บางเรื่องไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้
หลังจากที่เราได้เลี้ยงปลาหมอในบ่อดิน จุดประสงค์ คือ ต้องการแม่พันธุ์ปลา โดยจับมาทั้งบ่อแล้วคัดเอาเฉพาะตัวใหญ่ ๆ สมบูรณ์ที่สุดที่จะเป็นแม่พันธุ์ ส่วนที่เหลือก็ทะยอยขายออกทั้งปลีกและส่ง
.
แต่เมื่อเราได้ย้ายปลามาใส่กระชังเพื่อทะยอยขายกลับเจอปัญหา คือ
.
"ปลาในกระชังไม่ยอมกินอาหาร"
.
จากที่คิดว่าจะขายไป ให้อาหารไป โดยแยกขายเป็นกระชัง ๆ เพื่อจะได้ไม่ไปรบกวนปลาและทำให้ปลาตกใจจนไม่กินอาหาร
.
แต่เอาเข้าจริง ปลาไม่ยอมกินอาหารแม้จะไม่ได้ไปรบกวนมันก็ตาม ทำให้มันค่อย ๆ ผอมลง ๆ จนตัวเรียวยาว ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
.
ผิดจากปลาที่เลี้ยงในกระชังตั้งแต่ต้นแล้วทะยอยจับ ปลาจะไม่กินอาหารเฉพาะวันที่จับ แต่วันถัดไปก็กินปกติ
.
พอได้มาคุยกับเพื่อนที่เคยเลี้ยงปลาหมอในบ่อดินแล้วจับมาใส่กระชังก็พบปัญหาเดียวกัน คือ ปลาไม่ยอมกินอาหารและผอมเรียว น้ำหนักหาย ต้องรีบขายออกให้เร็วที่สุด
.
แต่ !! ปลาที่เราคัดไว้เป็นแม่พันธุ์เก็บไว้ในบ่อซีเมนต์ที่มีหลังคากลับกินอาหาร แม้จะไม่กินในช่วง 3-4 วันแรก แต่วันถัด ๆ มาก็ยอมกิน และอีกส่วนที่ย้ายลงบ่อดินก็กินอาหารปกติ
.
ทำให้เรายังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัด แต่อยากแนะนำให้ผู้ที่จะเลี้ยงปลาหมอควรระวังไว้ดังต่อไปนี้
.
🔸ต้องมีตลาดรองรับ เพราะปลาหมอเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 6 เดือนจะไม่โตขึ้นแล้ว ถ้าไม่จับขาย พอถึงช่วงวางไข่ ท้องที่ป่องเต็มไปด้วยไข่ก็จะลีบเพราะปลาจะปล่อยไข่ออก น้ำหนักก็จะหาย ตัวเรียวไม่สวย
.
และโครงสร้างของปลาก็โตเต็มที่แค่ระดับหนึ่ง ไม่เหมือนปลานิลที่โดยทั่วไปจะจับกันที่ตัวละ 1 กิโลกรัม แต่ถ้าไม่ได้ขาย เลี้ยงต่อไปปลาก็จะโตขึ้นได้อีกจนถึงขนาด 2-3 กิโลกรัม (ในกรณีปลาเพศผู้ แต่ถ้าเป็นเพศเมียเมื่อออกลูกก็จะไม่โตแล้วเหมือนกัน)
.
เคยมีลูกค้าที่รอแม่ค้าให้มาจับปลานิลเพราะช่วงนั้นปลาเยอะ ต้องรอนาน รอไปรอมาจนปลามีขนาด 2-3 ก.ก. แต่ก็ยังสามารถขายได้ถึงแม้ราคาจะต่ำกว่าปกตินิดหน่อย เพราะตลาดปลาใหญ่จะมีน้อยลง ลูกค้าปลาเผาไม่นิยมตัวใหญ่เกินไป จะเผาสุกยาก
.
🔸ถ้าจะเลี้ยงเพื่อทะยอยจับขายควรเลี้ยงในกระชังหรือบ่อซีเมนต์ เพราะจับขายได้ง่าย เลี้ยงไปขายไปได้ ส่วนการเลี้ยงในบ่อดินเหมาะจะจับขายรอบเดียว เพราะการย้ายปลาจากบ่อดินมาใส่กระชังจะทำให้ปลาไม่ยอมกินอาหาร
.
แต่ !! ถ้าเป็นการย้ายปลาซึ่งขนาดยังโตไม่เต็มที่ ปลาก็ยังกินอาหารปกติ ปลาที่ไม่ยอมกินอาหาร คือ ปลาที่โตเต็มที่ มีไข่เต็มพุงแล้ว
.
ในกรณีของเราพบว่าปลาผอมลง น้ำหนักลด แต่ก็ยังมีกำไรเพราะได้ราคาขายส่งเป็นหลักและขายปลีกเล็กน้อย ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าการให้แม่ค้ามาจับเหมายกบ่อ
.
แต่ถ้าเทียบกับความยุ่งยากและเสียเวลา และน้ำหนักปลาที่หายไป การให้แม่ค้ามาจับยกบ่อก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
.
แต่ถ้าเลี้ยงในปริมาณไม่เยอะ และสะดวกที่จะทะยอยขาย การเลี้ยงใส่กระชังหรือบ่อซีเมนต์ก็จะได้กำไรดีกว่าค่ะ
.
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจเลี้ยงปลาหมอนะคะ 🌿
.
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาให้กำลังใจกันค่ะ ❤️
ปล. ในคลิปเป็นหมอที่เลี้ยงในกระชัง ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะไม่เลี้ยงแล้ว แต่เเม่ค้าที่มาซื้ออยู่ขอให้เลี้ยงต่อให้เขา เลยเลี้ยงให้นิดหน่อยค่ะ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
