Goal Setting Strategy - SMART GOAL
ปี 2021 ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วนะครับ วันนี้ผมเลยอยากรู้ว่าแต่ละคนได้เริ่มทำตามเป้าหมายของปีใหม่นี้ หรือ New Year Resolution ของตัวเองไปแล้วหรือยัง และถ้ายังจะมีแนวทางการตั้งเป้าหมายของตัวเองอย่างไร วันนี้ผมเลยขอยกวิธีการตั้งเป้าหมายสุดคลาสสิกอย่าง SMART Goal มาให้ทุกคนลองสำรวจตัวเองกันดูครับ
ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก SMART goals กันดีอยู่แล้วนะครับ ในฐานะของอีกหนึ่งเครื่องมือที่ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการตั้งเป้าหมายเพื่อประสบความสำเร็จที่เข้าใจง่ายและใช้ได้จริง โดยมีรายละเอียดไล่ไปตามตัวอักษรแต่ละตัว ดังนี้
S -Specific ต้องเป็นการตั้งเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจง
(simple, sensible, significant)
เป้าหมายที่ตั้งจะต้องมีการระบุถึงสิ่งที่จะทำโดยมีผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะยิ่งเป้าหมายของเรามีความจำเพาะเจาะจงมากลงไปเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น
เช่น ระหว่างการตั้งเป้าหมายว่า “ฉันจะรวย” กับ “ฉันจะต้องมีเงินเก็บให้ได้ X บาท” ย่อมแสดงให้เห็นถึงความจำเพาะเจาะจงของโจทย์ที่ต่างกัน ส่งผลต่อการมองภาพและวางแผนปฏิบัติที่ต่างกันออกไปด้วย
M - Measurable ตรวจวัดได้
(meaningful, motivating)
มีการกำหนดข้อสังเกตหรือข้อบ่งชี้ถึงความสำเร็จ มีการตั้งเกณฑ์ระบุผลลัพธ์ที่คาดหวังและพึงพอใจ เพื่อเป็นการตอบกับตัวเองว่า ต้องถึงจุดไหนถึงจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ
เช่น ระหว่าง ฉันจะหางานทำ กับ ฉันจะสมัครตำแหน่งที่มีการเปิดรับสมัคร 3 บริษัท ย่อมให้ภาพความชัดเจนของเป้าหมายและการจับต้องได้ที่แตกต่างกัน
A - Achievable ทำได้จริง
(agreed, attainable)
เป้าหมายที่ตั้งนั้นจำเป็นต้องเกิดขึ้นได้จริงไม่ว่าจะด้วยความสามารถ กำลังของเรา หรือปัจจัยที่ถูกกำหนดขึ้น โดยเราจะต้องสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ในโลกความเป็นจริงแน่ ๆ ไม่ใช่แค่วาดฝันไว้เฉย ๆ
R - Relevant เกิดขึ้นจริงได้/เกี่ยวข้อง
(reasonable, realistic and resourced, results-based)
นอกจากเป้าหมายที่ตั้งขึ้นจะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงแล้ว เป้าหมายดังกล่าวยังต้องมีความสอดคล้องกับคุณค่าที่เรายึดถือและเป้าหมายระยะยาวของเรา ซึ่งนอกจากจะต้องสามารถเกิดขึ้นได้จริงแล้ว ยังต้องตอบโจทย์ภาพใหญ่ที่เราหวังเอาไว้อีกด้วย
T -Timely มีการตั้งเวลา
(time-bound, time-based, time-limited, time/cost limited, time-sensitive)
เราจะต้องตอบคำถามได้ว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้นี้จะต้องประสบความสำเร็จเมื่อไหร่ มีการตั้งเวลาและการจัดลำดับความสำคัญอย่างไรตามแรงกระตุ้นและแรงขับเคลื่อนที่มี
นอกจากการตั้งเป้าหมายอย่างชาญฉลาดหรือ SMART goal แล้ว เรายังสามารถพัฒนาการตั้งเป้าหมายดังกล่าวให้ดีขึ้นได้ด้วย SMARTER goal โดยการเพิ่ม
E - Evaluated
R - Reviewed
หรือก็คือการประเมินผลและวางแนวทางปรับปรุงแก้ไขนั่นเอง
เมื่อเราตั้งเป้าหมายให้ประสบความสำเร็จได้แล้ว เราก็ควรมีการแบ่งประเภทของเป้าหมายด้วย โดยผมขอแนะนำให้แต่ละคนมีเป้าหมายเชิงธุรกิจหรือหน้าที่การงาน 3 ข้อ และมีเป้าหมายเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว 3 ข้อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ ความรักและความสัมพันธ์ หรือเรื่องอื่น ๆ เป็นต้น
นอกเหนือไปจากการตั้งเป้าหมายแล้ว ทุกคนอย่าลืมว่า “การสื่อสาร” ก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับ โดยเฉพาะเมื่อการตั้งเป้าหมายนี้ไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวที่จะต้องเป็นคนปฏิบัติตาม คนในทีมหรือผู้ร่วมงานทุกคนของเราก็ควรจะมีความเข้าใจที่ตรงกันว่า เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายที่เราต้องการแล้ว เราจะต้องรู้ เข้าใจ และทำอย่างไรกันต่อไป:
Why - เราจะทำไปทำไม
How it will help - แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร
Who will do - ใครมีความรับผิดชอบตรงส่วนไหนบ้าง
What to do - แล้วมีงานหรืออะไรที่ต้องทำบ้าง
When to do - แล้วจะต้องเริ่มเมื่อไหร่ แล้วจะไปจบตรงไหน
หลายคนอาจจะมองว่าการตั้งเป้าหมายในปีใหม่หรือการทบทวนบทเรียนจากปีก่อนหน้า เป็นสิ่งที่เราควรทำในสัปดาห์สุดท้ายปลายปีหรือสัปดาห์แรกต้นปีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราควรมีการตรวจวัดและประเมินผล การทำตามเป้าหมายของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ตอบโจทย์กับสิ่งที่เราต้องการหรือไม่ หรือเราควรปรับปรุงแก้ไขย่างไรบ้าง นอกจากนี้ เราทุกคนก็มีโอกาสและสามารถที่จะตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ให้กับตัวเองได้อยู่เรื่อย ๆ
#GoalSetting #SMARTGoal
- 33
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
