14 ม.ค. 2021 เวลา 10:30 • การ์ตูน
การวิ่งท่านารูโตะ (Naruto Run) มันเร็วกว่าวิ่งท่าปกติจริงๆหรือ?
ก่อนจะมาหาคำตอบ เรามารู้ถึงที่มากันก่อน
ท่าวิ่งนารูโตะ คือการวิ่งโดยโน้มตัวไปข้างหน้า ในขณะที่แขนลู่ไปข้างหลัง ตามรูปประกอบ
.
ท่าวิ่งนารูโตะ ถือกำเนิดขึ้นในญี่ปุ่น โดยมีที่มาจากท่าวิ่งของนินจาจริงๆ
(อ่านไม่ผิดหรอก ท่าวิ่งนี้มีจริงๆในอดีต แม้ท่าทางไม่ได้เหมือนท่าวิ่งนินจาไปซะทีเดียว อันนี้เดียวจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป)
.
ก่อนจะมาเป็นท่าวิ่งนารูโตะ ในญี่ปุ่นก็มีการใช้ท่าวิ่งแบบนี้ในการ์ตูนหลายๆเรื่อง เช่น อาราเล่ ดราก้อนบอล รันม่า และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
แต่เพราะไม่ได้เป็นธีมหลักของเรื่อง ท่าวิ่งนี้จึงไม่ได้ถูกยกมาพูดถึง
.
ท่าวิ่งนารูโตะ มาโด่งดังจากการ์ตูนเรื่อง นารูโตะ ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนินจา ที่บรรดาตัวละครมากมายทั้งตัวเอกและตัวร้าย มักจะวิ่งกันด้วยท่านี้
และจากธีมเรื่อง มันจึงสื่อให้คนดู รู้สึกเหมือนมันวิ่งได้”เร็ว”กว่าปกติ..
.
ท่าวิ่งนารูโตะ ยิ่งโด่งดังมากขึ้นไปอีก เมื่อมีแคมเปญ “นารูโตะรันบุกแอเรีย 51”
โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า การวิ่งท่านี้จะทำให้วิ่ง”เร็ว”จนหลบกระสุนและเข้าถึงพื้นที่ลับได้...แต่แคมเปญนี้ก็ล่มไปแบบไม่เป็นท่า แบบเละเทะอ่ะจริง
.
แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้น....มันได้ส่งผลลัพธ์รุนแรง(?)ไปแล้ว คือ...มันทำให้ชาวโลกกลุ่มใหญ่คิดว่า การวิ่งท่านารูโตะ “เร็ว”กว่าวิ่งปกติแน่นอน...
.
เดือดร้อนไปถึงนักวิทแยศาสตร์ และนักวิ่งเหรียญทอง ต้องออกมาทดลองกันยกใหญ่ ทั้งทาง ทฤษฎี และ ปฏิบัติ เพื่อหาความจริงว่า หืมมมม มันเร็วขึ้นจริงๆหรือ...
.
สรุปผลจากทั้ง 2 ฝั่งมีดังนี้
.
นักวิทแยศาสตร์ให้ทฤษฎีว่า การวิ่งท่านี้ จะช่วยลดแรงปะทะกับลมต้านจากข้างหน้า รวมถึงแขนที่ยื่นไปข้างหลัง จะช่วยในการทรงตัวด้วย อืมม..ฟังดูมีเห็ดหอม เฮ้ย มีเหตุผล
.
นักวิ่งเหรียญทองได้ทดลองวิ่งจริงๆแล้วพบว่า มันวิ่งได้จริงๆนะ แต่มันช้ากว่าปกติ
เพราะการยืนแขนไปข้างหลัง..ไม่ได้ช่วยในการทรงตัวเท่าที่ควร อีกทั้งสมองยังสั่งให้วิ่งช้าลงเพราะกลัวล้มด้วย หากจะลองวิ่งกันให้ระวังด้วยนะ เพราะอันตราย...
อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาวิ่งแบบไหน ได้ซ้อมจนชำนาญหรือยังนะ
.
แต่โดยตามหลักของวิทยาศาสตร์แล้ว คือต้องเน้นผลแห่งการกระทำ หรือการเกิดขึ้นจริงซ้ำๆ เป็นคำตอบสุดท้าย
.
ดังนั้นจึงสรุปอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า “ท่าวิ่งนารูโตะไม่ได้ทำให้วิ่งเร็วขึ้นเลย”
.
แต่... เรื่องราวยังไม่จบเพียงแค่นี้.....
.
เมื่อ Thai Gamers ได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วได้ข้อมูลสำคัญนี้มา คือ ท่าวิ่งนารูโตะ จริงๆแล้วมีที่มาจากท่าวิ่งของนินจาจริงๆ ตามที่เกริ่นไว้ข้างบนนู้น
ดังนั้น เราจะมาพูดถึงท่าวิ่งนินจา (Ninja Run) กันต่อ
.
>> ข้อมูลเกี่ยวกับท่าวิ่งนินจา จากปากนินจา...
.
“ท่าวิ่งนินจา ไม่ได้เน้นเคลื่อนที่เร็ว แต่เน้นการรักษาพลังงาน” **อ้าว...
.
“ท่าวิ่งนินจา เป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยการนำแขนแนบลำตัว หรือจับเข็มขัด หรือการขยับแขนให้น้อยที่สุด
ไมได้ยกแขนออกไปข้างหลังสูงๆ เหมือนที่เราเห็นในการ์ตูน” **อ้าวววววววววววววว..
.
หลักการคือ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้ใกล้ล้ม แล้วยื่นเท้าออกไปรับน้ำหนักตัวทำซ้ำไปเรื่อยๆ ตัวเราจะคล้ายๆเข้าสู่สถานะวิ่ง..
.
ที่ต้องทำแบบนี้ด้วยหลายๆปัจจัยดังนี้
.
- การวิ่งปกติจะใช้หลักการกระโดดหรือถีบตัวไปข้างหน้า รวมถึงการสะบัดแขน จะใช้พลังงานมาก แต่ท่าวิ่งนินจา ไม่ต้องกระโดด ถีบตัว และสะบัดแขน ดังนั้นจึงประหยัดพลังงานได้มากกว่า เหนื่อยช้ากว่า ทำให้วิ่งได้ไกลกว่า
.
- การกระโดดหรือถีบตัวจากการวิ่งปกติ อาจก่อให้เกิดเสียง นินจาที่ต้องใช้ความเงียบ...จึงไม่นิยมมากขึ้นไปอีก
.
- นินจาอาจต้องพกดาบหรือมีดไว้ด้านข้างลำตัว การวิ่งแบบปกติจะทำให้ดาบหรือมีดสะบัด นอกจากมันทำให้กินพลังงานมากกว่าเดิมและยังเสี่ยงที่ดาบยาวๆจะสะบัดไปโดนสิ่งรอบๆ ทำให้เกิดเสียงอีก
.
- การวิ่งท่านินจาที่ไม่ได้สะบัดแขน แต่เอาแขนแนบลำตัว จะสามารถย้ายแขนไปยึดจับดาบหรือมีดให้อยู่กับที่ เพื่อเสริมความคล่องตัวในการวิ่งด้วย
.
จากข้อมูลที่ได้มา ก็สรุปได้ว่า “ความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของมนุยษ์โลก ทำให้ข้อมูลท่าวิ่งนินจาผิดเพี้ยนไปเป็นท่าวิ่งนารูโตะ..”
.
....แต่ก็ไม่ได้ว่าการ์ตูนผิดนะ เพราะท่าวิ่งที่เปลี่ยนไปก็เท่ดี และแน่นอน มันเป็นภาพติดตาของใครหลายๆคน
.
และสุดท้ายผมก็แค่หาข้อมูลมาบอกแหละ ยังไม่ได้ลองวิ่งจริงๆ
ถ้าลองวิ่งด้วยท่าทางที่ถูกอาจจะวิ่งเร็วขึ้นจริงๆก็ได้..
ใครที่ลองแล้ว ได้ผลยังไงก็เอามาคอมเมนต์คุยกันเนอะ
.
#ThaiGamers #คนรักเกม
1
โฆษณา