10 ม.ค. 2021 เวลา 12:25 • ความคิดเห็น
ในยุคประชาธิปตัยเบ่งบาน ที่ลัทธิรัฐธรรมนูญ คือ จุดสูญรวมใจชาวสยาม
คนม้ง คนเขา คนดอย คือ ศัตรูแห่งรัฐ ที่ต้องเอากำลังทหารไปปราบ กำราบ เข่นฆ่า ให้ถอยร่นข้ามฝั่งกลับไปลาว เปนการไล่พวกเขาไปตายเสียไกล ๆ ดินแดนสยาม
แต่ในยุคที่เรามีกษัตริย์เปนนักพัฒนา กษัตริย์ทรงมองว่าชาวเขาคนดอยพวกนี้คือเพื่อนมนุษย์ เปนคนไทยด้วยกัน ลางคนได้รับ honour เปนถึง "พระสหาย"
การมอบเหรียญชาวเขาให้พวกเขา เปนเสมือน "สัญญา" ว่าพวกเขาก็เปนคนไทยเหมือนพวกเราชาวเมือง
ทรงมิได้แบ่งแยก หรือมองคนพวกนี้เปนสัตว์ป่าที่ต้องเอากำลังทหารไปเข่นฆ่า ไปปราบให้ถอยร่นไปฝั่งลาว แบบที่รัฐบาลพวกพ่อเคยสำแดงโวหารเอาไว้เลย
ถ้าลูก ๆ มีจิตต์ใจเปนธรรม ก็พึงสังวรเถิดว่า ใครดีแต่พูด แลใครกันแน่ที่ลงมือทำให้เห็นจริง
เอ.. หรือบ้านเมืองนี้มันร่มเย็นเกินไป จนอ้ายพวกดีแต่วิจารณ์มันว่างกระทั่งขยันถมการกระทำคนนั้น คนนี้
ใครจะทำอะไรเปนไม่ได้ ต้องบังเกิดประเด็นให้มันด่าทุกรอบไป
แต่เสียดาย พ่อไม่เคยเห็นพวกดีแต่ปากเช่นนี้ "ทำหะ" อะไรเลย
ึการปลูกฝิ่นเปนปัญหามาตั้งแต่ 2476 ต้องรอให้ ร. 9 มาแก้ไขอีกกว่า 30 ปีให้หลัง แล้วที่ผ่านมารัถบานประชาธิปไตยยุคคณะราษฎรทำห่าอะไรกันอยู่ //ครุ่นคริส
วันนี้ฝากให้คิดสั้นนะครับ
ครูสั่งจับกลุ่มให้ทำรายงาน
เวลาทำ ก็ทำร่วมกัน
พอพรีเซนต์นั้นบอกทำคนเดียว
“ว่าซั่น” 😁 จั๊งได๋น้อสู
เค้ามีเน็ตใช้มานานแล้วเด้ออออออ
ทำเป็นเหมือนว่าหลังจากติดโซล่าเซลแล้วทุกอย่างสมบูณร์เพรียบพร้อมเด็กๆก็ต้องสำเร็จในชีวิตไปตลอดกาลอย่างนั้นในการขึ้นดอยวันเดียวนี่นะโปรโมทตัวเองก็ไม่มีใครว่าแต่ไปแสดงการทับถมคนอื่นที่ทำแบบเดียวกันก่อนหน้านี้มายาวนานแล้ว
โฆษณา