ต้องทราบ จนสิ้นปี 2564 ก็ยังไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของโควิด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
หลายคนคงเคยได้ยิน เรื่องภูมิคุ้มกันหมู่กันมาบ้างแล้ว ก็หวังลุ้นให้โลกเรามีภูมิคุ้มกันหมู่โดยเร็วที่สุด
เพื่อที่ทุกคนจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติดังเดิม ตกลงเราจะมีภูมิคุ้มกันหมู่กันได้เมื่อไหร่ และเมื่อมีกันแล้วชีวิตจะกลับมาเป็นปกติได้จริงๆใช่หรือไม่
ภูมิคุ้มกันหมู่(Herd Immunity) หมายถึง
มีประชากรที่มีภูมิคุ้มกันโรคเกิดขึ้น จำนวนมากพอ ที่จะทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง (แต่อาจมีการติดเชื้อหรือระบาดประปราย ที่เรียกว่าโรคประจำถิ่น หรือโรคประจำฤดูกาล)
ต่อมา มีการนำมาใช้ในการคำนวณ จำนวนคนที่ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนในแต่ละประเทศ ว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชาชนมากน้อยแค่ไหน จึงจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และหยุดการระบาดของโรคได้
แล้วจะคำนวณภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างไร
ก็ใช้สูตรทางการแพทย์ที่ว่า
ภูมิคุ้มกันหมู่ = 1-1/R0 x 100
(คำตอบออกมาเป็นร้อยละ)
R0 หรือ ชื่อเต็มว่า Basic Reproductive Number คือ จำนวนคนที่จะติดเชื้อเพิ่ม มาจากคนที่มีเชื้อแล้วหนึ่งคน
ยกตัวอย่างเช่น โรคหัด R0 = 16 ภูมิคุ้มกันหมู่จึงคำนวณได้ = 93.75%
เราจึงต้องฉีดวัคซีนให้ได้ครอบคลุมอย่างน้อย 94% ขึ้นไป จึงจะป้องกันการระบาดของโรคหัดได้
ส่วน R0 ของโรคโควิดมีค่าระหว่าง 2-3 ถ้าเราใช้ค่ากลางประมาณ 2.5 จะได้ภูมิคุ้มกันหมู่ = 60%
นั่นคือ เราจะต้องเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับมนุษย์ 60% จากประชากร 7,500 ล้านคน คือ 4,500 ล้านคน
และแต่ละคนต้องฉีดอย่างน้อย 2 เข็มเป็นเบื้องต้น(ยังไม่รวมการฉีดกระตุ้นที่อาจจะมีความจำเป็นภายหลัง)
นั่นคือเราจะต้องมีวัคซีนมากเพียงพอ เพื่อฉีดให้กับประชากรโลก 9,000 ล้านเข็ม
จุดสำคัญก็คือ สิ้นปีนี้เราจะมีการผลิตวัคซีนได้รวมทั้งหมดเท่าไหร่ เพียงพอหรือไม่
ยังไม่นับว่าแม้จะผลิตได้เพียงพอแล้ว ความสามารถในการกระจาย และนำวัคซีนไปฉีดให้ครบทั้ง 9,000 ล้านเข็มต่อประชากร 4,500 ล้านคนนั้น จะทำได้ในเวลาที่เราต้องการหรือไม่
เพราะมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องการขนส่ง ที่จะต้องกระจายไปตาม ตำบล อำเภอ จังหวัดของประเทศต่างๆ
ทั้งเรื่องระบบการเก็บวัคซีน ซึ่งบางบริษัทก็ยุ่งยากมากต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 หรือ -20 องศาเซลเซียส
บุคลากรที่จะฉีดก็ต้องเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จะฝึกให้ชาวบ้านฉีดกันเองไม่ได้
และที่สำคัญคือ อาจมีการแพ้ได้ สถานที่จะฉีดจึงจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการรักษาอาการแพ้แบบรุนแรงได้
รวมทั้งจะต้องนั่งรอหลังฉีด 30 นาที ทำให้สถานที่จะรองรับคนฉีดวัคซีนได้น้อยลง เพราะฉีดแล้วจะกลับบ้านทันทีไม่ได้ ต้องนั่งกินที่อยู่ในโรงพยาบาลไปอีก 30 นาที
ขณะนี้จากการรวบรวมตัวเลขเบื้องต้น ของบริษัทที่ได้รับการอนุมัติให้ผลิตวัคซีน ยังไม่สามารถจะไปถึง 9,000 ล้านเข็มได้ภายในสิ้นปีนี้
และเรื่องความสามารถในการเร่งฉีดวัคซีน ขณะนี้เริ่มฉีดมาได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว ทั่วโลกฉีดไปได้ประมาณ 20 ล้านเข็มในกว่า 30 ประเทศ
หนึ่งปีก็คือฉีดได้ 240 ล้านเข็ม
แต่ปัจจุบันวัคซีนยังผลิตได้ไม่พอ และจำนวนประเทศที่จะฉีดยังไม่ครบถ้วน ถ้ามาคำนวณเพิ่มว่าความสามารถในการฉีดเพิ่มขึ้นอีก 10-20 เท่าจากปัจจุบัน
ก็จะฉีดได้เพียง 2400 ถึง 4800 ล้านเข็ม ยังห่างไกลจาก 9,000 ล้านเข็มอยู่มากทีเดียว
สิ้นปี 2564 เราจึงจะยังไม่เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม วัคซีนเป็นสิ่งจำเป็น และสำคัญมาก เป็นความหวังของมนุษยชาติเลยทีเดียว
เพียงแต่เราต้องรอการเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ของโลกผ่านการฉีดวัคซีน ไปถึงก็อย่างน้อยกลางปี หรือปลายปี 2565 (แต่อาจมีบางประเทศ เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เฉพาะประเทศตนเองไปแล้ว ก่อนหน้านั้นได้)
และที่สำคัญคือเมื่อเมื่อฉีดจนครบ 9,000 ล้านเข็ม หรือ 4,500 ล้านคนแล้ว โลกก็ยังอาจจะไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ดังเดิมเสียทีเดียว
เหตุใดทำไมเป็นเช่นนั้น คงจะต้องติดตามตอนต่อไปกันครับ
- 55
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
