8 ม.ค. 2021 เวลา 10:52 • การศึกษา
EP. 1 เก่งทุกอย่าง รู้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเองพังแน่ !!!
Q1: ทำไมบางคนเก่งแทบตาย แต่อาชีพการงานไปไม่ถึงไหนซักที?
Q2: ทำไมเราถึงไม่เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน?
Q3: ทำไมความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือกับคนรักถึงมีแต่ปัญหา?
Q4: ฉันทำดีที่สุดแล้ว แต่ทำไมมันก็ยังไม่เข้าตาหัวหน้าซักที?
ก่อนที่จะตีอกชกหัวตัวเอง หรือชี้นิ้วไปที่คนอื่น ลองตั้งต้นถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ว่า วันนี้คุณรู้จักตัวเองดีพอแล้วรึยัง หรือที่เรียกว่า Self-Awareness เพราะหากคุณไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่คุณเป็นอยู่มันส่งผลกระทบอย่างไรกับตัวคุณเองและคนรอบข้างบ้าง คุณก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ตรงจุด
Self-Awareness คือ??
การรู้จักตัวเองในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ความสามารถ ทักษะต่างๆ นิสัยใจคอทั้งด้านสว่างและด้านมืด สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ พฤติกรรม ความเชื่อ ค่านิยม
ทำไมต้องมี Self-Awareness??
- เพื่อพัฒนา ปรับปรุง ปรับเปลี่ยนตัวเองได้อย่างต่อเนื่องและถูกทิศทาง
- เพื่อควบคุมไม่ให้ด้านมืดหรือพฤติกรรมที่ไม่ดีต่างๆ ออกมาเพ่นพ่านสร้างผลกระทบให้กับตัวเองและผู้อื่น
- เพื่อมีสติรู้เท่าทัน เมื่อมีสิ่งต่างๆ มากระทบจิตใจ ความเชื่อ หรือค่านิยมของเรา
จะมี Self-Awareness ได้อย่างไร??
1. ผ่าน Self-Reflection หรือการนั่งทบทวนตัวเองในแต่ละวัน แต่วิธีนี้ค่อนข้าง
อันตรายหากเราเป็นคนที่ความมั่นใจสูง และชอบคิดเข้าข้างตัวเอง
2. การขอ Feedback จากคนรอบข้าง โดยเริ่มจากคนที่เราไว้ใจ ให้ความเคารพ
ศรัทธา หรือเป็น Role Model ก่อนก็ได้ แต่ถ้าจะให้เจ๋งมากขึ้น ลองขอ Feedback
จากคนที่เค้าไม่ชอบเราดู เพราะคนๆ นั้นจะมีมุมมองตรงไปตรงมาให้เราเยอะมาก
และไม่อวยกันแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อรับ feedback มาแล้วก็ต้องมาพิจารณา
กลั้นกรองก่อนว่าสิ่งที่เค้าพูดมันใช่หรือไม่ใช่ จะให้ดีต้องขอจากหลายๆ คน ถ้าเรื่องไหนที่ทุกคนพูดตรงกัน ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นความจริง เพียงแต่ที่ผ่านมามันอาจเป็น Blind Spot ของเราเท่านั้น
3. ทำแบบทดสอบ เดี๋ยวนี้มีแบบทดสอบเยอะแยะมากมายในตลาดที่จะช่วยให้คุณ
รู้จักตัวเองในหลายๆ แง่มุมมากขึ้น เช่น
- Strength Finder (เพื่อรู้จัก Talents ของตัวเอง เพราะถ้าคุณมัวแต่ปรับปรุงจุดอ่อน คุณก็จะเป็นได้แค่คนเก่งตามมาตรฐานทั่วไป แต่ถ้าคุณพัฒนาจุดแข็ง คุณจะโดดเด่นเหนือใคร)
- Enneagram (ลักษณะคน 9 แบบที่จะทำให้คุณรู้จักด้านมืดของตัวเอง)
- Hogan, MBTI, DISC เป็น Personality Test
- Whole Brain เพื่อรู้จักกระบวนการทำงานของสมอง ที่ส่งผลต่อความคิด พฤติกรรม และความชอบของเรา
- 360 degree assessment เป็นแบบทดสอบที่ให้เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ลูกน้อง ลูกค้า ร่วมกันประเมินเราในทุกมิติ ซึ่งจะทำให้เราได้คำตอบหลากหลายแง่มุมจากผู้คนที่ทำงานร่วมกับเราแบบ 360 องศาจริงๆ
2
ศัตรูของ Self-Awareness คือ??
EGO EGO EGO EGO EGO EGO EGO EGO EGO EGO...............................................
คนไม่รู้จักตัวเองดี เพราะอาจมี Blind Spot ที่ตัวเราเองมองไม่เห็นและไม่เคยรู้ตัวมาก่อน อันนี้ไม่เป็นไร เพราะเมื่อเรารู้แล้ว เราจะพยายามปรับ
แต่คนที่รู้ แต่กลับไม่เปิดใจยอมรับ เพราะ Ego บังตานี่แหละ น่ากลัวที่สุด
(แต่ก็เข้าใจได้นะ คนบางคนมีประสบการณ์ชีวิตเยอะ มั่นใจในตัวเองสูงเพราะประสบ
ความสำเร็จและได้รับคำชื่นชมมาตลอด ไม่แปลกนะที่เค้าจะยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น
และไม่สามารถยืดอกรับความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบของตัวได้)
เอาเถอะสหาย ego ทั้งหลายลองคิดอีกมุมหนึ่งว่า "ถ้าฉันดีทุกอย่าง เก่งทุกอย่าง
Perfect ทุกทาง ชีวิตมันต้องไร้ปัญหาแล้วสิ หรือเผลอๆ ต้องนิพพานแล้วล่ะ"
ค่อยๆ ลองเปิดรับสิ่งที่คนอื่น feedback มาทีละนิด โดยเริ่มจากเรื่องง่ายๆ ก่อนก็ได้
เช่น เป็นคนไม่ยิ้มเลย ชอบพูดเสียงแข็ง ชอบเคี้ยวข้าวเสียงดัง แล้วลองปรับดู แรกๆ อาจจะขัดจิต ทำใจลำบากนิดนึง แต่มันจะค่อยๆ ดีขึ้น เชื่อสิ!!!
3
ผู้นำระดับโลกหลายคนต่างให้ความสำคัญกับเรื่อง Self-Awareness มากๆ เพราะนั่นจะทำให้พวกเค้ารู้เท่าทันตัวเอง เพื่อที่จะปรับปรุง ปรับเปลี่ยน และพัฒนาตัวเองให้เป็น
"ตัวฉันเองใน Version ที่ดีขึ้นทุกๆ วัน" จึงไม่แปลกที่พวกเค้าจะประสบความสำเร็จก้าวหน้าในหน้าที่การงานและความสัมพันธ์ อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง
3
คราวนี้ถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราจะมาสำรวจตัวเองกันว่าเราเป็นคนที่มี Self-Awareness หรือไม่ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ แปลว่าคุณมี Self-Awareness ต่ำ
1. การไม่ยอมรับความผิด, ความผิดพลาด หรือความอ่อนแอของตัวเอง
(คนที่สามารถยอมรับความอ่อนแอหรือความผิดพลาดของตัวเองได้ คือคนที่แข็ง
แกร่งทางด้านจิตใจ และมี Emotional Intelligence ที่สูง)
2. ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เช่น มองว่าคนอื่นโง่ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกฉลาด หรือวิจารณ์การแต่งตัวของคนอื่น เพื่อทำให้เรารู้สึกว่าเรามี taste ดีกว่า การที่เรามัวนั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น เราจะไม่มีเวลาได้นั่งพิจารณาตัวเองเลย
3. ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง ชอบหลีกเลี่ยงการตัดสินใจอะไรยากๆ หรือใช้ความรู้สึกในการตัดสินเรื่องต่างๆ คนแบบนี้จะไม่รู้ตัวว่าจริงๆ แล้วปัญหาคืออะไร และลึกๆ ก็คือคนที่ไม่เข้าใจตัวเอง (ข้อนี้ผู้เขียนเป็นบ่อยมากค่ะ)
1
4. ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองรู้สึกอะไร หรือต้องการอะไร และไม่พยายามหาคำตอบ
หรือคำอธิบายให้กับความรู้สึกเหล่านั้น เพียงเพื่อที่จะวิ่งหนีความจริงที่ตัวเองไม่อยากจะยอมรับ เช่น ฉันโกรธเพราะฉันรู้สึกอิจฉา หรือน้อยใจที่คนอื่นไม่เห็นความสำคัญ (ผู้เขียนก็เคยเป็นเช่นกัน)
5. กังวลกับอนาคต จนทำให้ปัจจุบันไม่ Productive อีกทั้งยังสร้างความเครียด
และอึดอัดให้กับตัวเอง นั่นเป็นเพราะเราไม่ไว้ใจตัวเอง ไม่เชื่อในศักยภาพของตัวเอง ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เลยไม่รู้ว่าจะเอายังไงกันแน่กับอนาคต (ข้อนี้ผู้เขียนก็เป็นบ่อยเช่นกันค่ะ)
6. หมกมุ่นกับอดีต เพราะอาจรู้สึกว่าเราสามารถควบคุมมันได้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว คนพวกนี้จะชอบคิดวนเวียนกับอดีต รู้สึกเศร้าหรือโกรธตัวเอง ในขณะที่คนที่มี
self-awareness จะอยู่กับปัจจุบัน และเรียนรู้ที่จะใช้อดีตเป็นบทเรียน และเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตเสมอ
อย่างน้อยหากคุณกล้ายอมรับว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้อยู่บ้าง จงดีใจเถอะ เพราะคุณกำลังเริ่มมี Self-Awareness แล้วล่ะ
1
โฆษณา