Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
8 ม.ค. 2021 เวลา 03:38 • ธุรกิจ
เปิดเส้นทางรวยใน 1 ปี ‘อีลอน มัสก์’ แชมป์เศรษฐีโลกคนใหม่
ส่องการเติบโตด้านความรวยใน 1 ปีของ “อีลอน มัสก์” เจ้าของธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้า “เทสลา” ผู้สร้างความมั่งคั่งได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังขึ้นแท่นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก แทน “เจฟฟ์ เบซอส” แห่งอเมซอน
เปิดเส้นทางรวยใน 1 ปี ‘อีลอน มัสก์’ แชมป์เศรษฐีโลกคนใหม่
เมื่อเอ่ยชื่อ “อีลอน มัสก์” นักธุรกิจไฟแรงวัย 49 ปีที่เกิดในแอฟริกาใต้ หลายคนย่อมนึกถึงความเป็นนักคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ และนิสัยที่ตรงไปตรงมาของเขา ถึงแม้อาจดูตรงเกินไปจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในบางครั้ง
แต่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่น่าประหลาดใจไม่น้อยคือ มูลค่าความมั่งคั่งของมัสก์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เหตุผลหลักมาจากมูลค่าหุ้นของ “เทสลา อิงค์” บริษัทรถพลังงานไฟฟ้าของเขา ที่ทะยานติดลมบนในปี 2563 ซึ่งเป็นปีทองของเทสลาอย่างแท้จริง
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ขณะที่หุ้นดัง ๆ ส่วนใหญ่พากันร่วงหนัก มีหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่มาแรงกว่าเทสลาซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 900% ในรอบ 1 ปีนับจากเดือน ม.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน
ช่วงการซื้อขายระหว่างวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) ราคาหุ้นของเทสลาพุ่งราว 6% มาอยู่ที่กว่า 800 ดอลลาร์ ทำให้ความมั่งคั่งของมัสก์ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลา แซงหน้า “เจฟฟ์ เบซอส” ผู้ก่อตั้งอเมซอน ดอท คอม ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของสหรัฐ ซึ่งครองแชมป์รวยที่สุดในโลกมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2560
1
มั่งคั่งทะลุ 5 ล้านล้านบาท
ข้อมูลจากดัชนีมหาเศรษฐีพันล้านบลูมเบิร์กชี้ว่า มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของผู้ก่อตั้งเทสลาและบริษัทสำรวจอวกาศ “สเปซเอ็กซ์” พุ่งไปถึง 1.88 แสนล้านดอลลาร์ในเวลา 10.15 น.ของวันที่ 7 ม.ค. ตามเวลานิวยอร์ก มากกว่ามูลค่าทรัพย์สินของเบซอสถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะลงมาอยู่ที่กว่า 1.85 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่เบซอสลงมาอยู่ที่ราว 1.84 แสนล้านดอลลาร์
หากตีเป็นเงินบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 30.09 บาทต่อดอลลาร์ (ณ วันที่ 7 ม.ค.) มัสก์มีมูลค่าความมั่งคั่งถึงกว่า 5.56 ล้านล้านบาท ส่วนเบซอส แชมป์เก่า มีความมั่งคั่งกว่า 5.53 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
2
นอกจากนี้ การที่มัสก์นั่งตำแหน่งซีอีโอของสเปซเอ็กซ์ด้วย จึงถือเป็นคู่แข่งสำคัญของเบซอส ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท “บลู ออริจิน” ในอุตสาหกรรมอวกาศ
กว่าจะผงาดขึ้นเป็นคนรวยที่สุดในโลกอย่างวันนี้ ความมั่งคั่งของมัสก์พุ่งทะยานดั่งจรวดของสเปซเอ็กซ์
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของเขาเพิ่มขึ้นกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 4.5 ล้านล้านบาท) จากราว 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.12 แสนล้านบาท) ตอนเปิดศักราช 2563 ซึ่งขณะนั้นมัสก์ยังไม่ติด 50 อันดับแรกทำเนียบมหาเศรษฐีโลกด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าสั่งสมความมั่งคั่งได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
ปัจจัยหนุนหุ้นเทสลาแกร่ง
2
แรงหนุนหลักของมูลค่าทรัพย์สินที่พุ่งพรวดของเศรษฐีเทคโนโลยีรายนี้มาจากราคาหุ้นของเทสลาที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนถึง 743% ตลอดทั้งปีที่แล้ว (ม.ค.-ธ.ค. 2563) ขณะที่มีแนวโน้มสูงที่บริษัทจะทำกำไรรายปีเป็นครั้งแรก รวมถึงการนำหุ้นเทสลาเข้าคำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 และความสนใจอันล้นหลามในธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้าจากบรรดานักลงทุนวอลล์สตรีทและรายย่อย
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นอเมซอนของเบซอสยังเผชิญกับภาวะขาลงต่อเนื่อง ผลจากรัฐบาลสหรัฐเตรียมออกกฎคุมเข้มยักษ์ใหญ่รายนี้เพื่อป้องกันการผูกขาดตลาด
1
ก่อนนั่งบัลลังก์เศรษฐีเบอร์ 1 โลก มัสก์ได้โค่นตำแหน่งเศรษฐีชื่อดังไปหลายรายด้วยกัน
เมื่อเดือน ก.ค. ปีก่อน เขาแซงหน้า “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซีอีโอบริษัทเบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ ขึ้นเป็นเศรษฐีรวยที่สุดอันดับ 7 ของโลก และเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา มัสก์แซงหน้า “บิล เกตส์” ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์เป็นเศรษฐีรวยที่สุดอันดับ 2 ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีความมั่งคั่งสุทธิราว 1.32 แสนล้านดอลลาร์
1
ค่ายรถมูลค่าสูงสุด แม้ยอดขายไม่แมส
1
ความเฟื่องฟูของหุ้นเทสลาเกิดขึ้นหลังจากบริษัททำยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าเกือบถึงเป้ารายปีที่ 500,000คัน โดยขายได้รวม 499,550 คันในปี 2563 ขาดอีกเพียง 450 คันเท่านั้น แต่ก็ยังถือเป็นยอดขายรายปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของเทสลา
3
ขาขึ้นของหุ้นเทสลาในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ยังส่งผลให้บริษัทผงาดเป็นผู้ผลิตรถที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกด้วย
1
ปัจจุบัน มัสก์ถือหุ้นในเทสลาอยู่ประมาณ 21% และมูลค่าตลาดของเทสลาเติบโตมาอยู่ที่กว่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์ ช่วงก่อนปิดตลาดวันที่ 7 ม.ค.
มูลค่าตลาดของเทสลานั้นมหาศาลเทียบเท่ากับมูลค่าของ 8 ค่ายรถมูลค่าสูงสุดในโลกรวมกัน ได้แก่ “โตโยต้า” “โฟล์คสวาเกน” “เดมเลอร์” “เจนเนอรัล มอเตอร์” “บีเอ็มดับเบิลยู” “ฮอนด้า” “ฮุนได” และ “ฟอร์ด”
ส่วนยอดขายรถเกือบ 500,000 คันของเทสลาคิดเป็นไม่ถึง 1% ของยอดขายรถรวมทั่วโลก ขณะที่ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า และ โฟล์คสวาเกน คาดว่าจะมียอดขายพอกันราว 9.1 ล้านคันในปี 2563 ลดลงจากประมาณ 11 ล้านคันในปี 2562 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ฉุดตลาดรถยนต์ซบเซา
อ้างอิง: Bloomberg, CNBC, Express, 9news, Dailykanban
1
33 บันทึก
45
1
24
33
45
1
24
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย