7 ม.ค. 2021 เวลา 12:19 • การตลาด
เล่าเรื่องให้ปัง สร้างแบรนด์ให้เด่น - การตลาดแบบ Content Marketing ยิ่งสำคัญขึ้นไปอีกเมื่อ Covid-19 ระลอกใหม่มาเยือน
"Content is King” - คอนเทนท์คือราชา
ฃContent คือราชาแห่งยุค ในโลกที่การตลาดแทบทุกอย่างถูกโยกเข้าสู่ดิจิทัลเกือบจะ 100% นี่คือส่ิงที่หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าพอพูดถึง Content Marketing หลายคนก็อาจจะยังงงๆว่าแล้วมันคืออะไรหล่ะ? มันคือการเขียนบทความให้กลุ่มลูกค้าอ่านเหรอ? มันคือการวาดรูปใส่กราฟฟิคเหรอ?
ถ้าขยายความคำว่า Content Marketing ออกไปมันคือการทำการตลาดที่ใช้คอนเทนต์เป็นมีเดีย หรือเครื่องมือสำหรับผู้ทำส่งสารต่อไปยังผู้รับ ก็คือการที่แบรนด์จะสื่อสารกับผู้อ่านที่เป็นลูกค้านั่นเอง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความแตกต่างของแบรนด์ตัวเองมาต่อสู้กับคู่แข่งและมันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆเลยทีเดียว
ตอนนี้การเสพสื่อช่วง Covid-19 ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จำนวนตัวเลขของผู้ใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆนั้นยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง กลับกันการโฆษณาหรือว่ายิงแอดนั้นกลับไม่ค่อยได้ผลเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ยิงแอดไปบางครั้งก็โดน บางครั้งก็แป๊ก แต่ถ้าเราสามารถสร้างคอนเทนท์ที่ดีแล้วมีคนสนใจ มันกลับกลายเป็นการโปรโมทและสร้างการรับรู้ของแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้นด้วย ยิ่งคนหันมาช้อปปิ้งซื้อของออนไลน์กันมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้การสร้างคอนเทนท์เป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นเท่านั้น
แต่การจะสร้างคอนเทนท์ดีๆต้องทำยังไงบ้าง วันนี้ต่ายทำเทคนิคเล็กๆน้อยๆมาฝากครับผม
1. เขียนเรื่องที่คนอื่นอยากเรียนรู้
สิ่งหนึ่งที่พยายามหักห้ามใจไว้เมื่อทำ “Content Marketing” ก็คือการเขียนเกี่ยวกับตัวเองหรือสิ่งที่แบรนด์ทำ แต่ให้ลองดูว่ามีอะไรที่เราสามารถแชร์ได้ซึ่งเป็นเรื่องที่คนอื่นสนใจอยากจะเรียนรู้ด้วย โดยเติมมุมมองของคุณเข้าไปเพื่อเสริมสร้างสีสันและความแตกต่าง ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณเปิดร้านขายเพชรพลอย แทนที่จะบอกว่าคุณมีเพชรน้ำหนึ่งราคาดีมาขาย คนก็อาจจะเห็นว่าเป็นโฆษณาสินค้าแล้วก็มองผ่านไป แต่ถ้าคุณเขียนเกี่ยวกับเทคนิคการดูเพชรแท้เพชรปลอม หรือถ้าจะแต่งงานให้เลือกปวนเพชรแบบไหนให้ไม่โดนหลอก สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ที่คนกลุ่มที่เป็นลูกค้าต้องการทราบ เพราฉะนั้นเขาก็จะสนใจและแชร์กันต่อด้วย
เราอาจจะหาเรื่องเหล่านี้มาเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง ลองดูว่าปกติลูกค้าที่เข้ามาหาเรานั้นมีปัญหาอะไรบ้าง แชร์ประสบการณ์เหล่านั้นก็ช่วยทำให้ลูกค้าคนอื่นๆเห็นได้ว่าเราสามารถมาช่วยตรงไหนได้บ้าง โดยที่เราไม่ต้องโฆษณาด้วยซ้ำว่าเราขายเพชรอยู่ หรือถ้าไม่รู้จริงๆว่าลูกค้าสนใจอะไร ก็สามารถลองค้นหาจาก Search Engine ได้ ลองค้นหาคำว่า “เพชรแท้” แล้วดูว่าสิ่งที่คนสนใจใกล้เคียงกันแล้วเขียนคอนเทนท์จากสิ่งเหล่านั้นก็ได้
2. หลากหลายแหล่งข้อมูลของแบรนด์
จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่าแบรนด์เรานั้นมีหลากหลายด้าน เพราะฉะนั้นเราอาจจะหยิบยกประเด็กในเรื่องที่แตกต่างกันเอามาเล่าได้ อย่างถ้าเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยออนไลน์ ก็สามารถเล่าได้ในหลายๆเรื่อง อย่างเรื่อง Logistics ประสบการณ์การส่งของที่ kerry หรือ flash ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันยังไง หรือเอาด้านบุคคลก็อาจจะเอาวิธีการรับมือพนักงานในร้านของตัวเองเวลามาสาย หรืออย่างด้านลูกค้าสัมพันธ์ก็อาจจะเอาเรื่องการรับมือลูกค้าเวลามีปัญหา สิ่งเหล่านี้สามารถเอามาเป็นคอนเทนท์ของเราที่แสดงออกถึงความเป็นตัวตนของเราได้โดยที่ไม่ต้องโฆษณาเลยสักนิด
อย่าลืมให้เครดิตหรือพูดถึงกลุ่มคนที่ให้ข้อมูลกับเราด้วย นี่เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อพูดถึงลูกค้าให้เซนเซอร์ชื่อและรายละเอียดที่สามารถบ่งบอกตัวตนของลูกค้าได้ซึ่งเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัว อย่าไปคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญนะครับ ลูกค้าทุกคนควรถามความสมัครใจที่จะให้เปิดเผยข้อมูลก่อนด้วยครับผม
3. หยิบยืมจากที่อื่นมาบ้าง
การหยิบยืมหรือเก็บรายละเอียดของคอนเทนท์ยาวๆมาปรับใช้หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นส่วนตัวเข้าไปก็สามารถย่นเวลาในการสร้างคอนเทนท์เพื่อแบรนด์ของเราได้ แต่อันนี้ต้องระวังนิดหนึ่งเรื่องลิขสิทธิ์ สิ่งที่ควรทำคือการส่งอีเมลหรือเมสเสสไปถามก่อนว่าสามารถใช้ได้ไหม เราเอาไป republish แล้วแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้รึเปล่า หรือถ้าเป็นการแชร์ไปที่เพจของตัวเองก็ include original content ไปด้วยเพื่อเป็นการให้เครดิต เราเองอาจจะแสดงความเห็นหรือทำคอนเทนท์เสริมเข้าไปก็ได้
ยกตัวอย่างมีคนทำคอนเทนท์โฆษณาชิ้นหนึ่งที่ต่ายชอบมากช่วงที่ผ่านมา ที่เป็นการรวมญาติกินข้าวด้วยกัน ต่ายก็กดแชร์จากเพจต้นฉบับแล้วเขียนคอมเมนท์เล็กๆน้อยๆเข้าไปว่า “ส่วนใหญ่คนจะถามว่าช่วงนี้ทำไมอ้วนจัง” แล้วก็ใส่ emoji หน้าตลกเข้าไป แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยย่นเวลาในการทำคอนเทนท์ของเรา แต่การสร้าง original content คือดีที่สุดครับ
4. วางแผนล่วงหน้าในการทำคอนเทนท์สำหรับวันสำคัญๆ
การสร้างคอนเทนท์บางทีก็เป็นศาสตร์พอๆกับศิลป์ บางครั้งก็โดน บางครั้งก็มีพลาด แต่ว่าสิ่งสำคัญก็คือการวางกลยุทธ์ให้ชาญฉลาดว่าแต่ละเดือนมีอะไรบ้างที่เราควรจะทำคอนเทนท์ออกมาให้คนที่สนใจเพจของเราอ่าน อย่างเช่นเดือนนี้มีวันเด็กกับวันครู มีเรื่องอะไรบ้างที่เราสามารถเอามาเล่นหรือเล่าได้ในมุมมองของแบรนด์เรา อย่างสมมุตว่าวันเด็กแล้วเราขายอาหารออนไลน์ ก็อาจจะเอาเรื่องราวเมนูที่ตอนเป็นเด็กเราชอบมากมาเล่า เป็นประเด็นว่า “เมนูย้อนวัย ที่เห็นแล้วหวนคิดถึงวัยเด็ก” แล้วก็อาจจะหาสูตรมาให้คนอ่านได้ลองเอาไปทำดูก็ยังสามารถโยงเข้ามาถึงแบรนด์ของเราที่ขายอาหารได้อยู่
คิดถึงคอนเทนท์เหมือนการวางหมากไปทีละนิด อันไหนที่สามารถให้ความรู้ ดึงคนอ่าน และในขณะเดียวกันสามารถสอดแทรกผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของเราเข้าไปได้ด้วย
การวางปฏิทินวันที่อยากใส่คอนเทนท์ก็เป็นการกำหนดเส้นตายเพื่อให้มีคอนเทนท์ออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน
5. ขยายช่องทางโพสต์คอนเทนท์ของเรา
เมื่อเราสร้างคอนเทนท์มาแล้วในระดับหนึ่ง กลุ่มลูกค้าของเราก็มีการขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามันจะมีทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ปะปนกันไป บางทีการนำโพสต์เก่ากลับมา repost หรืออัพเดทรายละเอียดใหม่ๆเพิ่มเข้าไปก็สามารถทำให้มันดู up-to-date มากขึ้นด้วย ถ้ามีทีมขายหรือทีมการตลาดก็สามารถเอาข้อมูลที่เรามี คอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมไปขยายต่อได้ในช่องทางที่พวกเขาถนัดก็ได้เช่นเดียวกัน
ไม่มีใครบอกว่าคอนเทนท์ของเราต้องอยู่ที่เดียวเท่านั้น เราสามารถหาที่ลงคอนเทนท์ของเราให้มากกว่าหนึ่งที่แต่อย่างที่บอกครับว่าแต่ละที่คนอ่านก็อาจจะแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นเอามาปรับให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละแพลตฟอร์มด้วย
Content is King เมื่อมีราชาก็ต้องมีราชนี ซึ่งผมเชื่อว่าราชนีก็หนีไม่พ้น Context หรือบริบท ของการวางคอนเทนท์ว่าจะเอาไว้ที่ไหนยังไง เราต้องรู้เรื่องนี้ให้ชัดเจนด้วยครับ
#ใดใดในโลกล้วนคือการตลาด
.
📌กด Like กด Share เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับผม
ไว้เราจะนำเทคนิคและความรู้มาแบ่งปันให้อีกนะครับ
📌กด See First ติดตามคอนเทนต์ใหม่ๆจากเราได้ที่
Facebook : ใดใดในโลกล้วนคือการตลาด
.
.
#สร้างแบรนด์ให้เด่น
#ContentMarketing
#เริ่มต้นธุรกิจยังไงดีให้มียอดขาย
#BusyRabbitPlatform
โฆษณา