Presidential Inauguration 2021
พิธีปฏิญาน (สาบาน) ตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ของนายโจ ไบเดน จะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคมที่จะถึงนี้ (เป็นวันที่ถูกกำหนดขึ้นตามกฎหมาย ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งประธานาธิบดีคนใหม่หรือการต่ออายุของประธานาธิบดีคนเดิมไปอีก 1 เทอม) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
Inauguration
ออกเสียง อิน อ็อก' กุ เร' ชั่น
เน้นออกเสียงที่ อ็อก และ เร
แปลว่า
1) การทำพิธีต้อนรับ
2) การทำพิธีเข้ารับตำแหน่ง
3) พิธีเปิด (ตัว งาน บริษัท)
4) พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำประเทศ หรือนักการเมือง
สาระสำคัญที่สุดของพิธี Inauguration นี้ คือ นายโจ ไบเดน จะต้องกล่าวคำสาบานตนตามข้อความที่กฎหมายกำหนดไว้ดังนี้
"I do solemnly swear that I will faithfully execute the Office of President of the United States, and will to the best of my ability, preserve, protect and defend the Constitution of the United States."
แปลเป็นไทยง่าย ๆ ได้ว่า
"ข้าพเจ้าขอให้คำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพเจ้า จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาด้วยความซื่อสัตย์ และจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อรักษา ปกป้อง และคุ้มครองรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา"
ทันทีที่นายโจ ไบเด็นกล่าวคำสาบานดังกล่าวจบ เขาจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 อย่างเป็นทางการ
แล้วเขาจะย้ายเข้าไปพักอาศัยที่ทำเนียบขาว (the White House) ในบ่ายวันนั้น ตลอดระยะ 4 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
พิธีปฏิญานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นี้ มีความสำคัญตามประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ เพราะ
1) จะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจจากประธานาธิบดีคนก่อนสู่ประธานาธิบดีคนใหม่อย่างสันติ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์และเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตยของสหรัฐฯ
(The peaceful transfer of power is a hallmark of the democracy.)
2) จะมีอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ทุกคน (... ที่ยังมีชีวิตอยู่) ไปเข้าร่วมงานพิธี
แต่ในวันพิธีปฏิญานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (The Inauguration Day) ที่ใกล้จะถึงนี้ ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่า
ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่เข้าร่วมงานพิธี ซึ่งถือว่าเป็นการแหกกฎธรรมเนียมและประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน
"To all of those who have asked, I will not be going to the Inauguration on January 20th,"
Mr Trump tweeted on Friday January 9, 2021.
ทรัมป์กล่าวหาว่า เขาถูกปล้นชัยชนะการเลือกตั้งที่ผ่านมาเนื่องจากการโกงเลือกตั้ง และเขาได้ใช้สื่อต่าง ๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย ในการแสดงออกถึงความรู้สึก ความคิดเห็น ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะและระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ในที่สุดทั้ง twitter facebook และ instagram ได้ทำการยกเลิกการใช้บัญชีของทรัมป์ โดยยกระดับจากการงดใช้ "ชั่วคราว" เป็น "ถาวร" จนกว่าพิธีปฏิญานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคมจะเสร็จสิ้นลง เนื่องมาจากเหตุการณ์จราจลที่รัฐสภาโดยม๊อบผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนมาก เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน
การยกเลิกการใช้สื่อต่าง ๆ ดูเหมือนจะไม่สะเทือนทรัมป์ เพราะเขาประกาศว่าเขากำลังจะมีสื่อเป็นของตนเอง
จากประสบการณ์ที่ผมเคยใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ ในช่วงเวลา 30 ปีที่ผ่านมา
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันเนื่องมาจากผู้นำอย่างทรัมป์ที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งและทำตัวไม่เป็นแบบอย่างที่ดีที่ผู้นำระดับประเทศพึงจะกระทำ
อย่างที่นาย บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษได้กล่าวว่า
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่รัฐสภาสหรัฐฯ ช่างเป็นที่น่าอดสูยิ่งนัก สหรัฐฯ ถือเป็นต้นแบบประชาธิปไตยของทั่วโลก และในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้จะต้องมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติและด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย"
“Disgraceful scenes in U.S. Congress. The United States stands for democracy around the world and it is now vital that there should be a peaceful and orderly transfer of power.”
~ Boris Johnson,
Prime Minister of the United Kingdom
เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าทรัมป์จะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีก ในช่วงระหว่างที่เรารอวันพิธีปฏิญานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโจ ไบเดน ที่จะมาถึงนี้
#JourneyJournalbyPichai
Saturday 9, 2021
Picture credit: From Wikipedia
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
