7 ม.ค. 2021 เวลา 02:01 • การศึกษา
## สิ่งที่เปลี่ยนชีวิตโดยออกแรงน้อยที่สุด 📍
คือ "ใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาอย่างแท้จริง"
พร้อมกับ "การตั้งเป้าหมาย"
## ทำไมต้องตั้งเป้าหมายละ ❓
"เป้าหมายเหมือนปักหมุด GPS"
ปักหมุดตรงไหน มันก็ไปตามนั้น !!
นอกจาก คุณไม่ได้อัพเดตโปรแกรมบ้าง
GPS ก็พาไปเส้นทางเดิมๆ 🤣
ถ้าต้องเดินทางไปไปยังสถานที่ ที่เราไม่รู้จัก
การมีแผนที่ จะทำให้เราถึงได้เร็งกว่า แม่นยำกว่า
ถึงแม้บางทีผมเองมันก็มักจะขับหลังเข้าตรอก ซอก ซอย บ้าง😅 โดยเฉพาะเวลาที่ผมต้องขับรถในกทม. ใช้ GPS ล้วนๆ
ถ้าเราไม่มีแผนที่ เราก็จะขับรถ วนไปวนมา
เปรียบเปรยเหมือนกับชีวิตคนส่วนใหญ่นั่นละ
ที่ทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะตั้งใจ ทำหนักแค่ไหน
มันก็วนอยู่ที่เดิม วนในลูปเดิมๆ ไม่ไปข้างหน้า
ผมเคยสงสัยมานาน 10 ปีค่อนชีวิตเลยนะ
ทำไมชีวิตผมทำงานโคตรหนัก หนักมากกว่าคนอื่นอีก
จริงอยู่ได้เงินเดือนเยอะครึ่งแสน
แต่..ผมอยากเติบโตมากกว่านี้อีก!!
มันต้องดีกว่านี้สิ ผมทำเป็นแทบทุกอย่าง
ทำเพื่อองค์กรทุกๆอย่างในตอนที่เคยทำงานประจำ
ผมรู้สึกว่า จากศักยภาพที่ผมมี
"รายได้มันไม่ควรหยุดแค่นี้!!"
ใครจะว่าบ้าก็ช่างในตอนนั้น ผมมีสิทธิ์คิดนี่นา
ผมทำงานบริหาร วางกลยุทธ์ การขาย การตลาด
มากับองค์กรชั้นนำระดับประเทศมากกว่า 17 ปี
ดูแลยอดขายมากสุดถึง 150 ล้านต่อเดือน
พี่ลองคิดภาพตามดูสิ คนๆนึงต้องบริหารยอดขาย 150 ล้าน!!
หัวหน้าใหญ่เขาเคยนั่งกินข้าวเย็น และพูดกับผมว่า
.
.
"เอ็งคิดยังไง ที่บริหารยอดขายถึง 150 ล้าน
นี่มันเงินคนอื่น ของบริษัท เอ็งได้อะไรจากการที่
บริษัทให้เอ็งทำยอดขายนี้ แทบทุกเดือน!!?
(บอกเลย เป้าผมเริ่มจาก 62 ล้านพอทำยอดขายดี
บริษัทก็เพิ่มเป้าขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยากได้ Marker share
ของตลาดเพิ่มขึ้น ท้าทายสุดๆ หินสุดๆ ในตอนนั้น😅
ในวงการขาย เซลหลายคนคงจะล้อเลียนกันว่า เป้าอยู่บนฟ้า)
สิ่งที่ผมตอบเจ้านายคือ ได้ประสบการณ์
ได้คิดแผนการใหม่ๆ ที่จะทำยอดขายนั้นให้ได้
มันเหมือนบริษัท พาเราไต่ระดับความเก่งขึ้นทุกที
คือต้องหาทาง ทำทุกทาง เพื่อชนะคู่แข่งในตลาด
ครองใจลูกค้า ทำทุกทางจริงๆ คิดทุกแผนที่จะมี
หัวหน้าสอนว่า รู้มั้ย..การที่เอ็งพาองค์กรทำยอดขาย
ได้ถึงเป้าหรือใกล้เคียงเป้า พวกเอ็งมันไม่ธรรมดา
ขอให้การที่บริษัทมอบหมายนี้ เป็นการฝึกเอ็งทุกๆเดือน
พอเอ็งฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเอ็งเก่งขึ้น
พอวันนึง เอ็งมีทุนไปทำกิจการของตัวเอง
เอ็งก็จะรันงานเป็นทุกๆอย่าง ไม่ต้องไปฝึกใหม่แล้ว
เอ็งคิดว่าเจ้าของบริษัท ต้องรันงานเองก่อนไหม
ในช่วงเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ใช่ เขาต้องทำ
และอยากให้เอ็งทำงาน ประหนึ่งนี่คือ บริษัทเอ็ง
แล้วเอ็งจะได้เรียนรู้ มันต้องรันงานยังไง
เมื่อเอ็งมีธุรกิจจริงๆในวันนึง เอ็งจะสบาย
ถ้าเอ็งทำงานเพื่อเงิน ถ้าเป้ายอดขายไม่ถึง
เดี๋ยวลูกน้องเอ็งกับเอ็งก็จะกร่อย
แต่ถ้าเอ็งทำงานเพื่อเรียนรู้ เอ็งจะได้มากกว่าเงิน
และพี่อยากให้เอ็งตั้งเป้าชีวิตเอาไว้
ถ้าเอ็งฝึกฝนตามที่พี่บอก เรียนรู้ไม่ใช่ทำเพื่อเงิน
อีก 2-3 ปี ตั้งเป้าไว้ ว่าจะทำธุรกิจอะไร
แล้วเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปใช้ในธุรกิจเอ็งจริงๆซะ
วันนั้น ผมเองตั้งใจฟังหัวหน้ามากๆ
และตั้งเป้าหมาย ที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน
ได้ทำงานที่ตัวเองชอบ และต้องได้อยู่บ้านกับแม่ด้วย
ภายใน 2-3 ปีนี้ ตามที่หัวหน้าแนะนำ
## ว่าให้ทำงานแบบเรียนรู้
เพื่อเตรียมพื้นฐานตัวเองในอนาคต
สังเกตไหม ผมตั้งใจฟังและนอบน้อมกับผู้รู้กว่าเสมอ
บทสนทนาที่น่าจดจำ มาจนวันนี้ ผมจำได้แม่นถึงสีหน้า
แววตา คำพูดของหัวหน้า
## จงรู้จักฟังให้ดี บางทีโอกาสก็มาถึง
ถ้าหัวหน้าไม่ชวนคุยตอนกินข้าววันนั้น
ผมคงใช้ชีวิตพนักงานบริษัทไปเรื่อยๆ
ทำงานให้หนักขึ้น วนไป เหมือนขับรถวนหลงทาง
และหัวหน้าคนนี้เขาดีกับผมมากๆ
ตอนที่ไม่มีเงินติดตัวเท่าไหร่ เขาก็ยื่นเงินให้ผม
เวลาพรีเซนท์ยอดขาย เขาก็มั่นใจให้ผมพรีเซนท์คนสุดท้าย
จะได้ปิดจบแบบสวยๆ คือ ผมเชี่ยวชาญตัวเลขยอดขาย
และการตลาดในพื้นที่มากๆ หัวหน้าจะให้พูดคนสุดท้าย
แกไม่ห่วงเลย ว่าเราจะพูดไม่ได้ไม่ดี
แม้แต่ตอนที่ผมต้องเอาฮอทดอกมาขายที่ห้องประชุม
เพื่อหารายได้เพิ่ม แกก็ไม่ว่า ถ้าเป็นเจ้านายที่อื่น
คงด่ารัวๆ 😅 แต่แกไม่ว่า เพราะงานไม่เคยเสีย
กลับผลงานดีขึ้นทุกเดือนเลย
และหลังจากนั้น..
ปรากฏว่า อีก 3 ปีหลังจากนั้น ผมลาออกจากบริษัทจริงๆ
จากแค่ตั้งเป้าหมายเล็กๆในวันนั้น
ผมลาออกจากงาน ไปเรียนเป็นโค้ชศาสตร์ NLP
และผมทำงานที่บ้านจริงๆด้วย
เฮ้ย..การคิด มันไม่เสียแรง!!
การคิด ทำให้เรามีแผนที่ เรารู้ว่าเราจะเป็นอะไร
เรารู้ว่าเราจะทำอะไร
สรุป สิ่งที่เปลี่ยนชีวิต โดยออกแรงน้อยที่สุดของผม
ที่อยากแบ่งปันพี่ๆก็คือ
1.การคิด คิดเรื่องเป้าหมาย โดยไม่ใส่ไข่เพิ่มว่ามันจะยาก หรือเป็นไปไม่ได้ วิธีคิดที่ดีสุดคือ คิดว่านะเอา แค่นั้นละ มันไม่ต้องออกเเรงเสียดทาน ต่อต้านกับความกังวล อยากได้คืออยากได้ อยากเอาคืออยากเอา ไม่ต้องเวิ่นเว้อว่ามันยากหรือต่างๆนานา
คือ มองให้เหนือความเป็นจริง คิดสบายๆ จะไม่ใช้แรงเลย
2.การฟัง ฟังให้มากกว่าพูดในจังหวะที่ต้องฟัง จะพูดเมื่อจำเป็นต้องพูด เเละเวลาพูด จะใช้เป็นเเง่คิด คำถาม เพื่อได้คำตอบที่ละเอียดมากขึ้น
3.การเรียนรู้ การทำงานทุกงานถ้าทำเพื่อเงินอย่างเดียว ถ้าเงินหมด เงินได้น้อย มันก็จะกร่อยเอา แต่ถ้าทำเพื่อมีวิชา เพื่อการเติบโต อันนั้นจะเป็นของที่ติดตัวเรา แล้วเอาไปทำเงินได้มากกว่าเดิม
4.การลงมือทำ เริ่มจากทำแบบเล็กๆ แต่ลงลึกในงานที่ทำ เป้าหมายจะต้องไม่เปลี่ยน แต่ยืดหยุ่นในวิธีการได้เสมอ
5.ความนอบน้อมถ่อมตน ทำให้คนรัก เมตตา มอบสิ่งดีๆให้กับเราอย่างเต็มใจ
วันนี้ขอบคุณมากครับที่อ่านบทความนี้จนจบ
ผมกลั่นกรองจากความรู้สึกเคารพรักหัวหน้าท่านนี้มาก
และแนวคิดจากประสบการณ์การทำงานของผม
คิดว่าเป็นอีกแง่มุม ที่จะทำให้พี่ๆหลายท่านตระหนักรู้
ว่าการไต่ระดับของทุกๆคน มันใช้แรงน้อยที่สุด ใช้แค่ "ใจ"
#ขอบคุณสำหรับการกดแชร์บทความนี้
#แบ่งปันให้หลายคนตื่นรู้ให้เยามีกำลังใจ
#และริเริ่มอะไรบางอย่างในหัวตอนนี้
วันไหนว่างๆ เดี๋ยวโอปป้ามาแบ่งปันให้อีกคับ
ขอบคุณคับ 🙇‍♂️🌈💙
#โอปป้าอิสาน #MasterCoachNLP #NLP #แรงบันดาลใจ
#ข้อคิด #แนวคิด #กำลังใจ #เป้าหมาย #success #mindset
โฆษณา