9 ม.ค. 2021 เวลา 01:00 • ปรัชญา
หากคนมองเรื่องร้ายๆให้เป็นเรื่องดี จะทำให้คุณมีความสุขขนาดไหน
เพื่อนผม ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาเล่าให้ผมฟังว่า
ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่ทรมานมากไม่ว่าจะได้เห็นพ่อแม่ลำบาก ร่างกายที่มีแต่แผลและแสบตลอดเวลาขยับไปไหนไม่ได้กว่าจะหายเป็นปกติก็เกือบจะ 6 เดือน
พอหายก็บอกว่า ตอนนั้นเขาโชคดีนะที่ไม่เป็นไรมากและอีกอย่างโรงพยาบาลก็อยู่ใกล้ด้วยแล้วก็ไม่โดนจุดสำคัญ แล้วก็ยังรู้ด้วยว่า ตอนลำบากใครอยู่ข้างเขา
ผมเลยนึกถึงนิทานเรื่องหนึ่ง
มีเรื่องอยู่ว่า มีพระราชาคนหนึ่งมีอมาตย์คู่ใจ มีปัญหาอะไรก็จะ เรียกอมาตย์มาปรึกษาทุกครั้ง
บ้านเมืองเกิด กบฏ ลุกร้อนเป็นไฟ พระราชาไม่ทรงสบายพระทัยเลย เรียก อมาตย์มาปรึกษาว่า บ้านเมือง เกิดกบฏจะทำยังไงดี
อมาตย์ กราบทูล พระราชา ไป ว่า มีกบฏก็ดีแล้วพะยะค่ะ
พระราชาได้ทรงฟังคำตอบ แล้วได้ตรัสว่า ดียังไงล่ะ บ้านเมืองไม่สงบ
อมาตย์ กราบทูลว่า มันดีตรงที่พระองค์จะคิดได้ตอนนี้ ว่าใครจงรักภักดีต่อพระองค์ พระองค์จะรู้ได้ตอนมี กบฏ เท่านั้นพะยะค่ะ ตอนบ้านเมืองสงบพระองค์ไม่ทราบหรอก พะยะค่ะ
พระราชาได้ทรงตรัสว่ามันก็จริงของเจ้า พระราชาเลยลูกครึ่งปราบกบฏให้เรียบ บ้านเมืองเลยกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
และมีวันหนึ่ง พระองค์จะทรงขี่ม้า ที่พระองค์เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กๆ พอจะทรงขี่ม้าเท่านั้นแหละ ม้าก็สะบัดหนีหายเข้าไปในป่า หายไปหลายวัน พระองค์ทรงคิดถึงม้ากลุ้มพระทัย เลยเรียกอมาตย์มาปรึกษาแล้วตรัสว่า ท่านอมาตย์ม้าของเราหายท่านว่าเราควร อย่างไรดี
อมาตย์เลยทูลกลับไปว่า ม้าหายก็ดีแล้วพะยะค่ะ พระราชาตรัสถามว่า แล้วมันดียังไงม้าหาย
อมาตย์ กราบทูล กลับไปว่า ก็มันดีตรงที่พระองค์ยังไม่ทรงขึ้นขี่ พะยะค่ะ ถ้าเกิดพระองค์ทรงขึ้นขี่ม้า จะทรงหายทั้งม้าหายทั้งพระองค์ และป่านี้คงจะยิ่งแย่กว่านี้ พะยะค่ะ
พระราชาตรัสกลับไปว่ามันก็จริงของท่าน
แล้วก็มีอยู่อีกครั้งหนึ่งพระราชาได้กวักแกว่งดาบ แล้วดาบก็เกิดหลุดมือไป ตกใส่ฝ่าพระบาท โดนนิ้วพระบาท ขาดไป 1 นิ้ว หลายวันต่อมาพระราชาได้ทรงตรัสเรียกอำมาตย์มาปรึกษาว่า อมาตย์เราควรจะทำยังไงดี นิ้วเท้าของเราด้วนท่านช่วยคิดหน่อย
อมาตย์ก็ทูลกลับไปว่า นิ้วพระบาทด่วนก็ดีแล้วพะยะค่ะ
พระราชาทรงกริ้ว เลยทรงสั่งขังอมาตย์ โดยไม่ทรงตรัสถามสักคำว่ามันดียังไง
แล้วมีวันหนึ่งพระองค์ทรงประพาสป่าล่าสัตว์ มีบริวารตามขบวนเสด็จไปไม่กี่คน พ่อเข้าป่าลึกเข้าลึกเข้า ก็ถูกคนป่าเผ่ากินคนจับตัวไปขังไว้ แล้วจับตัวบริวารของพระราชา กินวันละคนวันละคนจนหมด
เหลือพระราชาคนสุดท้ายไว้กินทีหลังเพราะผิวพรรณดี. แล้วก็ถึงคิวพระราชา เลยจะไปอาบน้ำล้างตัว พอเห็นนิ้วเท้าของพระราชา ก็ตกใจกันทั้งเผ่า เลยรีบไปบอกหัวหน้าเผ่าว่า เอายังไงดีถ้าหัวหน้า อาหารคนสุดท้ายของพวกเรามีปัญหา
หัวหน้าเผ่าพูดแล้วมันมีปัญหาอะไรล่ะ
ลูกน้องเลยตอบไปว่านิ้วเท้ามันหายไป 1 นิ้ว หัวหน้าเลยตอบกลับไปว่า นิ้วไม่ครบเรากินไม่ได้มันจะเป็นจะเป็นอัปมงคลกับเผ่าเรา มันมาทางไหน ปล่อยมันไปทางนั้น พระราชาเลยรีบกลับไปสู่พระราชวังขึ้นครองราชย์อย่างผาสุข
ครั้นเพราะพระองค์ทรงสบายพระทัย ก้มลงเห็นนิ้วเท้าที่ด้วน จึงบอกกับตัวเองว่าเรานี่โชคดีจริงๆที่นิ้วเท้าด้วน
แล้ววินาทีนั้นพระองค์ก็ทรงนึกถึง อมาตย์ที่เคยพูดว่าดีแล้ว ที่พระองค์ พระบาทด้วน
พระองค์เลยเรียกบริวารมาตรัสถามว่า อำมาตย์ ยังอยู่ไหม พอได้พูดคุยกับบริวารเลยจำขึ้นได้ว่าได้ ทรงสั่งขังอมาตย์ไว้
เลยสั่งให้บริวารนำตัว อมาตย์ เข้ามาเฝ้า พระราชาได้เห็นอำมาตย์นั่งอยู่ต่อหน้าเลย ตรัสขอโทษอมาตย์ ไปว่า ข้าได้สั่งขังท่านโดยไม่ถามเลยสักคำขอโทษท่านจริงๆ
อำมาตย์ กราบทูลว่าดีแล้ว พะยะค่ะ ที่พระองค์ได้ทรง สั่งขังกระหม่อม
พระราชาตรัสกลับไปว่าแล้วมันดียังไงล่ะ
อมาตย์ก็เลยทูลไปว่า ก็ถ้าพระองค์ไม่ทรงสั่งขังกระหม่อม กระหม่อมคงจะโดนเผ่ากินคนกินไปแล้วพะยะค่ะ
เห็นไหมล่ะครับว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ ถ้าคุณคิด ว่าทำไมเส้นทางนั้นต้องเกิดขึ้นกับเราด้วย ให้คุณคิดกลับไปว่า ดีแล้วล่ะเราโชคดีจริงๆ เชื่อเถอะว่าคุณจะได้เจอแต่สิ่งดีๆ อย่างแน่นอน
ฝากไลค์ฝากแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
โฆษณา