9 ม.ค. 2021 เวลา 08:19 • สุขภาพ
"วัคซีน" โควิด 19 ความหวังของมวลมนุษยชาติ กำลังเดินทางถึงไทย ทำไมต้องสั่งของ "แอสตร้า-ซิโนแวค" กับสารพัดคำถาม แล้วใครควรต้องฉีดบ้าง ฟรีหรือต้องจ่ายเอง เอาอยู่หรือไม่กับเชื้อกลายพันธุ์ในอนาคต
.
คุณหมอศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบายถึงแผนการจัดซื้อวัคซีน ตอนนี้บ้านเราสั่งซื้อมาจาก 2 เจ้า คือ ของบริษัทแอสตร้าเซเนก้าสั่งมาล็อตแรก 26 ล้านโดส และซิโนแวคจากจีนอีก 2 ล้านโดส
2
พูดถึงเจ้าแรกก่อน คือ วัคซีนของบริษัทแอสตร้า ทำไมไทยถึงเลือกบริษัทนี้ คุณหมออธิบายว่า ปัจจัยสำคัญในการจะตัดสินใจซื้อวัคซีนของบริษัทใดจากที่ผลิตกันทั่วโลกนั้น ต้องพิจารณาหลายด้าน ทั้งเรื่องของเวลา ความปลอดภัย ประสิทธิผลในการสร้างภูมิต้านทานเชื้อโควิด 19 อย่างของแอสตร้าเป็นเจ้าแรกๆที่พัฒนาสำเร็จเร็ว และดูจากศักยภาพของเราในเรื่องงบประมาณ การขนส่งจัดเก็บ พอจะมีความสามารถจัดซื้อมาใช้ในการควบคุมโรคให้ครอบคลุมประชาชนกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดได้ ถ้าซื้อของแพงแต่ขนส่งลำบากมันก็ไม่ไหว
9
ทีสำคัญวัคซีนของ"แอสตร้า" มองในแง่ความคุ้มค่า เราได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากออกฟอร์ดด้วย จริงๆแล้วแอสตร้า เขาขายวัคซีนให้กับทั่วโลก แต่ช่วงแรกวางเป้าหมายเพื่อช่วยมวลมนุษยชาติก่อน พูดง่ายๆ ขายแบบไม่เอากำไรแต่ก็ไม่ขาดทุน แผนการผลิตคือ มีการประกาศหาโรงงานรับจ้างผลิตทั่วโลก สำหรับไทยนั้น เราได้บริษัทสยามไปโอไซแอนซ์ เป็นผู้รับจ้างผลิตภายใต้กระบวนการควบคุมคุณภาพของแอสตร้า โดยเขาจะเอาเชื้อมาให้เราเพาะ พัฒนาตามขั้นตอน และคอยดูแลทุกอย่างตั้งแต่ต้นทางเพื่อให้วัคซีนมีประสิทธิผลมากที่สุด
6
ถ้าของแอสตร้าดี คำถามคือว่า ทำไมสั่งแค่ 26 ล้านโดส...
อธิบดีกรมวิทย์อธิบายว่า อันที่จริงแอสตร้าฯมีเครือข่ายกำลังการผลิตสูงมาก เฉลี่ยปีละ 200 ล้านโดส แต่ข้อจำกัดคือต้องกระจายวัคซีนไปทั่วโลก และเราก็ต้องการให้มีทางเลือกอื่นๆด้วย ถ้าหากบริษัทอื่นผลิตวัคซีนได้ผลมากกว่า เราก็ไปซื้อจากเจ้าอื่นๆได้ พูดง่ายๆคือ ลองสั่งมาใช้ก่อนถ้าดีก็สั่งเพิ่มได้ ซึ่งจริงๆก่อนหน้านี้กว่าจะสั่งจองก็ยากมาก คาดว่าจะได้วัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนราวๆเดือน พ.ค.
5
ส่วนอีกล็อตของจีน สั่งมาจากบริษัทซิโนแวค 2 ล้านโดส ตรงนี้ คำนึงถึงปัจจัยเรื่องของเวลา เพราะจะได้รับวัคซีนเร็วกว่าของบริษัทแอสตร้าฯ แม้ว่าจะมีคำถามถึงความปลอดภัยเนื่องจากผลการทดสอบเฟสที่ 3 ยังไม่ออกมา แต่จริงๆเราทราบแล้ว รอแค่ประกาศอย่างเป็นทางการเดือนหน้า ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะว่าวัคซีนอย่างไรก็ตามจะต้องผ่านอย.ทั้งอย.จีนและอย.ไทยด้วยถึงจะฉีดกระตุ้นให้ประชาชนได้ สรุปคือ ล็อตแรกจะทยอยมาก่อนในเดือน ก.พ.นี้และจะทำการฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงก่อนทันที
5
ทีนี้ใครบ้างที่จะได้รับวัคซีน ต้องฉีดทุกคนหรือไม่ ฉีดกี่เข็ม ?
กลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนก่อน คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ภาคสนามใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัวและผู้สูงอายุ กลุ่มนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงและถ้าหากรับเชื้ออาจจะมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ส่วนประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นไม่จำเป็นต้องฉีด เราฉีดให้ทุกคนไม่ไหว มันมีเรื่องของงบประมาณด้วย เบื้องต้นตั้งเป้า 60% ของประชากร แต่ถ้าใครมีความประสงค์อยากฉีดและพอมีกำลังทรัพย์ก็แจ้งความประสงค์ได้ ส่วนการฉีดกระตุ้น เท่าที่ดูจากบริษัทที่พัฒนาทั่วโลกยังไม่มีบริษัทใดฉีดกระตุ้นแค่เข็มเดียว ยังต้องฉีด 2 เข็มอยู่
2
กรณีที่เชื้อกลายพันธุ์ขณะนี้จะมีผลต่อวัคซีนอาจจะสร้างภูมิไม่ได้หรือไม่ จะมีการวัด ประเมินผลอย่างไรถึงจะระบุได้ชัดเจนว่าเราควบคุมการระบาดได้แล้ว...
1
คุณหมอศุภกิจ อธิบายว่า วัคซีนของทั้ง 2 บริษัทไม่มีปัญหากับเชื้อที่กลายพันธุ์แน่นอน จริงๆเชื้อโควิด 19 กลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ส่วนเชื้อสายพันธุ์อังกฤษก็ยังไม่มีการระบาดในไทยก็เบาใจได้ แต่ปัญหาอยู่ตรงนี้ เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบว่า ฉีดแล้วใครบ้างที่ภูมิจะขึ้น และวัคซีนคุมโรคได้นานแค่ไหน ตรงนี้แหละคือความเสี่ยงที่เราต้องรอดูวัดใจเอา ถ้าฉีดแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง คนติดเชื้อแพร่เชื้อต่อไม่ได้นั่นหมายความว่าเราควบคุมโรคได้แล้ว
5
โฆษณา