9 ม.ค. 2021 เวลา 05:22 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ฺBetter Days หนังหม่นหมองที่เต็มไปด้วยความหวัง

เนื่องจากเป็นสายสุขนิยม หลงบันเทิง ปกติจึงไม่ค่อยนิยมดูหนังสายอาร์ต สายดาร์ก สะท้อนสังคมนัก
ดังนั้นตอนเรื่องนี้เข้าฉายในเมืองไทยเมื่อต้นปี 2020 หาได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
เหตุผลที่ยอมไปควานเรื่องนี้มาดูก็เพราะได้ดูซีรีย์ เรื่องเลือดใหม่พันธุ์มังกร แล้วสะดุดตา อี้หยางเซียนชี เห็นเลยว่าเป็นเด็กมีของ
แถมปีที่แล้ว ( 2021) เขาเป็นข่าวดังทั้งปี ทั้งได้รางวัล รุ่นใหญ่ในวงการล้วนแต่ชื่นชมการแสดงของเขามาก ยิ่งกว่านั้นความนิยมยังแซงสมาชิกอีกสองคนในวงไปในหลาย ๆ โพล เลยอยากรู้ว่าเป็นเพราะอะไร เก่งจริงไหม
ซีรียส์เรื่อง เลือดใหม่พันธุ์มังกร
ซึ่งพอได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ไม่แปลกใจ
Better Days - ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ- เป็นเรื่องราวสะท้อนความร้ายแรงในการบูลลี่กันของเด็กนักเรียนในโรงเรียนจีน รวมถึงตั้งคำถามเรื่อง "เกาเข่า" การสอบเอนทรานซ์สุดโหดของจีน ที่กลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กนักเรียนจีนทุกคน ไม่ว่าจะทำผิดถูกลงโทษอย่างไร ก็ต้องตะเกียกตะกายไปสอบให้ได้
มีข่าวออกมาว่าหนังเรื่องนี้เกือบไม่ได้ฉาย เพราะกองเซ็นเซอร์จีนคิดเยอะ กลัวกระทบภาพลักษณ์ของระบบการศึกษาที่ปล่อยให้มีการบูลลี่กันในโรงเรียน รวมไปถึงระบบการสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยด้วย
ในที่สุดกองเซ็นเซอร์ก็ใจกว้างพอจะปล่อยหนังวิพากษ์วิจารณ์สังคมออกมา จริง ๆ ควรสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่รัฐบาล กระทรวงศึกษา โรงเรียน ครู เท่านั้น ครอบครัว พ่อแม่ ก็ล้วนแต่มีส่วน "สร้าง" ปัญหา
ดังนั้นเทวดาที่ไหนก็แก้ป้ญหานี้ให้ไม่ได้ นอกจากทุกคนต้องช่วยกัน
หนังสะท้อนความรู้สึกของเด็ก ๆ ที่อ้างว้าง โดดเดี่ยว ความกดดันมากมายมหาศาลจากความคาดหวังของพ่อแม่ ครู โรงเรียน และสังคม หลายคนระบายด้วยการแกล้งคนอื่น ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ต้องมีคนที่เป็นเหยื่อ
ชอบบทมาก คนสองคนที่ชีวิตโคตรจะรันทดหดหู่ แต่พอมาเจอกันกลับกลายเป็นความอบอุ่น สดใส งดงาม เพราะเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ เอื้ออาทร จริงใจ รักกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ที่สำคัญคือมันมีหวังเสมอ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน
เผอิญชอบหาทางไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ มากกว่านั่งกอดเข่าอยู่ในความืดมิด แล้วบอกตัวเองว่าไม่ทางไป ก็ลุกขึ้นมาก่อนไหม หาทางก่อนไหม
ชอบไดอาล็อก ชอบภาพ แทบจะเรียกว่าตั้งแต่ฉากแรก ที่เฉินเหนียนสอนเด็กนักเรียนว่า เรื่อง tense ภาษาอังกฤษ บอกเวลาที่ต่างกันไป
เมื่อก่อนนี่เคยเป็นสนามเล่นของเรา
นี่เคยเป็นสนามเด็กเล่นของเรา
นี่คือสนามเล่นของเรา
แค่สามประโยคนี้ก็บอกอะไรมากมาย
ที่ขำคือ ตอนเฉินเหนียนไปค้างบ้านเสี่ยวไป๋ (หลิวไป๋ชาน) ครั้งแรก แล้วถามว่าแข็งไหม ไม่เฉพาะตัวละครเท่านั้น คนดูก็คิดไปไหนต่อไหนแล้ว 555
เออ เว้ย ในสถานการณ์แบบนี้ คิดไดอาล็อคแบบนี้ก็ได้เหรอ คือมันแอบมีอารมณ์ขันในขณะที่บอกคาแรตเตอร์ความใสซื่อของเฉินเหนียนไปด้วย
ว่าด้วยฉากที่ชอบ
1. ภาพที่เสี่ยวไป๋หลบซ่อนหน้าตาในฮู๊ด เดินตามคุ้มครองเฉินเหนียน ในตอนต้นเรื่อง แล้วกลายมาเปิดหน้าเปิดตา หล่อ สดใส แต่ยังคงเดินตามในตอนจบ
2. ตอนเสี่ยวไป๋ จัดฉากใส่ร้ายตัวเอง เป็นฉากบอกรักที่โคตรจะซาบซึ้งเลย นักแสดงเล่นถึงมาก
3. ตอนที่ตำรวจพยายามหลอกล่อให้สารภาพ แต่ทั้งคู่ไม่หลุดเลย แสดงถึงความไว้ใจ เชื่อใจกันขั้นสูงสุด
4. ตอนเสี่ยวไป๋โกนหัวเฉินเหนียน เฉินเหนียนไม่ร้องไห้แล้ว แต่เขา น้ำตาไหลตลอดเวลา โดยไม่พูดอะไร แต่มันบอกถึงความเสียใจ คับข้องใจ ที่ไม่อาจปกป้องคนที่ตนเองรัก
5.ภาพตอนที่เฉินเหนียนมาเยี่ยมเสี่ยวไป๋ในคุก มันเป็น "ภาพ"ยนตร์ จริง ๆ ภาพเดียวบอกร้อยแมสเซส
นักแสดง
โจวตงหยู เล่นเป็น เฉินเหนียน ไม่บอกไม่รู้เลยว่าอายุ 27 แล้ว เล่นเป็นเด็กอายุ 17 ได้เนียนมาก สายตา ภาษากาย ดีสุด ๆ พอกลับไปดูประวัติแล้ว ไม่แปลกใจเลย เพราะเธอเป็นหนึ่งในดาราหน้าใหม่ในหนังของ จางอี้โหม่ว มาตั้งแต่อายุ 17
อี้หยางเซียนสี่ เล่นเป็นเสี่ยวไป๋ อายุเพิ่ง 17-18 ยิ่งกว่ามีของอีก ยังไม่โตเต็มที่เลย เก่งขนาดนี้แล้วหรือ ไม่ต้อห่วงเรื่องมีอนาคตในวงการแสดงหรือไม่
ดูเบื้องหลังนี่รู้เลยว่ายังเด็ก แถมเป็นเด็กที่เติบโตมาเป็นอย่างดี สูบบุหรี่ไม่เป็น และเป็นทูตต่อต้านการสูบบุหรี่ขององค์การอนามัยโลกประจำจีน
ฉากคุมคามเฉินเหนียนในตอนแรก ตอนซ้อมก็ดูจะกลุ้มใจ แต่ตอนเล่นจริง ไม่เห็นร่องรอยเคอะเขินอะไรเลย
ใครยังไม่ได้ดูเรื่องนี้ แนะนำให้หาดูเลย ดีจริงตามที่ใคร ๆ อวยนั่นแหละ
ใครว่าหนังรางวัล หนังดี จะได้เงินด้วยไม่ได้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา