึ่งเคยเขียนอะไรแบบนี้ครั้งแรก มีติดขัดหรือพิมพ์ผิดตรงไหนบอกได้เลยน้า และอยากให้เราไปรีวิวที่ไหนตรงไหนบอกได้เลยแนะนำได้เลย เราจะไป!!! หรือจะให้ปรับแก้ตรงไหนบอกเราหน่อยนะ ฝากกดติดตามกดไลค์กดแชร์ให้เราาด้วยน้า เพื่อเป็นกำลังใจให้เราทำต่อไป!!!
_________________________________
โฆษณา