เปิดตัวบทความแรกของเราด้วยเมนูง่ายๆ
มีวัตถุดิบแค่ 3 อย่าง
คือ ข้าวเหนียว
ไข่ไก่
และเกลือ
แต่ทำไม กินแต่ละที่ รสชาติอร่อยไม่เท่ากัน แข็งบ้างนุ่มบ้าง อะไรคือตัวแปร
วันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆมาบอกจ้าาาาา
ที่มาที่ไปของข้าวจี่ ผู้เฒ่าผุ้แก่บอกมาว่าเอาไว้กินแก้หนาว นั่งล้อมวงรอบกองไฟ จี่ข้าวกินกัน อบอุ่นทั้งกาย อบอุ่นทั้งใจ
ตัวแปรสำคัญ คือไฟ ถ้าอยากให้ข้าวจี่ของเรานุ่ม ไม่กระด้าง ไฟก็เป็นส่วนสำคัญมากๆ ที่สำคัญห้ามใช้เตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าในการจี่ข้าวเด็ดขาด มันจะไม่หอมแถมยังมีกลิ่นแก๊สติดข้าว บอกเลยว่า ทิ้งทั้งจาน ต้องใช้เตาถ่านเท่านั้นบอกเลยว่าหอมฟุ้ง
และไฟที่ใช้นั้นต้องเป็นไฟอ่อน ไม่อย่างงั้นข้างนอกจะไหม้ดำเกรียมไม่สวยงาม และอาจจะแข็งจนกินไม่ได้
ขั้นแรก ล้างมือให้สะอาด นำข้าวเหนียว มานวดๆๆๆๆให้พอนุ่ม แล้วก็กดให้แบนๆ โรยเกลือให้ทั่วๆบางๆเพิ่มรสชาติ กดๆให้เกลือฝังเข้าไปในข้าวเหนียว นำไปจี่ไฟแป๊บนึงให้ผิวข้าวเหนียวตึงๆ
พอผิวด้านนอกเริ่มตึงๆ เอาไปชุบไข่โลด ไม่ทานะ ชุบลงไปเลย
แล้วก็เอาไปจี่ต่อ ทำสลับไปมาจนกว่าจะเหลืองนวล น่ากิน
ทำไมต้องจี่ข้าวก่อนชุบไข่ เพราะจะทำให้ข้าวเหนียวจับตัวกัน ไม่หลุดรุ่ยตอนจุ่มในไข่
พอจี่ได้ที่ให้ทานร้อนๆ เพิ่มความอร่อยด้วยการเอาไปจิ้มๆมันปูนาจากกระดองเหลืองๆหอมๆ ที่เอามาย่างไฟ บอกเลยว่า ฟินมากกกก
บางท้องถิ่นอาจมีการใส่กะทิในข้าวเหนียวก็ไม่ผิด แต่กลิ่นหอมของข้าวเหนียวจะหายไป กลายเป็นกลิ่นหอมนวลกะทิแทน แล้วแต่คนชอบ
และในสมัยนี้บางร้านอาจมีการปรุงรสด้วยผงปรุงรส ให้จัดจ้านขึ้นก็ไม่ผิด เพียงแค่กลิ่นไอบ้านนอก ที่เราโหยหา อาจหายไป จากการปรุงแต่งเพิ่ม
เมนูหน้า เราจะมาทำอะไร รอติดตามนะฮะ
อย่าถามว่า เราใส่อะไรเท่าไหร่ เพราะอร่อยแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะเมนูที่เราทำ
อร่อยไม่ซ้ำ...จำสูตรไม่ได้
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
