Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
New journey
•
ติดตาม
11 ม.ค. 2021 เวลา 10:30 • ท่องเที่ยว
🙊เรื่องที่หลายคนไม่บอกคุณ ก่อนไปทริปล่าแสงเหนือ🌓
⚡️แสงเหนือ หรือที่เราเรียกว่าแสงออโรร่า (Aurora Borealis) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นประเทศทางแถบขั้วโลกเหนือ มีช่วงหนึ่งที่คนไทย นิยมไปมากคือ ประเทศไอซ์แลนด์ ทั้งรีวิวตามเพจ พันทิพมากมายหลายช่องทาง นั่นเป็นเพราะว่า พื้นที่ประเทศไอซ์แลนด์อยู่ในละติจูดที่เกิดแสงเหนือได้ทั่วประเทศ ในขณะที่ประเทศอื่นๆเกิดเฉพาะบางพื้นที่ และไอซ์แลนด์เป็นพื้นที่โล่งกว้าง ประชากรน้อย แสงไฟบ้านเรือนน้อย ภูมิประเทศที่แปลกตา ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นจุดหมายปลายทางของนักล่าแสงเหนือ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสัญชาติไทย แต่สำหรับนิวอยากบอกว่า ”ไม่เสมอไป” 🤣🤣🤣 นิวเองไป 5 รอบ เห็นแค่ 1 รอบเบาๆ 555 แต่กลับได้ไปเห็นที่ รัสเซีย และนอร์เวย์ทุกครั้งที่ไป
📌นิวรวบรวมประเทศที่มีแสงเหนือมาให้นะคะ สำหรับใครที่อยากพบกับเจ้าแสงเหนือสักครั้ง
- ประเทศสวีเดน (SWEDEN)
- ประเทศรัสเซีย (RUSSIA)
- ประเทศไอซ์แลนด์ (ICELAND)
- ประเทศฟินแลนด์ (FINLAND)
- รัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา (ALASKA)
- ประเทศแคนนาดา (CANADA)
- ประเทศนอร์เวย์ (NORWAY)
- ประเทศกรีนแลนด์ (GREENLAND)
✈️ได้สถานที่แล้ว เราก็มาดูกันค่ะว่ากว่าจะได้รูปสวยๆ แสงสีเขียวๆ เราต้องเจออะไรบ้าง...
📍1. แสงเหนือไม่ได้เห็นเป็นแสงสีเขียว ได้ด้วยตาเปล่าแบบในรูปที่เราเห็นกัน เราจะเห็นมันเป็นริ้วสีขาวๆ คล้ายกลุ่มเมฆหมอกยาวๆ ยกเว้นแสงจะแรงมากๆจริงๆ โดยเขาจะมีการวัดระดับที่เรียกว่า ค่า KP ( KP index เป็นตัววัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก โดยวัดจากลักษณะการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก ที่จะดีดกลับในช่วงกลางคืนของโลก หลังโดนพายุสุริยะที่เกิดจากการระเบิดของพื้นผิวดวงอาทิตย์ ) เราสามารถใช้ KP index มาทำนายการมองเห็นแสงเหนือได้ โดยจะแบ่งเป็น 0-9 ยิ่งค่า KP สูง เราก็มีสิทธิ์ที่จะมองเห็นแสงเหนือได้ง่าย 0-9 มีสิทธิ์เห็นทั้งหมด แค่ว่าค่า 2 เป็นต้นไป มีเปอร์เซ็นต์ที่เราจะได้เห็นแน่ๆ และค่า 5 ขึ้นไปโอกาสเราจะเห็นเป็นสีเขียวหรือสีอื่นๆก็มีมากขึ้น
📍2. อากาศหนาว เราต้องนั่งใจจดใจจ่อ รอเจ้าแสงเหนือข้างนอก ที่มีอากาศหนาวชนิดติดลบ...บรื้อออ!!! เราคงเคยได้ยินว่าเราจะเห็นแสงเหนือต้องไปช่วงฤดูหนาว จริงแล้วอากาศหนาวไม่ได้มีผล แต่เพราะช่วงฤดูหนาว มีเวลากลางคืนที่ยาวนาน ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากขึ้น เพราะจริงแล้วแสงเหนือก็เกิดตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูร้อน แสงเยอะ เราเลยไม่มีโอกาสได้เห็น และการไปดูแสงเหนือยามค่ำคืน เราไม่รู้ว่าเจ้าแสงเหนือจะมาเมื่อไหร่ เราอาจต้องใช้เวลาทั้งคืน หรืออย่างน้อย ถึงเที่ยงคืน ตี 1 สำหรับทริปล่าแสงเหนือ แต่ถ้าโชคดีแสงมาเร็ว 2 ทุ่มเราก็อาจได้เข้านอนค่ะ😁😁😁
📍3. ต้องอยู่ในที่มืด ยิ่งเป็นคืนเดือนมืด เราจะได้ยิ่งเห็นแสงชัด ต้องออกไปห่างจากชุมชนที่มีไฟในเมือง ควรพกไฟฉายไว้สักหน่อยก็ดีค่ะ เพื่อการเดินหาทำเลในการถ่ายรูป แต่พอแสงเหนือมาก็อย่าลืมปิดนะคะ รบกวนคนอื่นเขา
📍4. เตรียมเช็คและตั้งค่ากล้องให้ดี เหตุที่อาจเกิดได้คือ เมื่อกล้องเจออากาศหนาว แบตอาจหมด กล้องดับ ชัตเตอร์กดไม่ติด ตอนแสงเหนือมาจบเห่เลย กล้องมือถือโอกาสถ่ายติดมี แต่ถ่ายชัดยากสักหน่อย ขาตั้งกล้องควรมี มือสั่นนิดนึงคือเบลอเลยค่ะ
(tips เล็กๆน้อยๆสำหรับการตั้งค่ากล้อง คือปรับรูรับแสง (F.stop) และชัตเตอร์สปีด ของกล้องให้ต่ำ รูปหนึ่งก็จะใช้เวลา 2-3 นาทีเลยทีเดียวคะ และอาจมีไฟส่องหน้าเราสักดวงถ้าจะถ่ายรูปคนกับแสงเหนือนะคะ)
📍5. สำคัญสุดข้อสุดท้าย คือ “ดวง” 😇 เพราะแม้ค่า KP จะสูง อากาศหนาว เป็นคืนเดือนมืด กล้องเตรียมพร้อม แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ เมฆเยอะ ฝนตก หิมะโปรย บอกได้คำเดียวว่า “มาใหม่ค่ะ” นิวแนะนำว่าเราควรจะมีเวลาอยู่ในพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดแสงเหนืออย่างน้อย 3-4 วัน เพื่อให้เรามีโอกาสหลายครั้งในการล่า
😘รู้แบบนี้แล้วเราจะได้ไม่กดดันในการท่องเที่ยวนะคะ เพราะถึงเราจะผิดหวังไม่เจอแสงเหนือ เราก็ได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามของแต่ละประเทศ
📌การไปล่าแสงเหนือมีหลายแบบ นิวสรุปมาให้ ลองเลือกแบบที่เหมาะกับเราดูนะคะ
1.หาที่พักที่อยู่บริเวณที่มีแสงเหนือ รอดูอุ่นๆอยู่ในห้องพัก หรือรอบๆ บริเวณที่พัก แบบนี้สบายเหมาะกับมีผู้ใหญ่ไปในทริปด้วย
2.ขับรถออกไปล่าเอง ตามสถานที่โลเคชั่น ฉากหลังที่เราต้องการ แบบนี้ก็จะสนุกสนาน ผจญภัยดีค่ะ แต่การขับรถต่างประเทศหน้าหนาว นอกจากใบขับขี่สากล เราจะต้องมีความชำนาญ รอบคอบถนนที่ลื่น พายุหิมะที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เตืมน้ำมันให้พร้อม และคอยเช็คการเปิดปิดของถนน
3.ซื้อทัวร์ ที่มีทั้งแบบส่วนตัว และจอยทัวร์กับคนอื่น แบบนี้จะมีข้อดีคือมีคนแนะนำ หาสถานที่ และถ่ายรูปให้ค่ะ แล้วก็ยังมีพื้นที่กระโจม หรือเต้นท์อุ่นๆให้เราพักนั่งรอด้านใน
4.ซื้อทัวร์แบบล่องเรือล่าแสงเหนือ แบบนี้ก็ได้บรรยากาศที่แตกต่าง วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โรแมนติก แต่ราคาก็สูงตามไปด้วยค่ะ
และนอกจากนั้นอยากเพิ่มเติมในฐานะคนชอบเที่ยว และคนนำเที่ยวนะคะ 😄 ทุกวันนี้เราก็สามารถท่องเที่ยวล่าแสงแบบนี้ได้ทางขั้วโลกใต้ ซึ่งจะเรียกว่าแสงใต้ (Aurora Australis) เช่นประเทศ นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย แถมที่ขั้วโลกใต้มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแสงเหนือตรงที่ลำแสงหลากสีกว่า เช่นเขียว เหลือง ชมพู อีกด้วย
ว่ากันว่า 3 สิ่งต้องมีค่ะกับการมาล่าแสงเหนือ “เวลา เงิน และดวง” 😆🤣😂 หลายอย่างที่นิวอยากบอกเล่า เกิดมาจากหลายคนไม่รู้ก่อนออกเดินทาง คิดว่าแสงเหนือเจอแน่นอน คิดว่าอยู่ในเมืองก็เห็น คิดว่าใช้เวลาไม่นาน นิวอยากให้การท่องเที่ยวของทุกคนมีความสุข เลยอยากให้เราทุกคนเตรียมพร้อม และเข้าใจทุกสถานการณ์ที่ต้องเจอระหว่างการท่องเที่ยวล่าแสงเหนือ เพียงแค่นี้นิวก็พร้อมจะพาทุกคนไปเที่ยวล่าแสงเหนือกันแล้วค่ะ ^^
1
2 บันทึก
1
4
10
2
1
4
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย