11 ม.ค. 2021 เวลา 16:50 • อาหาร
ทำไมต้องบ่มเนื้อ?
ภาพจาก http:/foodpanda.co.th/dry-aged-beef/
การบ่มเนื้อ คือการเปลี่ยนสภาพเนื้อให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น โดยการบ่มแบบ ดรายเอจ ทำได้ด้วยการแขวนเนื้อห้อยไว้ในห้องบ่มซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ (ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 30 วันขึ้นไป) เพื่อให้เอนไซม์ในเนื้อกัดเนื้อจนนิ่มลง ทำให้เนื้อมีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอม และนิ่มขึ้น คล้ายกับการทำชีสหรือบ่มไวน์ โดยกระบวนการเหล่านี้จะต้องมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งเรื่องอุณหภูมิ ความสะอาด และอื่นๆ เพื่อควบคุมปฏิกิริยาของเนื้อจากการบ่มให้ได้ตามมาตรฐาน
เนื้อที่บ่มก่อนถูกนำมาใช้ปรุงอาหาร
ความเด่นของเนื้อสไตล์ Dry Aged คือการให้รสชาติที่อร่อยอย่างลงตัวและไม่ทำให้ความรู้สึกของเนื้อหายไปแม้ว่าจะปรุงกับอาหารรสชาติใดก็ตาม โดยที่ไม่จำเป็นต้องนำไปหมักหรือใส่เครื่องปรุงกับเครื่องเทศใดๆ ลงไปหมักรวมกับเนื้อเลยแม้แต่น้อย การรับประทานจึงให้รสชาติเนื้ออร่อยแบบเต็มๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นสาบ แต่กลายเป็นกลิ่นหอมหวนของเนื้อย่างที่เมื่อคุณลิ้มรสแล้วต้องรู้สึกติดใจไปอย่างยาวนาน เมื่อการบ่มจะช่วยทำให้เนื้อมีคุณภาพสูง วิธีการทำ Dry Aged จึงค่อนข้างยากและจะต้องใช้วิธีการดูแลที่ใกล้ชิดมาก เน้นเรื่องของอุณหภูมิที่จะต้องพอเหมาะ ความสะอาดต้องมีสูง ปัจจัยโดยรวมภายในตู้แช่และเนื้อจะต้องถูกต้องตามหลัก ที่สำคัญคือเรื่องความชื้นจะต้องเหมาะสมด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เนื้อที่เข้าสู่กรรมวิธี Dry Aged เป็นเนื้อที่มีคุณภาพสูงโดยแท้ เรียกได้ว่ากรรมวิธีการบ่มเนื้อลักษณะนี้จะต้องเคร่งครัดและมีความระมัดระวังสูงเทียบเท่าการบ่มไวน์กันเลยทีเดียว ที่สำคัญคือตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมบ่มเนื้อไปจนถึงช่วงระยะเวลาของการบ่มค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลานานเนื้อสไตล์นี้จึงมีราคาที่สูงมาก แต่ถ้าให้แลกกับความอร่อยและสัมผัสที่ดีเยี่ยมแล้วเชื่อว่านัก Test อาหารหลายๆคนยอมที่จะจ่ายราคาแพงเพื่อได้ลิ้มลองเนื้อ Dry Aged ดูสักครั้งอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลที่ทาง Mellow Steak นำมาฝาก ถ้าชอบก็กด Like กด Share กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นะครับ
เรียบเรียงโดย : Mellow Steak
โฆษณา