Move on เป็นวงรี
ในที่นี้ใครเคย move on เป็นวงกลมบ้างคะ?
แล้วมีใครเคย move on เป็นวงรีบ้าง
ก่อนที่จะเข้าเริ่มสู่เนื้อหา
เราจะพามาทำความเข้ากันในคำศัพท์กันก่อนนะคะ
คำว่า มูฟออน เกิดจากวลีฮิตของดาราและชาวเน็ต หลายๆคนชอบแชร์ในโลกโซเชี่ยล แต่คำว่า มูฟออนเป็นวงกลม มูฟออนเป็นวงรี เราไม่แน่ใจว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากอะไร
- มูฟออน แปลว่า “ก้าวไปข้างหน้า”
- มูฟออนเป็นวงกลม แปลว่า “เป็นการกระทำที่วนลูปเดิม และยังคงทำซ้ำ ๆ เหมือนเดิมไม่มีทีท่าว่าจะมูฟออนแต่อย่างใด”
-มูฟออนเป็นวงรี แปลว่า “การกระทำที่เหมือนจะก้าวไปข้างหน้าได้แล้ว ก้าวไปสักระยะเหมือนจะไกลมากพอเปรียบเสมือนขีดของเส้น แต่สุดท้ายก็กลับมาวนลูปเดิมๆกลายเป็นเส้นรูปร่างวงรี ”
ณ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังเจอกับสถานการณ์เช่นนี้อยู่
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในรูปแบบไม่มีสถานะ สถานะคนคุย สถานะแฟน สถานะใดๆก็ตาม อยากให้ลองเปิดใจ พิจารณาสิ่งเหล่านี้กันนะคะ
เรานำเสนอมุมมองของเรา
แค่อยากให้คุณเปิดใจรับฟัง
สุดท้ายแล้ว คนที่จะตัดสินใจทุกอย่าง
คนที่จะอยู่กับตัวคุณเองไปตลอดชีวิตก็คือ
“ตัวของคุณเอง”
อย่าลืมรักษาและดูแลใจ ของตัวเองให้ดีนะคะ
อย่าให้ใครมาทำร้ายให้เจ็บซ้ำๆได้
คุณมีค่าเกินกว่าจะให้ใครมาทำร้ายซ้ำๆ
.
.
.
เจ็บกับคนเดิมซ้ำๆ ช้ำกับคนเดิมอยู่ร่ำไป
พยายามที่จะก้าวออกมาหลายรอบแล้ว
แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้เสียที
พอตัดสินใจได้และตั้งใจจะตัดใจจริงๆ
บางทีก็ดูเหมือนเราจะมูฟออนไปได้ไกลแล้ว
แต่พอเขามาทำดีด้วยนิดหน่อย
ใจเราก็กลับไปเหมือนเดิม
เราเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
เข้าใจคำว่า คนที่ใช่ทำอะไรก็ไม่ผิด
ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ
แต่บางทีเราต้องแยกให้ออกว่าสิ่งที่เราเป็นอยู่นั้น
คือ รัก ผูกผัน หรือหลง
รักเขาได้แต่ต้องอย่าลืมรักตัวเอง
เราไม่สามารถที่จะบอกตัดสินแทนทุกคนได้หมดหรือจะให้แนะนำว่าอยากให้คนที่อยู่ในสถานการณ์นี้นั้น”ตัดใจ” เท่านั้น
ไม่ใช่ค่ะ เราแนะนำแบบนั้นไม่ได้
เพราะว่า
ต่างสถานะ ต่างสถานการณ์ ต่างการกระทำ และต่างเหตุผล
ต่างความรู้สึก
ทุกๆอย่างที่แต่ละคนเจอมักจะมีตัวแปรหลายๆอย่างที่ต่างกัน ต่อให้เป็นสถานการณ์เดียวกันก็ตาม
ตัวอย่างเหตุการณ์
📍คุยแบบไม่มีสถานะ : คู่นี้คุยกันทุกวัน คุยเรื่อยๆเป็นความสบายใจให้กันและกัน มีอะไรปรึกษากัน มีปัญหาอะไรเล่าให้กันฟัง ช่วยเหลือทุกอย่าง ไปเที่ยวด้วยกัน รู้สึกดีต่อกัน แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกไป ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่สถานะไหนของกันและกัน แต่ปรากฏว่าวันหนึ่งสารภาพไปผู้ชายรู้สึกกับเธอแค่เพื่อนที่ไว้ใจมากๆคนหนึ่งเท่านั้น นั่นกลายเป็นว่าที่ผ่านมาเธอเข้าใจผิดเองมาโดยตลอด เธอจึงตัดสินใจก้าวออกมาจากความสัมพันธ์นั้น เธอเลิกติดต่อ แต่แล้วพอเวลาผ่านไปเขากลับมา ใช้เวลาเป็นเดือนๆกว่าจะลืม พอเขากลับมาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่จะรัก ความรู้สึกเดิมๆกลับมาไปไหนต่อไม่ได้เสียที
ถ้าเป็นสถานการณ์เช่นนี้ในมุมของเรา
เราคิดว่า ควร move on !
มูฟออนแบบไปข้างหน้า และห้ามหันกลับไปมองอีก เพราะถ้าขืนเธอคุยกับเขาสถานะนี้ไปเรื่อยๆไม่ว่าจะอีกกี่ปี เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเพราะถ้าคนจะใช่มันก็ใช่ไปนานแล้ว
จริงๆขึ้นอยู่ที่คนสองคนด้วย ถ้าเธอโอเค และยอมรับเขาอยู่ในสถานะเพื่อนได้ก็win แต่ถ้าเธอไม่โอเคก็ตัดความสัมพันธ์ เพราะยากที่จะให้เขาอยู่ในชีวิตเราโดยที่เป็นสถานะอื่น ตัดแล้วก้าวไปข้างหน้า รักษาใจตัวเองดีที่สุด เปิดโอกาสให้ตัวเองที่จะได้พบเจอ รู้จักคนใหม่ๆ จังหวะและโอกาสจะมีมาหาเราเรื่อยๆเสมอ
📍สถานะคนคุย : ขอบอกก่อนว่า คำว่า “คนคุย” คือการที่คนสองคนคุยกันเพื่อศึกษาลักษณะนิสัย ใจคอ ไลฟสไตล์ ความเข้สกันได้ของคนสองคน และรู้กันคุยตกลงกันว่าเราทั้งคู่เป็นคนคุยกันนะ แต่จะไม่มีสิทธิ์หวง หึง หรือสิทธิ์อะไรในตัวอีกฝ่าย สถานะนี้ถ้าใครรู้สึกมากกว่าก็จะเจ็บหน่อย ต้องเผื่อใจเอาไว้
ถ้าคนสองคนคุยกันและซึ่งสองคนนั้นคุยกันอยู่กับแค่คู่ตัวเองซึ่งเป็นการคุยกันแบบทีละคน ทีละตัวเลือกเคสนี้จะถือว่าเป็นการดีมากๆ แต่ถ้ามีอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดคุยหลายคน จริงๆไม่ใช่ว่าเขาผิด หรือเขาเป็คนไม่ดี เเต่เพราะเขามีสิทธิ์เลือก สถานะเขายังโสดอยู่ อันนี้เราต้องเผื่อใจไว้ แต่ถ้าระยะเวลาผ่านไปเป็นเดือน เป็นปี ซึ่งเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆแล้ว เรารู้สึกกับเขามากขึ้นทุกๆวัน เราควรตัดสินใจถามในสถานการณ์ที่เหมาะสม เพื่อหาความชัดเจน ซึ่งถ้าเขารักเราจริงๆเขาจะเลือกที่จะชัดเจนกับเรา ไม่ทำให้เราเป็นทุกข์กับความรู้สึกที่ไม่ชัดเจน แต่ถ้าเขายังเลือกที่จะไม่ชัดเจนต่อไปนั่นก็หมายความว่าเขาลังเล แล้วทำไมเราต้องอยู่เป็นทุกข์ เป็นตัวเลือกให้เขาเลือก เราก็มีสิทธิ์เลือกเองได้ เลือกเดินออกมาดีกว่า อย่าคาดหวังกับอนาคตที่มองไม่เห็น เพราะแค่วันนี้เขายังมองไม่ชัด มองไม่เห็นอนาคตที่มีร่วมกับเราเลย ทำดีกับคนที่ไม่เห็นค่า ก็ย่อมถูกไม่เห็นค่า แต่ถ้าเขายื้อเราก็ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดทั้งนี้อยู่ที่ใจของคุณเองและตัวเเปรของเขากับคุณหลายๆอย่างว่าคุณจะลองให้โอกาสเขา เสี่ยงไปกับเขาอีกครั้ง หรือจะเดินออกมาแบบสวยๆเลย
📍สถานะแฟน :
สถานการณ์1 - คู่นี้คบกันมาหลายปีมาก ทั้งคู่เป็นคนดีมากๆไม่เคยนอกใจกันเลย แต่หลังๆมาผู้หญิงสังเกตได้ว่าผู้ชายเริ่มเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้เอง เมื่อเวลาผ่านไปจึงเอ่ยปากถามออกไปตรงๆ และผู้ชายก็ได้ตอบกลับมาว่า ความรู้สึกเปลี่ยนไปจริง แต่ไม่ได้รักเธอน้อยลงสักนิด มีแต่ความหวังดีให้กันเสมอ
สถานการณ์2 - คู่นี้คบกันมาหลายปีเช่นกัน แต่ฝ่ายหญิงนอกใจฝ่ายชายลับหลังมาตลอด แรกๆฝ่ายชายไม่รู้พฤติกรรมของเธอ แต่มารู้ภายหลัง ฝ่ายชายรักเธอมากไม่เลิกกับเธอ ยอมเธอทุกอย่างเพราะรัก
จะเห็นได้ว่าสองเหตุการณ์นี้ไม่เหมือนกัน
สถานการณ์1 คนทั้งคู่มีแต่สิ่งดีๆให้กัน แต่ความรู้สึกอาจจะเปลี่ยนไปเป็นความรักในแบบอื่น ก็อาจจะมูฟออนเป็นสถานะอื่นกันได้
สถานการณ์2 ฝ่ายหนึ่งนอกใจ แต่อีกฝ่ายรักมากภักดีมาเสมอ สถานการณ์นี้ควรมูฟออนออกมาและห้ามมูฟออนเป็นวงรี!!
เพราะถ้าเขารักเรา เขาจะไม่มีวันทำให้เราเสียใจเลย
การมูฟออนเป็นวงรีทำในสิ่งที่เจ็บช้ำซ้ำ ๆ ราวกับทำร้ายตัว
สิ่งสำคัญคือการยอมรับและก้าวไปต่อ ความรักไม่ใช่การฝากชีวิตไว้ที่ใคร มีคนใหม่ไม่ใช่ว่าจะทำให้ลืมคนเก่า ถ้าไม่พร้อมจริงๆก็อยู่กับตัวเอง เป็นโสดก็ดีไปอีกแบบ อย่าดึงใครเข้ามาให้เขาเจ็บปวดไปกับเราด้วย
เรื่องการมูฟออนเป็นเรื่องของการก้าวไปข้างหน้าก็จริง แต่ต้องค่อยๆก้าว ก้าวอย่างช้าๆ มั่นคง ถ้าลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องฝืน เรียนรู้ที่จะอยู่กับความทรงจำนั้นให้ได้ อะไรที่ดีก็เก็บไว้ในความทรงจำ อะไรที่ไม่ดีก็ถือว่าเป็นบทเรียนความสัมพันธ์ ให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมัน ช้าๆแต่ชัวร์ ก้าวไปอย่างมั่นใจ เรื่องความรักไม่ต้องรีบ ถ้ารีบร้อนเกินไปผลลัพธ์อาจจะออกมาไม่ดี ทุกๆเรื่องราวที่เราเจอจะสร้างภูมิต้านทานให้เราเสมอ ✌🏻
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
