13 ม.ค. 2021 เวลา 17:10 • ไลฟ์สไตล์
ในวันขึ้นปีใหม่: ฉันทำความฝันของเมลิซซ่าเป็นจริง
เกริ่นก่อนว่า โดยปกติแล้วเราและเพื่อนสนิทเรา 1 คน
ฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่ที่เชียงใหม่ในทุก ๆ ปี
และปีที่จะกล่าวถึง คือปี 2018 มันเป็นปีที่พวกเราเรียกมันว่า “ปีการกุศล”
การกุศลของพวกเรามีมากมายตั้งแต่ทำบุญตักบาตรตอนเช้าเวลาประมาณ 6 นาฬิกา (ไม่ได้ตื่นเช้า เพิ่งปาร์ตี้เสร็จ) ให้อาหารมด ให้อาหารนก จัดทริป พาเที่ยว รับบทเป็นไกด์ฟรี ๆ ให้เพื่อนชาว backpack ต่างชาติที่เจอและสนิทสนม (หลายกลุ่ม หลายทริป รู้สึกเป็นคนดีจริงๆ) บลา ๆ ไปจนถึง
~ ช่วยทำความฝันของเมลิซซ่าเป็นจริง
เมื่ออยู่ที่เชียงใหม่ เราและเพื่อนลงหลักปักฐานที่ย่านท่าแพ เป็นย่านเก่าใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่ล้อมรอบด้วยซากปรักหักพังทางวัฒนธรรมล้านนา (คูเมือง)
ลงหลักปักฐานในที่นี้คือการปาร์ตี้ทุกคืน
มีอยู่คืนหนึ่ง เราเจอแก๊งค์พวกคุณครูชาวอเมริกัน โดยปกติแล้วพวกเขาสอนอยู่ที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ แต่เนื่องด้วยเทศกาลพิเศษอย่างวันขึ้นปีใหม่ พวกเขาพากันมาฉลองที่เชียงใหม่ แน่นอนว่าเราและเพื่อนร่วมเข้าแก๊งค์ฉลองกับพวกเขาและสนิทสนมกลมกลืนจนเหมือนว่ารู้จักกันมานานมาก
พวกเราชาวแก๊งค์คุณครู ดื่ม เต้น เล่นมุข สนุกสนานร่าเริงเพลิดเพลินไปกับเพลงแด๊นซ์ โดยเฉพาะเมลิซซ่า เธอตะโกนแหกปากร้องเพลงของรีฮานน่าไปทั่วร้านที่ชื่อว่าฮาวาน่า ไม่นับรวมท่าเต้นแบบย่อขาลงไปเรื่อย ๆ ตามจังหวะเพลงอย่างทรงพลัง เราไปบาร์ที่เปิดต่อหลังเที่ยงคืนกันไปเรื่อย ๆ จนบาร์สุดท้ายจะได้เวลาปิดลง ช่วงนั้นเมลิซซ่าเริ่มงุ่นอยู่กับโทรศัพท์ของเธออยู่พักหนึ่ง
ไม่นานนัก เธอวานให้ฉันและเพื่อนช่วยส่งข้อความไปหาชายผู้หนึ่ง เธอว่าเป็นนักดนตรีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่พบเจอเมื่อวานเย็นว่า “ ไอ วอนนา แฮฟ เซกส์ วิธ ยู” เป็นภาษาไทย
ฉัน เพื่อน เมลิซซ่า และแก๊งค์คุณครู มองกันอย่างเลิ่กลั่ก และพากันขำเป็นบ้าเป็นหลัง
เราบอกเธอไปว่า “โอมายกอด เมลิซซ่า You’re a teacher! And I will tell your students! พร้อมท่าทางปนขำ “watch me” ด้วยสีหน้าจริงจัง พวกเราหัวเราะกันเป็นบ้าเป็นหลังอีกครั้งในรอบที่นับไม่ถ้วนตลอดคืนนั้น
เมลิซซ่าหยุดหัวเราะพร้อมกล่าวว่า Just send it.
ตอนนั้นเรากลัวเหมือนกันว่าเมลิซซ่าจะตาย เมลิซซ่าจะโดนแกง โดนฆ่าหรือเปล่า
เราและเพื่อนจึงปรึกษาแก๊งค์คุณครูว่ามันโอเคไหมที่จะช่วยเมลิซซ่าไปหาผู้ชายคนนั้นกระทันหันยามดึกดื่นมืดเช้าเช่นนี้ รวมกับที่ว่าไฟลท์บินเมลิซซ่าคือเช้าที่จะถึง เวลาประมาณ 9 นาฬิกา
แก๊งค์คุณครูตอบกลับมาว่า “Oh, please! Help her…”
อย่างกับว่า เมลิซซ่ามีแรงปรารถนาและตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้มานาน
เมลิซซ่าบอกว่าจะจ่ายค่าอูเบอร์เอง
ฉันและเพื่อนจึงรับบทจัดการทุกอย่าง ตั้งแต่บอกกับหนุ่มนักดนตรีผู้นั้นว่าเมลิซซ่าอยากมีเซ็กส์ด้วย ให้เขาส่งโลเคชั่นมา เรียกบริการอูเบอร์ให้ รวมถึงร่วมขึ้นรถมุ่งไปที่พักชายหนุ่มผู้นั้นด้วยกัน
เมื่อถึง หนุ่มนักดนตรีผู้นั้นท่าทางเป็นคนใจดี ขี้อาย สแกนได้ระดับหนึ่งถึงความไว้วางใจ และเขายังคงอยู่ในอาการงง ๆ
เขาพูดภาษาอังกฤษไม่คล่องนัก ฉันบอกให้เขาดูแลเมลิซซ่าและอย่าฆ่าเธอเลย เขาตอบกลับด้วยท่าทางขำปนอาย ในขณะที่เมลิซซ่าขำอย่างบ้าคลั่ง
ฉันแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับเขาเผื่อเมลิซซ่าถูกฆ่าจริง ๆ
จากนั้น พวกเขาเดินจูงมือกันเข้าที่พักของหนุ่มนักดนตรี
ฉันและเพื่อนยืนมองพวกเขาเดินจากไปพร้อมความรู้สึกภูมิใจที่ส่งเมลิซซ่าได้ถึงฝั่งถึงฝาและทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริงในวันขึ้นปีใหม่ อีกไม่นานนักฉันและเพื่อนก็ตระหนักได้ว่า เมลิซซ่าลืมจ่ายค่าอูเบอร์
อย่างไรก็ตาม พวกเราจะนึกเสมอว่ามันเป็นปีการกุศล
โฆษณา