8 ม.ค. 2021 เวลา 04:39 • นิยาย เรื่องสั้น
มีเรื่องตลกร้าย 2 เรื่อง
มี่เกิดจากเรียกร้องความยุติธรรมในวัยเด็ก
เรื่องที่1 น้ำจิ้ม
ตอนอยู่ประถม น่าจะป.6 ผมเป็นคนไม่กินน้ำจิ้มเลย ตอนเด็กๆนอกจากซอสมะเขือเทศเท่านั้น
วันนึงผมไปซื้อแน็กเก็ตไก่ในโรงเรียนราคา20 บาท ได้ 6 ชิ้น และย้ำแม่ค้าโรงเรียนว่า "ไม่ใส่น้ำจิ้มนะครับ"
แม่ค้าโรงเรียนไม่ฟังและราดน้ำจิ้มแบบน้ำจิ้มลูกชิ้นมาให้ทั้งถุง ซึ่งตอนนั้นผมไม่พอใจ และบอกแม่ค้าว่า "บอกไม่ใส่น้ำจิ้มไงครับ"
แม่ค้าพอได้ยิน แทนที่จะเปลี่ยนให้ บอกให้ผมเอาๆไป กินได้ไม่ตายหรอก ทำให้ผมรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ และบ่นให้เพื่อนๆที่เรียนประถมด้วยกันฟัง และเป็นแกนนำม็อบไปถามความยุติธรรมของผมอีกครั้ง แล้วพูดว่่า
"พี่จะเปลี่ยนให้ผม หรือ ไปคุยกับ ผ.อ. ครับ"
เขายอมเปลี่ยนให้ และวันต่อมาผมโดนเรียกเจ้าฝ่ายปกครอง
ครูฝ่ายปกครอง เรียกผมไปพบ
พร้อมกับตักเตือนจากที่แม่ค้ามาฟ้อง
และจะแจ้งผู้ปกครองผมกลายเป็นเด็กพฤติกรรมก้าวร้าว ต่อล้อต่อเถียงผู้ใหญ่ ไปซะงั้น
เรื่องที่ 2
ผมเคยส่งจดหมายถึง ผ.อ. เพราะครูฝ่ายปกครองลำเอียง ให้เด็กผู้ชายเก็บขยะทำโทษ และเด็กผู้หญิงไปเรียนตามปกติ ทั้งๆที่คุยเล่นกันทั้งชั้นประถมศึกษาปีที่6
ใจความจดหมายมีว่า
" ครู.... ลำเอียง ทำโทษไม่เท่าเทียม
ให้ผู้ชายเก็บขยะ ผู้หญิงไปเรียน ได้ยังไง"
ถ้าเพื่อนๆสมัย ประถม ยังพอจำเรื่องนี้ได้ต้องร้องอ๋อ
เพราะผมส่งจดหมายนี้ไปตอนก่อนปิดเทอม
และเพื่อนทุกคน หาว่าผมขี้โม้ โกหก ผมรอเวลา ผ.อ. มาอ่านเจอ 1 เทอมเพราะผมส่งวันสุดท้ายตอนปิดเทอม1 พอดี
2
จนกระทั้งวันเปิดเทอม ครูฝ่ายปกครองเอาจดหมายมาหาตัวคนร้าย ทำให้บางคนรู้ว่าผมเป็นคนส่งจดหมาย และขอขอบคุณที่ไม่มีใครห้องฟ้องว่าผมนี่แหละ ส่งจดหมายไปร้องเรียน โดยผมสอดไว้ใต้ประตู ผ.อ. ซึ่งถ้ามี CCTV สมัยนั้น ผมน่าจะโดนแน่นอน
และความยุติธรรมทั้งสองเรื่องนี้ผมก็ไม่เคยได้รับคำตอบใดๆ ไม่มีคำอธิบายจากครู ไม่มีคำขอโทษจากแม่ค้า
จนถึงทุกวันนี้ผมเลยเข้าใจว่า ความยุติธรรมไม่มีในโลกหรอก ตาช่างแค่เรื่องอาหารยังเอียง ความรุ้สึกคนก็เช่นกัน ฉะนั้นเมื่อเติบใหญ่จึงมักเงียบและไม่เรียกหาความยุติธรรมโดยไม่จำเป็นหรือจำเป็นก็ตาม
ทำเพื่อตนเอง พึ่งตนเอง ดีที่สุดแล้ว
โฆษณา