Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประวัติศาสตร์ & เรื่องเล่า
•
ติดตาม
17 ม.ค. 2021 เวลา 03:55 • ประวัติศาสตร์
ใครบอกซานต้าครอสไม่มีด้านมืด?
วันนี้เราจะพาไปดูสิ่งหนึ่งที่เป็นด้านมืดของวันคริสมาสกันค่ะ
ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับเทศกาลแห่งความสุขช่วงท้ายปี กับวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่หลายคนรอคอย โดยเฉพาะครอบครัวชาวตะวันตกที่จะใช้ช่วงเวลานี้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาในวันหยุด จัดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองและอวยพรกันและกัน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ดูจะตื่นเต้นกับเทศกาลนี้เป็นพิเศษ เพราะหนู ๆ ทั้งหลายรู้ดีว่าจะได้รับของขวัญจากลุงอ้วนแดง หรือซานตาคลอสนั่นเอง
ถ้าเปรียบซานตาคลอสเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์มาสที่แสนสุข ในอีกด้านหนึ่งของคริสต์มาสที่หลายคนยังไม่รู้จักก็มีสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์เช่นกัน มันคือปิศาจนาม "แครมปัส" (Krampus) ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนด้านมืดของวันคริสต์มาส ซึ่งตรงข้ามกับซานตาคลอสอย่างสิ้นเชิง
ทั่วไปแล้ว พ่อแม่ชาวตะวันตกมักใช้ซานตาคลอสมาหลอกล่อให้เด็กทำดี ด้วยการบอกว่าหากเป็นเด็กดีจะได้ของขวัญจากซานต้า แต่ถ้าเด็กบางรายเกิดไม่เชื่อเรื่องซานตาคลอสและยังคงเป็นเด็กดื้ออยู่อย่างนั้น พ่อแม่ก็ต้องงัดไม้ตายใหม่มาขู่ลูก ใช่แล้ว ขู่ด้วยเจ้าปิศาจ แครมปัส นั่นเองล่ะ
"แครมปัส" เป็นปิศาจลิ้นยาว เดินสองขา ขนยาวรุงรัง บนหัวมีเขาโค้งยาวและมีกีบเท้าคล้ายแพะ หางยาวเป็นพู่คล้ายวัว ฟันแหลมคม หน้าตาดุร้าย มันจะปรากฏตัวพร้อมโซ่เหล็กยาวและถุงกระสอบ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมสุดโปรด นั่นคือ การจับเด็กดื้อทั้งหลายมัดโซ่แล้วยัดถุงกระสอบ ก่อนจะพากลับไปสู่นรกซึ่งเป็นบ้านของมัน
ความเชื่อเรื่องแครมปัสนั้นแพร่หลายไปในหลายพื้นที่ของยุโรปมาเป็นเวลากว่าศตวรรษ โดยเฉพาะในประเทศออสเตรีย ฮังการี สโลวาเนีย สาธารณรัฐเช็ก และประเทศต้นกำเนิดแครมปัสอย่าง เยอรมนี
ความเชื่อที่ใช้หลอกเด็กอย่างได้ผลชะงัดมีมายาวนานตั้งแต่เมื่อราวร้อยปีก่อน ชาวเยอรมันในสมัยก่อนนั้นจะฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม โดยในคืนวันที่ 5 ธันวาคม ปิศาจแครมปัสจะปรากฏกายเพื่อมาลงทัณฑ์เด็กดื้อทั้งหลายในตอนกลางคืน จากนั้นในตอนเช้าวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งเป็นวัน Nikolaustag หรือวันนักบุญเซนต์นิโคลัส เด็ก ๆ จะรีบออกมาดูรองเท้าที่ถอดไว้หน้าบ้าน ว่าจะได้รับของขวัญ (สำหรับเด็กดี) หรือไม้เรียว (สำหรับเด็กดื้อ)
จากนั้น แครมปัสก็กลายเป็นการละเล่นสนุกสนานในแถบยุโรป มีการแต่งตัวเป็นปิศาจแครมปัสมาหลอกผู้คนกันขำ ๆ ในคืนวันคริสต์มาส ว่ากันว่าประเพณีนี้หายไปช่วงหนึ่งนับจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้นในยุโรป ก่อนจะกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่งในปัจจุบัน
และตอนนี้ กระแสของเจ้าปิศาจแครมปัสก็เริ่มจะกลับมาโด่งดังอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ในยุโรปอีกต่อไป แต่ทางฝั่งอเมริกาเองก็มีการนเอาวัฒนธรรมความเชื่อเรื่องแครมปัสมาเล่นกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะในสื่ออย่างการ์ตูนแอนิเมชั่นหรือภาพยนตร์ รวมถึงสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตมาให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนแครมปัส เช่น ช็อกโกแลต โมเดลจำลอง หน้ากาก และของตกแต่งบ้าน
2 บันทึก
3
3
2
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย