17 ม.ค. 2021 เวลา 11:04 • ไลฟ์สไตล์
Chapter 2 "มึงว่าเราไปทางนี้มันจะไปออกตรงไหนว่ะ"
"ไม่รู้ว่ะ ลองเดินตามรถคันนั้นไปไหมมึง"
"เออ เอาดิลองดู" จบบทสนทนา
บทสนทนาเมื่อกี้ทุกคนคงอาจจะงงว่า อะไรของมันว่ะทำไมมันง่ายจังเเละทำไมมันไม่เปิดแมพหาทางออกแทนว่ะ คำตอบคือ ขี้เกียจอ่ะอยากเดินและยังไม่กลับอีกเเล้ว! ดูเหมือนฉันคนนี้จะเป็นคนไม่ชอบกลับบ้านนะ ฮ่าๆ
เรื่องมันเกิดจากความเบื่อของปายเเละเพื่อนสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษคนนึง ที่ขี้เบื่อเหมือนกันเเละชอบเดินเที่ยวเหมือนกันเราทั้งสองเลยตัดสินใจกันว่าจะไปแถว'ตลาดน้อย' อันที่จริงย่านนี้เนี้ย เราค่อนข้างชอบมากเป็นพิเศษ เพราะเคยมา2-3ครั้งได้แล้ว แต่เพื่อนสาวคนนี้พี่แกยังไม่เคยมาอ่ะดิ้
เราเลยอาสาจะพาพี่แกเดินสะหน่อย ก่อนอื่นเลยถ้าคุณจะเดินไปไหนสักที่แบบไม่มีแพลน ไม่คิดจะเปิดแมพเเละว่างจัด ขอบอกเลยนะคะว่าต้องพาคนที่เป็นแบบเดียวกับคุณ ไม่งั้นเนี้ยได้มีหวังโดยเพื่อนทุบแน่ ฮ่า แต่โชคยังดีที่เพื่อนคนนี้เค้าไม่บ่นเลยสักนิดเดียว(โอ้ว น้ามตาจาไหล)
อ่ะ พร่ำเพ้อเสร็จละ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า อันที่จริงแล้วเนี่ยกว่าจะมาถึงตลาดน้อย มันช่างเหนื่อยมากเว่อ จริงๆมันไม่ได้มายากหร้อก แต่เราดันไปเริ่มจากที่ที่ไม่คุ้นเคยและคิดว่าฉันมาถูกทาง ฉันเนี่ยจำทางได้ เชื่อดิๆ แต่ความจริงคือเหอะ หลงค่ะ! ไปออกไหนก็ไม่รู้ เดินนานมาก กว่าจะถึงป้ายรถเมล์ที่คิดว่าเออนี่แหละใช่ พอถึงแล้วก็ใช่ว่ารถเมล์จะมาเลยนะคะ รอวนไปค่ะโคตรนาน รอสักพักก็มีมาค่ะแต่มันไม่จอด! แรงไปมึ้ย
รอแล้วรอเล่าสายที่เราจะไปมันมีน้อยบวกกับป้ายนี้มาจอดไม่กี่คันอีก แต่แล้วเหมือนบุญเก่าที่มีมาได้ช่วยไว้ รถเมล์ที่เรารอมันก็มาค่ะ เราก็นั่งยาวไปกะไปลงท่าเรือสี่พระยา แต่เหมือนสายนี้เค้าจะไม่จอดเหมือนที่คิดไว้ นั่งเลยค่ะคุณ จนเรารู้สึกแปลกๆ และคุณป้ากระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาบอกว่าเลยเเล้วนะ ลงตรงนี้ละกันเเล้วนั่งอีกสายไปแทนนะ ไอเราก็เซ็งสิค่ะอุตส่าห์มั่นใจเพราะคิดว่าใช่ต้องใช่แน่ๆ ส่วนเพื่อนก็มองหน้าและยิ้มแห้งให้1 ที
อ้ะๆ ยังทำพี่ชิววววววววววว ชิวไม่ไหวววววว หารู้ไม่นั่งเลยป้ายค่าาาา!
ไฟนอลลี่ เราทั้งสองก็ถึงที่หมายกันสักที เราเริ่มเดินจากตรงริเวอร์ซิตี้เเล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ
ก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางร้านนึง เราทั้งสองเลยแวะกันสักแปปและขอบอกเลยนะว่าร้านนี้อร่อย ราคาดี แถมให้เยอะด้วย คุณป้ากับคุณลุงก็น่ารักมากๆ อันนี้อยากแนะนำเลยย ร้านจะอยู่ก่อนเจอเซเว่นนิดนึงนะถ้าจำไม่ผิด แฮะๆ หลังจากเราเติมพลังกันเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าเดินไปเรื่อยๆค่ะ
จนได้ไปแวะที่ศาลเจ้าเกือกม้า แต่พอถึงได้ไม่นานเท่านั้นแหละฝนตก ตกแบบวันนี้กะไม่แล้ง พอเห็นแบบนั้นก็เซ็งอีกดิ เสียเวลากับรถเมล์ไม่พอนั่งเลยป้ายอีก พอถึงฝนดันตก เออ เยี่ยมจริงๆ วันนี้! เราก็นั่งแถวนั้นไปสักพักแต่อย่างน้อยๆก็ยังดีที่มีน้องเหมียวมาเล่นด้วยแก้ความเซ็งได้ดี
เห็นมุ้ยยยยย ไอต้าวววเหมียวเพื่อนยาก
และแล้วฝนก็หยุดตกสักทีนะคะ! เราทั้งสองมุ่งหน้าเดินกันไปต่อ อากาศหลังจากฝนตกทำให้ใจเราเย็นลง (หรอว่ะ) ถัดไปประมาณ 200 เมตร เราจะเจอร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ใครหลายๆคนอาจจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว นั้นก็คือร้าน 'บ้านริมน้ำ' คาเฟ่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นร้านที่รวมไว้หลายอย่างมาก ทั้งคอกเทล อาหารหรือเครื่องดื่มอีกมาย รวมถึงบรรยากาศดีมากๆ เเต่วันที่เราไปร้านดันปิดอีกสะงั้น เอ่อ นั้นแหละ ;-; โดยปกติที่เราเคยมาร้านนี้จะเป็นตอนกลางคืนซะส่วนใหญ่ ซึ่งบรรยากาศดีมากไม่แพ้ตอนกลางวันเช่นกัน ว่างๆลองไปแวะถ่ายรูปหรือนั่งชิวกันดูนะดีมากๆ
ทุกอย่างมันยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะทุกคน เราสองคนยังคงมุ่งหน้าเดินสำรวจย่านนี้กันไป เดินไปเรื่อยๆ เข้าตรอกนู่นตรอกนี้ จนพระอาทิตย์เริ่มตกเย็นเราก็ยังคงอยู่แถวนี้ยืนมองพระอาทิตย์ตกตรงริมแม่น้ำ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากมันช่วยฮีลอาการเซ็งก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี เราคุยกันถึงเรื่องต่างๆ เพื่อนบอกว่าไม่คิดว่าจะมีแบบนี้ด้วยเอออสวยดีนะ เพื่อนตื่นเต้นกับสิ่งเล็กๆ ไปหมด ไอเราก็ดีใจนะได้พาเพื่อนมาเที่ยว ได้พามาสัมผัสวิถีของเรา เราดีใจมากจริงๆ
แต่เดี๋ยวนะ… "มึงกลับทางเดิมดีมั้ยว่ะ" "เอ้ะหรือว่าลองไปทางนี้มั้ยเดินตามรถกระบะไป"
เริ่มเย็น เริ่มมืดไปทางที่ไม่เคยไปเเล้วมันจะไปออกตรงไหนว่ะ เเต่เอ้าลองดูรถไปทางนี้ยังไงมันก็ต้องไปออกถนนใหญ่ดิ เออแเล้วก็จริงเราออกมาแต่ก็ยังแอบงงนะนี่เราอยู่ตรงไหนกัน
เลยเดินข้ามถนนไป เดินไปเดินมา จนได้ไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่ง (ก๋วยเตี๋ยวอีกแล้วหร๊อ) ร้านนี้เค้าบริการดีมากๆ ย้ำว่ามากๆ เราสั่งเตี๋ยวต้มยำไป หือออออร่อย ร้านนี้เค้าเครมว่าเค้าทำเกี๊ยวกุ้งเองด้วยนะ กุ้งทั้งตัวแน่นมาก ซอสก็ทำเอง เย็นตาโฟนี่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านเลย คือครึ่งถ้วยที่กินไปทางร้านคิดสูตรเอง ทำเองเกือบทั้งนั้น ช่างน่าประทับใจม้าก กกกกกกกกจริงๆ ชื่อร้านเราจำไม่ได้จริงๆ แต่อยู่แถววงเวียน 22 หากมีโอกาสได้ไปอีกครั้งเดี๋ยวเอาชื่อร้านมาฝากแน่นอลลลลค้าาา
จบไปกับช่วงเย็น เอาจริงทั้งเหนื่อย เมื่อย เเต่มีความสุขกับการได้เจอร้านใหม่ ดันอร่อยอีก มันเป็นอะไรที่เติมเต็มพลังได้ดีมากๆ และก็นะการเดินตามตรอกไม่ได้แค่เพียงเจอร้านอาหารอย่างเดียว เเต่สำหรับเรายังได้เห็นสถาปัตยกรรมย่านนี้อีกด้วย ที่ยังทิ้งความดั้งเดิมรวมถึงงานศิลปะตามผนัง ดีไซน์บ้านหรือร้านคาเฟ่ มันทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ มุมมองของคนแถวนี้ด้วย เราว่ามันได้อะไรหลายๆอย่างมากจริงๆ
ไฟนอลลี่ แบบของจริง ฮ่าๆ chapterนี้อาจจะยาวไปหน่อยเนอะ แต่เราอยากให้ลองเดิน ลองสำรวจดู เราว่ามันได้เจออะไรเยอะจริงๆ ถ้าหากได้ทำแล้วติดใจแน่นอนนนน สำหรับวันนี้สวัสดีค่าาาาา ปล.มาแชร์โลกันดั้ยนะ ;)
โฆษณา