9 ม.ค. 2021 เวลา 14:00 • ท่องเที่ยว
รอยยิ้มและความหวัง ของแม่แจ่ม
พวกเราได้กลับมาแม่แจ่มเป็นครั้งที่สองของปีนี้ หลังจากที่เคยมาเยื่ยมการทำงานของทีมงาน “แม่แจ่มโมเดลพลัส” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก บมจ.ไทยเบฟฯ เพื่อส่งเสริมการปลูกไผ่ ลดการปลูกพืชไร่เชิงเดี่ยวอย่างข้าวโพดที่เอาไปขายให้โรงงานทำอาหารสัตว์ เพราะนอกจากจะต้องใช้การเคมีเยอะแล้ว ยังเป็นพืชไร่ที่ต้องใช้การเผาถาง ซึ่งเป็นส่วนนึงของปัญหาสิ่งแวดล้อม เมื่อพูดถึงเรื่องฝุ่นควัน คนจำนวนมากมักมองมาที่ชาวเขาชาวดอยด้วยสายตาที่เอาผิด แต่แล้วก็กลับไปซื้ออาหารในซุปเปอร์มาเก็ตเหมือนเดิม
เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่ไม่ได้มาจากการปลูกข้าวโพดอย่างเดียว และเพื่อให้สภาพแวดล้อมของชุมชนของพวกเขาเองดีขึ้น ควันน้อยลง สารเคมีในแม่น้ำลำธารน้อยลง มีผลิตผลที่เก็บเกี่ยวไว้กินใช้เอง ได้รายได้จากการปลูกพืชอื่นๆ และที่สำคัญที่สุดคือสร้างงานแบบอื่นๆในชุมชน เช่นงานช่าง งานแปรรูปไม้ และอื่นๆ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับคนที่พยายามจะแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง และจริงจังไม่ว่าจะเป็นพี่น้องเกษตร ที่กำลังพัฒนาคุณภาพไม้ไผ่และฝีมือของช่างในชุมชน เพื่อสักวันเขาจะปลูกไผ่ ขายไม้ไผ่ ทำผลิตภัณฑ์จากไม่ไผ่ ไปพร้อมๆกับการทำการเกษตรแบบผสมผสานและยั่งยืน [ อ่านเรื่องแม่แจ่มโมเดลพลัสเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://ngthai.com/environment/32828/mae-chaem-model-plus ]
นอกจากนี้เราจะพาไปคุยกับเกษตรกรที่อยากให้คุณรู้จักข้าวไร่ข้าวดอย ว่าอร่อยขนาดไหน แม้จะปลูกได้แค่ปีละครั้งและมีขายไม่มาก แต่มันทำให้ชุมชนมีความมั่นคงทางอาหาร มากกว่าการขายพืชให้โรงงานทำอาหารสัตว์แลกกับเงินสดไม่เท่าไหร่ เราจะพาไปดูเกษตรที่นำวิถีออร์แกนิกมาใช้กับการปลูกพืชผักเมืองหนาว เพื่อให้ได้ผลิตผลที่มีราคาสูง แม้จะต้องทำการตลาดเอง และติดต่อขายตรงกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งยังต้องปรับตัวให้ใช้ชีวิตแบบไร้สารเคมีจริงๆ
เราจะพาไปดูความพยายามในการแก้ปัญหา ช้างและควาญช้างตกงาน ที่ต้องกลับมาอยู่บ้าน เพราะโรงแรมและปางช้างต่างๆต้องปิดไปในช่วงโควิด-19 ระบาดตลอดปี ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของช้างเดิมทีจะมีรายได้จากการให้เช่าช้างในธุรกิจท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมาไม่มีรายได้เลยสักบาท ในขณะที่มีภาระในการหาอาหารหาน้ำสะอาดมาดลี้ยงดูช้างหลายสิบเชือกในหมู่บ้านเอง ภาระจะยิ่งหนักเมื่อช้างมีอาการป่วย พวกเขาเลยมีความคิดจะเปลี่ยนหมู่บ้านของเขา ให้กลายเป็น โฮมสเตย์ ให้คนมาเที่ยวมาพักมาทำกิจกรรมเลี้ยงช้าง เดินป่าที่สมบูรณ์ ลองกินอาหารพื้นถิ่น ลองเรียนภาษาชนเผ่า ถึงแม้ทุกคนจะดูเหน็ดเหนื่อย แต่เราเห็นในแววตาของพี่น้องทุกคน ว่าการท่องเที่ยวชุมชน จะทำให้พวกเรารอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้ การเลี้ยงช้างผสมกับการปลูกข้าวปลูกไผ่อาจจะเป็นการหาเลี้ยงที่ยั่งยืนกว่าการปลูกข้าวโพดเป็นหลัก [ อ่านเรื่อง Elephant Homestay ห้วยบงต่อได้ที่ https://ngthai.com/travel/32598/camping-in-to-the-fields ]
หากคุณคิดจะไปเที่ยวเชียงใหม่ พวกเราขอแนะนำให้คุณแวะไปหาพวกเขาที่ บ้านห้วยบง อ.แม่แจ่ม อาจจะต้องขับไกลสักนิด แต่หากคุณจะมองให้ทะลุทะเลหมอก มองให้ผ่านความสะดวกสะบายของการท่องเที่ยวในที่ป๊อบปูล่า เราอยากให้คุณลองมาพักที่บ้านของพวกเขา ลองชิมอาหาร มาลองข้างหุงเสร็จใหม่ๆ มานั่งพูดคุย ช่วยเขาพาช้างเดินหาอาหารไปตามลำธาร ช่วยอาบน้ำช้าง และขับรถเยี่ยมฟาร์มต่างๆ ซื้ออุดหนุนบ้างเด็ดกินฟรีบ้างก็มี หรือแค่แวะมาบอกเขาว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำมันน่าชื่นชม หน้าฝนมีนาขั้นบันไดเขียวขจีเหมือนในอินเตอร์เนต แต่หน้าหนาวก็น่ากางเต้นท์กลางนา นอนรอตื่นมาดูแสงอาทิตย์ ในแบบที่ยังไม่มีบลอกเกอร์คนไหนเคยมาลอง หน้าร้อนก็ยังพาช้างเดินเล่นน้ำแก้ร้อนได้
ขอบคุณน้องๆทีมงานบ้านและสวนแฟร์ ที่นอกจากจะตามมาเที่ยวแล้ว ยังมาทำงานออกแบบ และศึกษาเรื่องไม่ไผ่เพิ่มเติม เพื่อที่จะใช้ไม้ไผ่แม่แจ่มในงานบ้านและสวนแฟร์ครั้งต่อๆไปให้มากขึ้น และเพื่อให้ช่างที่นี่เก่งขึ้น มีกำลังใจที่ดีขึ้น
มานะครับ มาอุดหนุน มายิ้มกว้างๆให้คนที่แม่แจ่มกัน
EXPLORERS: บก.เจ ตู่ เต้ บาส มิลค์ๆ มิ้งๆ และทีมงานบ้านและสวนแฟร์ ภาพโดย ต้น เจมส์ และแมกซ์ น้องฝึกงานชาวเชียงใหม่ในตำนาน
ขอบคุณ: ไทยเบฟฯ แม่แจ่มโมเดลพลัส เอเลเฟ่นโฮมสเตย์ห้วยบง ต้นน้ำ ออร์แกนิกฟาร์ม บ้านและสวน และ เนชั่นเนลจีโอกราฟฟิก ที่ร่วมทริปนี้ไปกับเรา
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://ngthai.com/travel/32598/camping-in-to-the-fields/
จะมีสักครั้งในชีวิตที่คุณจะได้เดินพาช้างหาอาหารกินในป่า อาบน้ำให้ช้าง และได้ทำความรู้จักกับชีวิตของควาญช้าง ครอบครัว และชุมชนของพวกเขา
โฆษณา