Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ลงทุน ต้องรวย
•
ติดตาม
8 ม.ค. 2021 เวลา 03:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เริ่ม ลงทุน ใช้ "เงิน" 💵 เท่าไหร่ ❓
ตอบคำถามนี้ ในใจ ตัวเองก่อนนะครับ อย่างที่บอกว่า เราจะลงทุนในพื้นฐานของความจริง การที่เราจะหวังความร่ำรวย จากการลงทุนนั้น สิ่งสำคัญ ที่สุดลำดับแรกเลยก็คือ เงินทุน ครับ 💯
ผมมีไกด์ไลน์ ช่วยวิเคราะห์ ง่ายๆ แบบนี้ครับ
1.ประเมินตัวเอง :
เงินที่เราสามารถหาได้ต่อเดือน หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่าผ่อนต่างๆ หรือ ค่าใช้จ่ายที่อาจจะต้องเสีย เช่น ค่าใส่ซอง ค่าช็อปปิ้ง ค่าดูหนัง หรือบางครั้งอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สำคัญต่อการออกไปใช้ชีวิต กับสังคมในแต่ละคน
คำนวณตามความจริงเลยนะครับ เอาให้แบบ เรายังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยไม่ฝืนเพราะ อะไรที่เราไปฝืนธรรมชาติตัวเองจะทำไม่ได้นานครับ ลองลิสต์ รายการค่าใช้จ่ายอย่างนี้ดูแล้ว เอามาลบกับ รายได้
ตัวช่วยคำนวณ
1.1 สมุดบันทึก : ง่ายๆ เลยจะใช้เป็นสมุดบันทึก ซัก 1 เล่ม
1.2 แอฟพิเคชั่น : สำหรับคนที่สะดวกกับการใช้มือถือ แอฟที่แนะนำ ก็มี
Happy Money - ใช้ง่าย มีภาษาไทย เก็บรายละเอียดได้ดี
https://apps.apple.com/th/app/set-happy-money/id1483898402
Money Manager Expense & Budget
https://apps.apple.com/th/app/money-manager-expense-budget/id560481810
2.เหลือเท่าไหร่ นั่นคือ เงินทุน ครับ
หลังจากคำนวณแล้ว
(รายได้ - รายจ่ายที่จำเป็น ) - รายจ่ายที่อาจจะต้องจ่าย
*** (- รายจ่ายที่อาจจะต้องจ่าย) = เราสามารถใส่ตัวเลขประมาณการได้ เรียกว่าการวาง Budget หรือการวางกรอบให้กับค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้
บางท่าน อาจจะเหลือ 60% , 50% , 40% , 30% ,20% ,10%
ตัวช่วยคำนวณ
แอฟ Ez Financial Calculators - เครื่องมือคำนวณเยอะมาก มีหมดในที่เดียว
https://apps.apple.com/th/app/ez-financial-calculators/id494170744
คำนวณแล้ว 💸 เหลือเท่าไหร่กันครับ ⁉️
หากให้ผมแนะนำ สัดส่วน ที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับ การแบ่งไปลงทุนในแต่ละเดือนของท่าน คือ ควรจะอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 20 % ครับ เช่น ถ้ามีรายได้ ที่ 15,000 บาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว และกันในส่วนของค่าใข้จ่ายที่อาจจะต้องจ่ายแล้ว ก็ควรจะเหลือไว้ให้เงินที่จะลงทุน ต่อเดือนซัก 3,000 บาท
ถ้าไม่ถึง 20% ยังไปต่อได้ไหม ❓
ได้ครับ แต่ เราอาจจะต้องลงทุนในเรื่องของเวลา มากขึ้นเท่านั้นเองครับ ⏰ เช่น ถ้าสัดส่วนของลงทุนที่เหมาะสมคือ 20%
แล้ว เดือนนี้คุณอาจจะเหลือแค่ 10% ก็เท่ากับว่า คุณจะต้องไปเก็บอีก 10% เดือนหน้า เพื่อให้ได้ 20 % เท่ากับใช้เวลาไป 2 เดือน ถ้าตามอัตราส่วนนี้
3.ลงทุนที่ไหน ‼️ ยังไงต่อ
แน่นอน ว่า การทุนลง มีช่องทางให้เลือกเยอะม๊ากกก
แต่การเริ่มลงทุน ให้เหมาะสมกับ ตัวเราเอง และ ลงทุน ที่เราได้ตัวเลขมาแล้ว จาก 2 ข้อบน
ผมไกด์ไลน์ อย่างนี้ครับ
ลองประเมินจาก ตลาด ที่เราจะเอาลงไปวางนะครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเราลงทุน จะต้องคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมครับ เช่น เมื่อลงเงินไปแล้ว ต้องคิดว่า
3.1 ผลตอบแทนจะโตกี่ % ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ?
3.2 เมื่อได้ผลตอบแทนแล้ว ต้องต่อยอดได้อีก โดยไม่กระทบกับเงินต้น
3.3 เมื่อผลตอบแทนไม่เป็นไปตามเป้า ต้องรับมือยังไง?
1
ตลาด ที่เรา จะเริ่ม วางเงินลงทุน ได้ ก็ เช่น
• ขายของ per-order ออนไลน์
ทุกวันนี้ช่องทางเยอะแยะไปหมดเลย ของดีคือใช้เงินลงทุนไม่เยอะ ไม่ต้องสต็อกของ แถมเครื่องมือในการขาย ก็มีให้เลือกเยอะ เช่น Kaidee , Shopee , youpik , เพทเฟสบุ๊ก แต่การลงทุนแบบนี้ คุณจะต้องเป็นจิตวิญญานของนักขาย เป็นคนชอบช็อปปิ้งออนไลน์ เพราะคุณจะต้องเข้าใจ ลูกค้า และสินค้า ต้องใช้เวลา กับ มันประมาณนึง เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะ
• ลงทุนกับ แฟรนไชน์
บางท่านอาจจะมีที่ หรือ มองเห็นทำเลทอง ที่คิดว่าน่าจะเหมาะกับการ ซื้ออะไรที่ มีวิธีการจัดการแบบสำเร็จรูป มาวางขาย ถ้าเข้าถูกที่ ถูกจังหวะ ก็มีโอกาสทำกำไรแน่ๆ แต่ ธุรกิจ นี้เงินเริ่มต้น นอกจากค่าแฟรไชน์ ค่าเช่าที่ แล้ว ลงทุนต้องคิดให้ดีก่อน เพราะมีค่าใช้จ่ายปลีกย่อยเยอะและคุณต้องพร้อมลงแรง เสียเหงื่อหน่อยนะครับ แต่อาจจะเหมาะกับเราก็ได้
• ลงทุนในกองทุนรวม
เป็นการเอาเงินมาฝาก ให้กองทุนเป็นผู้จัดการดูแล โดยที่เราต้องซื้อรับผลตอบแทน และความเสี่ยงตามสัดส่วนที่เค้าให้เราประเมินตัวเองตอนแรก ก่อนลงทุน และถ้าเป็นกรณีของLTF/RMFก็ยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ด้วย
• ลงทุนในตลาดหุ้น (ตลาด SET)
เป็นการซื้อขาย ที่มีปัจจัย ในเรื่องของ การดำเนินงานของธุรกิจนั้นๆ ต้องเรียนรู้เยอะ ทำการบ้านเยอะ รู้จักหุ้นที่ต้องการลงทุน รู้ว่าหุ้นนั้นเป็นหุ้นประเภทไหน โตเร็ว โตช้า มีผลกำไร หรือยังขาดทุนอยู่ มีเงินปันผลไหม ส่วนต่างราคาเท่าไหร่ ซึ่งมีเหตุผลมากมายก่ายกองที่เราจะต้องรู้ ยิ่งรู้มาก ยิ่งได้เปรียบมาก เพราะตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหุ้นกว่า 600 ตัว
ส่วนตัว ลงทุนในตลาด SET ใช้เงินลงทุนไม่เยอะ ขึ้นอยู่กับบริษัทที่คุณไปเปิด ว่าต้องใช้เงินขั้นต่ำเท่าไหร่ ในการเปิดพอร์ต
ผมแนะนำอย่างนี้ครับ เข้าใจง่าย สุด คือ การเปิด พอร์ตแบบ
cash balance - คือการโอนเงินเข้าไปใน พอร์ตหุ้นเรา โดยของผมจะเริ่มลงทุนที่ 5,000 บาท ก็จะเติมเข้าไป 5,000 บาท เพื่อซื้อขาย หุ้น ในตลาด SET ได้เลย ซึ่งบาง บริษัท ซื้อขายกันต่อหน่วย เริ่มต้น ไม่ถึง 1 บาท ก็มีครับ ตามสัดส่วนที่เค้าจัดสรร ไปจนถึง 800 บาท ต่อหน่วยก็มี มาแล้วเร็วๆนี้เลย
ตลาดนี้ ใช้เงินลงทุนไม่เยอะครับ แต่ต้องศึกษาให้มาก 📚📊
• ลงทุนในตลาด คริปโทเคอร์เรนซี
ตลาดนี้ยังเปิดกว้าง พอตัวครับ แล้ว ความตื่นตัวของ นักลงทุนก็เยอะมาก เพราะ เทคโนโลยี อย่าง บล็อคเชน กำลังเข้ามามีบทบาทในยุดใหม่ นี้อย่างมหาศาล ตลาดนี้มีผลตอบแทนที่สุงมาก และมีความผันผวนมากเช่นกัน อีกทั้งยังมี พวกเหรียญ Scam หรือ พวกแชร์ลูกค้าโซ่ แฝง อยู่ในนี้อีก ดังนั้น สำคัญเลยที่เราจะต้องมีความรู้ ประมาณนึงสำหรับ ตลาดนี้ แต่แน่นอนว่า ตอนนี้ ไม่ว่าจะเลือกลงทุนอะไร ก็ต้องมีความรู้ในเรื่องลงทุน อยู่แล้ว
รอบหน้า จะมาพูดเรื่อง การ ลงทุนแบบ DCA : (dollar-cost averaging) การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
เพื่อที่จะทำ Passive income แบบประยุกต์ กับการลงทุน ให้เหมาะกับตัวเราเอง 💰
วันนี้สวัสดี 🙏🏻
16 บันทึก
7
3
6
16
7
3
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย