การพยากรณ์จรเรื่องการเดินทาง
โดยหลักโหราศาสตร์ไทย
การเดินทางทั่วไป
อาทิตย์ เดินเข้าถึงอาทิตย์เดิม –เสาร์เดิม-ราหูเดิม-อังคารเดิม ซึ่งไม่มีดาวบาปเคราะห์ให้โทษมากนัก แก่ลัคนา-อาทิตย์-จันทร์-ตนุเศษ ถือว่าเป็นการเดินทางธรรมดา
จงพิจารณาว่ามูละเดิมนั้นถ้าเป็นกาลกรรณีจร ก็มีการเดินทางเหมือนกัน ดาวกาลกรรณีจร ทับ ตนุเศษ-ลัคนา-จันทร์ หรือปะทะดาวคู่ศัตรู แสดงถึงการเดินทาง พระเคราะห์ประจำปีที่เป็นมูละจร ประจำปี ถ้าเดินเข้าเรือน อริ-มรณะ-วนาสนะหรือเรือนกาลกรรณียิ่งพระเคราะห์นิจ- ประยิ่งเดินทางทุกราย
การโยกย้ายต่างๆ ย้ายบ้าน-ย้ายหน้าที่ราชการ-ย้ายตำแหน่งสับเปลี่ยนงาน มีหลักการพิจารณาเรื่องใหญ่ๆคือ
ถ้าราหูโคจรมาถึง อาทิตย์ หรืออังคาร-พฤหัสบดี เจ้าชะตามีทางโยกย้าย
ให้พิจารณาว่าโยกย้ายเกี่ยวกับเรื่องใด ถ้าเดชเดิมเสียหรือเดช จรเข้าเรือน อริ-มรณะ-วินาสนะ-กาลกรรณี การย้ายนั้นเกี่ยวกับเรื่องราวให้เสียอำนาจ ยิงเจ้าเรือนศุภะเสียด้วยแล้ว เป็นการย้ายแบบถูกลงโทมีมลทินถึงตัว
หากกัมมะเสียทั้งจรหรือเดิมแต่วาเรือนศุภะ-เดชยังดี การย้ายไปจะมีอำนาจดีขึ้นกว่าเดิม ลักษณะนี้กินความถึงตำแหน่งหน้าที่ต่างๆต้องสับเปลี่ยนในสถานที่แห่งเดียวกันด้วย
การย้ายอาคารสถานที่ จะต้องพิจารณาว่ามูละเดิมและจร ต้องเสียร่วมกันและบาปเคราะห์เกิดให้โทษในดวงชะตา เช่น บาปพระเคราะห์ถึง ลัคนา-จันทร์-อาทิตย์ ตนุเศษ หรือปะทะ คู่ศัตรูเบียน
ศุภะเคราะห์ เหล่านี้คือการย้ายแบบย่อๆ
จะมีการโยกย้ายหรือไม่
ให้อ่าน ราหู จร ในดวงชะตา ว่าโคจรกับดาวกำเนิดอย่างไร ราหูเดินอยู่ 1 ปี 6 เดือน เมื่อราหูโคจร เข้าทับอังคาร ให้สันนิฐานว่าจะต้องมีการโยกย้าย คุมอยู่ในดวงชะตา
ถ้าเจ้าเรือนกัมมะ อุตสาหะ เป็นกาลกรรณี เพราะงานในหน้าที่เขาเสียจึงย้าย
ถ้าเจ้าเรือนศุภะ-มูละเสีย เพราะเกิดการยุ่งยากในเรื่องที่อยู่อาศัยเดือดร้อนต้องย้าย
อังคารเมือโคจรถึงราหู หรือเข้าถึงเจ้าเรือนในดวงเดิม ข้อ ข.ค.ก็ตามชะตาได้บอกแล้วว่าสถานการณ์เร่งมาอีก ต้องอ่านไปตามเรื่องที่อ่านได้ เป็นข้นทีสองรัดให้แคบเข้า
อาทิตย์เป็นองค์ประกอบที่กระชับบังคับให้เกิด เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์เดินเข้าสัมพันธ์ถึง ราหู-อังคาร-เสาร์ลัคนา-จันทร์ ตนุเศษหรือศุภะเคราะห์ที่เป็นกัมมะ-อุตสาหะ-ศุภะ-
มูละ ตามแต่กรณีเป็นเรื่องๆไป
การโยกย้ายที่ดีขึ้น
ถ้าเจ้าเรือนกัมมะ-ศุภะ-อุตสาหะ-มูละ เป็นศรี จร ให้ตั้งประเด็นไว้ก่อนการย้ายนี้ดี
สภาพตามข้อ ก.การยับยั้งจะได้หรือไม่ให้พิจาณาดาวพฤหัสบดี ถ้าเดินผ่านมุมสัมพันธ์ดีกับเจ้าเรือนกัมมะ-ศุภะ-อุตสาหะ-มูละ-เดิม ระยะการวิ่งเต้นให้สวมจังหวะที่อาทิตย์เดินเข้าหาพฤหัสบดีในดวงเดิม แต่ให้ระวังกาลกรรณีจร ถ้าเวลาอาทิตย์เดินถึงตามหลัก ถ้ากาลกรรณีจรเข้าสัมพันธ์กับเจ้าเรือนดังกล่าวมาความหวังอาจไม่สำเร็จได้ โหรจะต้องใช้การพิจารณา ระวังกาลกรรณีในเมื่ออาทิตย์เดินถึงพฤหัสบดี
การเดินทางโยกย้าย ต้องใช้ทักษาจร ปีประกอบ
อายุจร ปีใด ตก ภูมิ อาทิตย์-เสาร์ ปีนั้นจะมีการร้อนที่อยู่ จะมีเดินทางหรือโยกย้าย มีงานวุ่นวายเกิดขึ้น
การเดินทางนั้น ดาวอาทิตย์ โคจรทับเสาร์ เสาร์โคจรทับ อาทิตย์ ทายเช่นกัน
ดาวอาทิตย์ โคจรทับดาวมูละเดิมหรืออาทิตย์โคจรทับดาวอังคารในเรือนศุภะ เจ้าเรือนศุภะจรมาเป็นกาลี เจ้าเรือนมูละเดิม จรเป็นอริ-มรณะ-วินาสนะ จะต้องมีเหตุใดเหตุหนึ่งในการเดินทาง
การเดินทางย้ายตำแหน่งหน้าที่ ธุรกิจการค้า ไปเสี่ยงโชคให้พิจารณา ดาวมูละเดิม จร เป็น เดช-ศรี-มนตรี โดยเฉพาะดาวพฤหัสบดี-ดาวเสาร์-ดาวราหูให้คุณมาก ส่วนดาว ๑-๒-๓ ให้คุณรองลงมา สำหรับคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ถ้าดาว ๑ จรมาเป็น ศรปีใด ปีนั้นจะได้โชคๆนั้นจะไม่
ยากสมใจ เพราะอาทิตย์เป็น ศรีจรไปทับเสาร์ กาลีเดิมและกาลีจร โชคนั้นจะไม่มาสมใจและไม่มั่นคงเพราะหุไปทับกาลีนั่นเองการทำนายให้สมบูรณ์ จะต้องดูดาว ๕-๒ ประกอบ ๕ ต้องเดาน เข้าภพ กัมมะ และเจ้าเรือนกัมมะต้องเด่นด้วย
อีกกฎหนึ่ง ให้ดูดาวมูละเดิม จรเป็นกาลี ทับลัคนาทับจันทร์ ทับตนุเศษ ดังกล่าว จะต้องมีการเดินทางโยกย้าย ถ้าบุคคลนั้น มีอาชีพดูดาวกัมมะประกอบดูภพ 4ประกอบ ถ้าเจ้าชะตาปีนั้น บุตร ภรรยา ดูภพ ปัตนิ-ปุตตะด้วยคือถพดังกล่าวนี้จะถูกเบียด
การเดินทางเพื่อการศึกษา
ให้พิจารณาเรือนศุภะ ประกอบ ดาว ๕ ได้มาตรฐาน ดาว ๓ ครองเรือนศุภะเด่นอยู่มีเกณฑ์การเดินทาง หากดุมภะ-ศรีเด่น ก็แสดงว่าจะมีการเดินทางในแบบพักผ่อนหาความสำราญ
ต้องนำเอาเรื่องพันธุ สหัชชะ คือเจ้าเรือนที่ ๓,๔ มาประกอบ
ระยะการพิจาณา ดูดาวราหูและดาวอังคาร จร สมพันธ์กับตำแหน่งที่กล่าวมาแล้ว หากดาว ๕ เดิมสัมพันธ์เด่น กับเรือน ศุภะ-กัมมะ เป็นองค์เกณฑ์แก่ลัคนาเดิมหรือองค์เกณฑ์เดินถึงศุภะเคราะห์ปราศจากกาลกรรณีจร เดินถึงกัน
ไปต่างประเทศได้รับความสำเร็จหรือไม่
เจ้าเรือนพันธุ เรือน ๔ ถือเป็นหลักพิจารณาก่อน ถ้าเจ้าเรือน ๔ เป็น กาลกรรณี-นิจ-ประ ร่วมกับดาวร้ายแล้ว ให้พิจารณาไม่เอาถ่าน ถ้าเจ้าเรือน ๔ ได้มาตรฐานดี
ดาว ๕ เด่นได้มาตรฐาน ไม่ปรากฏเป็นพินธุอุบาทว์ หรืออยู่ในลักษณะ เป็น ๓,๔,๕,๙,๑๑ แก่ลัคนาแล้ว จัดว่าการศึกษาดีและอยู่ในเกณฑ์สำเร็จกุมลัคนาด้วย
พระเคราะห์ได้องค์เกณฑ์อุดมเกณฑ์มากหรือได้พระเคราะห์คู่อสีติธาตุแสดงถึงพื้นฐานอำนาจวาสนาสูง ย่อมได้รับความสำเร็จ
วางกาลจักร ๕,๗,๘,ได้องค์เกณฑ์ อุดเกณฑ์ในดวงกาลจักรอย่างหนึ่ง
พิจารณา ๗,๘ จร กับ ๗,๘ เดิม สัมพันธ์ดีแก่กัน
ดูการเดินของ ๕ จร เป็น 1 ถึง 5 แก่ลัคนา หรือเดิน เป็น 9,11 แก่ลัคนากำเนิด
ดาว ๗,๘,๕ จรองค์ใดองค์หนึ่ง จรมาได้ตำแหน่งองค์เกณฑ์ อุดมเกณฑ์ แก่ลัคนากำเนิด
การเดินทางของดาว ๗,๘,๕ เข้าตำแหน่งรับสัมพันธ์คู่มิตรมีการรับช่วงกัน เช่น ๗ ถึง ๘ พอ ๗ ไป ๕ ถึง ๑ ๕ เดิน ไป ๘ เดินถึง ๗ช่วงการถึงกันแบบนี้
การตรวจสอบระยะร้าย
เรื่องฆาฎ ถ้า ๕ ,๗, ,๘ เป็นกาลีจร เป็นระยะร้ายให้ระวังอันตราย
การเดินของพระเคราะห์ ถ้า ๗-๘ ทับจุดตังรับทั้งสองตำแหน่ง อย่าเชื่อว่า ดาว ๕
ทับลัคนาจะดี
การเดินยุทธของดาวพระเคราะห์ที่เป็นคู่ศัตรูกัน แม่ไม่รบกวนจุดตั้งรับ การถึงกันในแบบคู่ศัตรูในแบบทับ ก็เกิดรบกวนที่เรือนนั้นได้ ถ้าเกิดการทับจาก ๗และ ๘ ถึงสองตำแหน่ง ให้พิจารณาให้ดียิ่งดาว ๕ ถึงคู่ศัตรูด้วยชะตานั้นเข้าข่ายรำส่ำระสายที่เดียว
การเดินด้วยการบีบเกิดขึ้น ในแบบบาปเคราะห์ทับศุภะเคราะห์ทุกตำแหน่งอยู่ในลักษณะที่ไม่ดีเหมือนกัน
การเดินของบาปเคราะห์เข้าปะทะบาปเคราะห์ด้วยกัน ระยะนั้นไม่ดี
ถ้า ๘ หรือ ๗ เดินทับ ๕ เจ้าชะตามักพบเรื่องที่มองต่างมุมเช่นถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกใส่ความ มีศัตรู บางรายมีคดีแพ่งหรืออาญาแล้วแต่กรณีข้าราชการถูกสอบสวน อย่างน้อยถูกบัตรสนเท่ห์ ยิ่ง ดาว ๕จร ทับ ๗,๘ เข้าอีด้วย ไม่พ้นเรื่องนี้
การกำหนดการเกิดผลร้าย
ถ้าบาปเคราะห์ทับจุดตั้งรับสองตำแหน่ง (ดาว๗,ดาว๘)ให้ตามดู ดาว ๓ ถ้าทับจุดตั้งรับอีก พยากรณ์ได้ว่าระยะร้าย
ถ้าข้อ ก ไม่เกิดขึ้นให้ตามดูดาว ๑ ทับจุดตั้งรับอีก พระเคราะห์บาปเคราะห์ต้องทำงานอยู่
ดาว ๒ เป็นจุดชี้ว่า ถ้าจดต่างๆพร้อมแล้ว ถ้า ดาว ๒ ทับ ลัคนา –ตนุเศษ-เจ้าเรือนลัคนา-จันทร์
จุดบีบเกิดขึ้นมันที
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
