10 ม.ค. 2021 เวลา 12:20 • ไลฟ์สไตล์
ฉบับปฐมฤกษ์
ย้อนกลับไปวันนี้…10 มกราคม เมื่อปีพ.ศ.2516 หรือเมื่อ 48 ปีที่แล้ว สาวน้อยชื่อ’ลลนา’ ถือกำเนิดขึ้นมาในบรรณภิภพ สร้างตำนานที่ยังคงเป็นที่กล่าวขานในหมู่นักอ่านมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะร้างลาไปจากแผงหนังสือเมืองไทยมานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม
‘ลลนา’ เป็นนิตยสารรายปักษ์ แฟนๆที่เหนียวแน่นคงจำกันได้ดีว่าจะวางแผงทุกวันที่ 10 และ 25 ของทุกๆเดือน ‘ลลนา’เล่มแรกหรือฉบับปฐมฤกษ์ออกมาอวดโฉมในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2516 ในราคา 7.50 บาท โดยมีคุณอารีจิต ศิวะบุตร หนึ่งในสิบสุดยอดนางแบบปี 73 เป็นนางแบบหน้าปกคนแรก จากฝีมือการถ่ายภาพของคุณทอม เชื้อวิวัฒน์ ช่างภาพชื่อดังในยุคนั้น
คำว่า 'ลลนา' มีความหมายแปลว่า 'สาวน้อย' อีกทั้งยังเป็นชื่อบุตรสาวของคุณบุรินทร์ วงศ์สงวน เจ้าของและผู้ก่อตั้งนิตยสารเล่มนี้ในยุคแรกอีกด้วย เมื่อวางแผงใหม่ๆมีความสับสนในการออกเสียงชื่อนิตยสารนี้กันอย่างมากมาย มีทั้งที่เรียกอย่างถูกต้องว่า ละ-ละ-นา แต่ก็มีที่เรียกผิดๆว่า ลน-ละ-นา หรือ ลน-ลน-นา ก็ยังมี
‘ลลนา’ในยุคแรกนำทัพโดยนักเขียนสตรีที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในตอนนั้น คือ ’สุวรรณี สุคนธา’ หรือคุณ สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง นั่นเอง ‘ลลนา’เป็นนิตยสารผู้หญิงที่มีคอนเทนต์ไม่แตกต่างไปจากนิตยสารผู้หญิงอื่นๆ ภายในเล่มมีทั้งเรื่องสั้น นวนิยายเรื่องยาว อย่างเช่น ‘เก้าอี้ขาวในห้องแดง’ ของสุวรรณี สุคนธา ก็ประเดิมนำเสนอเป็นครั้งแรกต่อสายตานักอ่านในลลนาเล่มแรกนี้เช่นกัน
นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยคอลัมน์ต่างๆเช่น บทสัมภาษณ์ ข่าวความงามข้ามทวีป ตกแต่งบ้าน การทำอาหาร คอลัมน์คุณหนู ฯลฯ แต่เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายคือคนรุ่นใหม่ รูปแบบของการนำเสนอจึงดูทันสมัย หวือหวากว่าหัวอื่นๆ และที่เป็นที่ฮือฮาในยุคแรก คือคอลัมน์หนุ่มลลนา นำเสนอชายหนุ่มหน้าตาดี โปรไฟล์ดี โดยได้ดาราอย่างคุณ รณ ฤทธิชัย มาถอดเสื้ออวดหุ่น อวดกล้ามสวยให้คนอ่านตื่นตาตื่นใจในเล่มแรกนี้
และคงเป็นเพราะความแปลกใหม่ที่ดูเปรี้ยว ล้ำหน้าเกินไปในยุคนั้น ‘ลลนา’จึงประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักในช่วงแรก ทำให้ในปีต่อมา มีการตัดสินใจที่จะยุติการผลิต ’ลลนา’ และคุณสุวรรณีได้ตัดสินใจขอหัวนิตยสารนี้มาทำต่อด้วยตัวเองในปีพ.ศ.2517 ‘ลลนา’ในช่วงต่อมาเลยมีหน้าตารูปเล่มที่เล็กลง และขยับราคาขายขึ้นมาเป็น 8 บาท
หลังจากนั้นลลนาค่อยๆเติบโตขึ้นมาเป็นสาวน้อยเสน่ห์แรงสวยสะพรั่ง มีแฟนคนอ่านทั้งชายและหญิง ความโดดเด่นของลลนา คือการนำเสนอปกและแฟชั่นภายในเล่มที่ดูเปรี้ยวเกินหน้านิตยสารฉบับไหนๆในช่วงนั้น นางแบบของลลนาในช่วงแรกๆ คือนางแบบสมัครเล่นที่อาจจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือเลขาทูต ใครที่ได้ขึ้นปกลลนาในยุคนั้น ถือได้ว่าโก้เก๋มีความเป็นเซเล็บหน่อยๆขึ้นมาในทันที
ส่วนการถ่ายภาพและสถานที่ในการถ่ายแฟชั่นก็โดดเด่นและแตกต่าง ในขณะที่นิตยสารอื่นๆนิยมไปถ่ายกันตามโรงแรม ร้านอาหารหรูๆเช่น ดุสิตธานี แต่ลลนาจะฉีกกฏเกณฑ์ด้วยการไปถ่ายแฟชั่นตามสถานที่ๆไม่เหมือนใคร เช่น ริมคลองหลอด ริมถนนราชดำเนิน เพิงขายกาแฟที่สถานีรถไฟคลองตัน หรือแม้แต่ทุ่งหญ้า ทุ่งนาแถวมีนบุรี ทำให้ได้ภาพแฟชั่นที่สวยแปลกตา จนตอนหลังนิตยสารอื่นๆถึงกับก็อบไอเดีย ใช้โลเคชั่นเดียวกันเลยก็มี
ในส่วนคอนเทนต์นั้น ลลนาก็มีคอลัมนิสต์มือดีอย่างคุณตาฮิวเมอริสต์ ศศิวิมล และหมายแข มาเวียนเขียนเรื่องสนุกๆกันให้อ่าน และเป็นนิตยสารที่รวมเอานักเขียนมือดีทั้งเก่าและใหม่เอาไว้มากมาย เป็นเวทีแจ้งเกิดให้กับนักเขียนอย่างวาณิช จรุงกิจอนันต์ วัฒน์ วรรลยางกูร นน รัตนคุปต์ และไพโรจน์ สาลีรัตน์ มีนวนิยายและเรื่องแปลของกฤษณา อโศกสิน นิดา ทมยันตี สุวรรณี สุคนธา และสิริมา อภิจารินให้คนอ่านได้ตามติดกันอย่างงอมแงม
‘ลลนา’ มาถึงจุดเปลี่ยนในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2527 เมื่อเจ้าของและบรรณาธิการ เสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยเหตุสะเทือนขวัญที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ทำให้รองบรรณาธิการ คุณนันทวัน หยุ่น ขึ้นมาเป็นบรรณาธิการบริหารแทน โดยที่เจ้าของนิตยสารยังเป็นทายาทของคุณสุวรรณี ภายหลังนิตยสารได้ถูกเปลี่ยนมือในการบริหารจัดการไปอยู่ในมือของบริษัทเนชั่น พับลิชชิ่ง กรุ๊ป ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนบรรณาธิการบริหารมาเป็นคุณสมถวิล จรรยาวงษ์
ในช่วงหลังนี้เองที่นิตยสารลลนา ถึงแม้ว่าจะประสบความสำเร็จในแง่ของธุรกิจ เต็มไปด้วยหน้าโฆษณามากมาย แต่ก็เริ่มบิดเบือนอัตลักษณ์รวมไปถึงเอกลักษณ์ของความเป็น ’ลลนา’ ตามความตั้งใจเดิมของผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการคนแรก ทายาทของคุณสุวรรณีจึงได้ขอหัวหนังสือคืน ทำให้ลลนาซึ่งเวลานั้นมีราคาเล่มละ 60 บาท ต้องยุติการผลิต อำลาจากแผงนิตยสารไทยไปในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2538 รวมอายุที่โลดแล่นอยู่บนแผงหนังสือนานถึง 22 ปี
ถึงแม้ว่าวันนี้…’ลลนา’ จะห่างหายไปจากสายตาของนักอ่านมานานถึง 26 ปีแล้ว แต่’ลลนา’ ยังคงเป็นนิตยสารที่อยู่ในใจคนอ่านที่เรียกตัวเองกันว่า’ลลเนี่ยน’มาอย่างเหนียวแน่นจนถึงทุกวันนี้ คนเขียนเองก็เติบโตมากับนิตยสารเล่มนี้ ถึงขนาดเคยสมัครเป็นสมาชิกอยู่ช่วงหนึ่ง และจะได้รับพ็อกเก็ตบุ๊กของสำนักพิมพ์ดวงตา พร้อมคำอวยพรปีใหม่ด้วยลายมือของคุณสุวรรณีเองทุกๆปี
และมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับนิตยสารเล่มนี้มากมาย
โฆษณา