📚#รีวิวหนังสือ ที่จริงแล้ว, ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ
🧐"ฉันชอบการได้พบเจอคนดี แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ชอบการพบปะกันแบบตัวต่อตัว และถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันมากกว่า ด้วยการเชื้อเชิญคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเข้ามาสู่โลกของฉัน และฉันก็จะเข้าไปสู่โลกของเขา"
🧐"คนชอบเก็บตัวต้องรวบรวมความกล้าห้าครั้งถึงจะชวนคนอื่นคุยได้ คนชอบเข้าสังคมเองก็ต้องอดทนห้าครั้งที่จะไม่พูดสุ่มสี่สุ่มห้าออกไป ไม่ว่าการขัดเกลาทางสังคมอาจหมายถึงกระบวนการหล่อหลอมคนชอบเข้าสังคมให้คล้ายกับคนชอบเก็บตัว และหล่อหลอมคนชอบเก็บตัวให้คล้ายกับคนชอบเข้าสังคม"
💸ความรู้สึกก่อนซื้อ💸
ยังไม่ทันได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่😅😂🤣 เป็นหนังสือไม่กี่เล่มที่เราพรีออเดอร์ และรอคอยที่จะได้อ่าน หนังสือที่แค่เห็นชื่อก็ซื้อแล้ว เล่มสีสันสดใส ภาพปกสวยสะดุดตา มีภาพน่ารักสี่สีแทรกในเล่มทุกบท มีไฮไลท์คำคมให้ทุกบท อ่านง่าย ๆ เพลิน ๆ แต่มีดีอยู่สมค่าตัว
❣สิ่งที่ได้และชอบจากหนังสือเล่มนี้❣
1. การเป็นคนชอบเก็บตัวไม่ได้ผิดปกติ เป็นเพียงบุคลิกลักษณะประเภทหนึ่ง
ถ้าคุณคิดว่าคนชอบเก็บตัวกับคนชอบเข้าสังคมวัดกันที่การแสดงออก คุณคิดผิดค่ะ ทั้งสองประเภทเป็นบุคลิกลักษณะ ซึ่งสามารถปรับการแสดงออกได้ตามสถานการณ์ชั่วครั้งชั่วคราว เช่น คนชอบเก็บตัวที่สามารถเป็นวิทยากรสอนคนจำนวนมาก ๆ แต่พอเลิกงานก็ชอบอยู่คนเดียวมากกว่า เป็นต้น คนสองประเภทนี้ต่างกันที่การมีความสุขมากกว่าจากการหลั่งฮอร์โมนที่ต่างกัน ฉะนั้น ลักษณะนิสัยแบบนี้เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการฝึกฝน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะแบ่งได้ชัดเจนว่ามีบุคลิกแบบไหน บางคนก็เป็นแบบกลาง ๆ สิ่งสำคัญมากกว่าแยกประเภทคือการยอมรับนั่นเอง
2. คนชอบเข้าสังคมน่าอิจฉาในสายคนชอบเก็บตัวเสมอมา
เพราะโลกดูให้ค่าและมองเห็นคนที่พูดเก่ง นำเสนอเก่ง กล้าแสดงออก และเป็นมิตรได้รวดเร็วกับทุกคน มากกว่าคนชอบเก็บตัว แค่คุณเข้าสังคมเก่ง ก็เหมือนได้บัตรผ่านความสำเร็จในชีวิตแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อมองให้ลึกขึ้น คนชอบเข้าสังคมก็มีจุดที่ยากสำหรับพวกเขาเหมือนกัน เพราะเขาวิเคราะห์ในเชิงสัญชาติญาณไม่ค่อยเก่ง ขาดทักษะการฟัง ฉะนั้นไม่ว่าคนชอบเก็บตัวหรือชอบเข้าสังคม ต่างต้องพิสูจน์ตัวเองอยู่ดี ไม่มีใครน่าอิจฉากว่ากัน ฉะนั้นถึงจะเป็นคนชอบเก็บตัว ก็ไม่ต้องท้อ หรือถอดใจไปนะคะ
3. คนชอบเก็บตัวมักเป็นคนนอกกลุ่ม ไม่เข้าพวกกับกลุ่มไหนสักกลุ่ม
เป็นคนอื่นในองค์กรหรือกลุ่มคน เป็นพลเมืองชั้นสอง? แต่ด้วยความที่เก็บตัวและสุขุมของคนชอบเก็บตัว ก็ทำให้คนชอบเก็บตัวเป็นคนในกลุ่ม (Insider) ได้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมเหมือนกัน การมีตัวตนในองค์กรหรือกลุ่มคนเป็นเรื่องที่ดี แต่การเป็นคนนอกที่มีอิสระก็ดีเช่นกัน เราทุกคนสามารถเป็นได้ทั้งคนในและคนนอกตามความเหมาะสมของสถานการณ์ จงเป็นตัวเรา ไม่แข่งขันกับใคร และอย่าดูถูกตัวเอง
4. เลิกคาดหวังจะเจอเพื่อนที่ดีในอุดมคติเหมือนในนิยาย เหมือนที่คาดหวังได้เจอผู้ชายในฝัน เพราะมันไม่มีอยู่จริง
ในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น อย่าคาดหวังที่จะได้เจอเพื่อนที่ดีกับเราตลอดเวลาในอุดมคติแบบในนิยาย ในทางจิตวิทยาวิวัฒนาการมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คือความเป็นความน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการเอาตัวรอดของคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน การยึดติดกับเพื่อนหรือความสัมพันธ์มากเกินไป แปลว่าจิตใจยังผูกติดกับวัยเด็ก ซึ่งความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่นั้นต่างออกไป ออกไปรู้จักคนให้มากขึ้น ทำความรู้จักแบบผิวเผินกับคนที่ไม่สนิทมากบ้าง คบกับคนที่ต่างจากเราบ้าง อย่ายึดติดอยู่กับคนสนิทเพียงไม่กี่คน อย่าคาดหวังกับคนอื่นมากไป อย่าบังคับขู่เข็ญให้คนอื่นเข้ามาในชีวิต และอย่าลืมว่าจริง ๆ แล้วชีวิตคือความโดดเดี่ยว
5. คนชอบเก็บตัวมีชีวิตที่สนุกสนานกว่าคนชอบเข้าสังคม
คนชอบเก็บตัวดูเหมือนจะใช้ชีวิตน่าเบื่อ เดิม ๆ แต่เป็นไปได้สูงว่าพวกเขาใช้ชีวิตสนุกสนานมากกว่า เพราะคนชอบเก็บตัวมีค่าชี้วัดความสนุกที่ต่ำกว่ามาก มีความสุขได้แม้กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่าแม้กำลังพักผ่อนอยู่ก็ตาม
😅ในเล่มที่อธิบายความรู้สึกของคนชอบเก็บตัวไว้หลายข้อค่ะ ถ้าคนชอบเก็บตัวมาอ่านน่าจะโดนใจ ที่ชอบก็มี😅
1. ความเดดแอร์เวลาที่คนรู้จักทิ้งเราไว้คนเดียวกับกลุ่มคนแปลกหน้า
2. ความสุขที่ได้ออกจากงานปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เราไม่รู้จัก
3. ความสุขที่ถูกยกเลิกนัด
4. ความอึดอัดเวลาที่ไปกินข้าวกับกลุ่มใหญ่ ๆ เมื่อกลุ่มใหญ่แบ่งเป็นกลุ่มย่อย ๆ เพราะคนมากเกินที่จะคุยด้วยกันได้ แล้วคนชอบเก็บตัวไม่สามารถเข้าได้กับสักกลุ่ม ได้แต่นั่งกินเงียบ ๆ คนเดียว
5. คนชอบเก็บตัวไม่ได้ชอบอยู่คนเดียว และก็รู้สึกเหงาเป็น
6. กิจกรรมสนุกเล็ก ๆ น้อยของคนชอบเก็บตัว เช่น การเรียนวาดรูปคอร์สออนไลน์ การเฝ้าดูแลต้นไม้ การเขียนบทความ เขียนนิยายออนไลน์ และการอ่านหนังสือ
7. เวลาที่คนชอบเก็บตัวร้องไห้ โปรดปล่อยเขาไว้คนเดียว
8. ชอบใช้บริการร้านเสริมสวยที่คนทำผมไม่พูดมาก ไม่ถามมาก
9. เป็นคนติดบ้านมาก ๆ
10. เรื่องที่ว่าทำไมคนชอบเก็บตัวถึงมักจะชอบและคลั่งไคล้แมว
😘รีวิวหลังอ่านจบ😘
ไม่ใช่หนังสือที่ยกยอคนชอบเก็บตัว แล้วเหยียดคนชอบเข้าสังคม ไม่ได้เข้าข้างคนชอบเก็บตัว (ในบางอย่างก็แนะนำว่าคนชอบเก็บตัวต้องปรับตัว ถ้าอยากจะมีความสุขและเปิดโลกมากขึ้น) แต่เป็นหนังสือที่อธิบายว่าคนชอบเก็บตัวไม่ได้เป็นบุคลิกที่ผิดปกติ ไม่ได้ด้อยกว่าคนที่ชอบเข้าสังคม ไม่มีบุคลิกแบบไหนเหนือกว่าแบบใด และไม่ว่าเราจะมีบุคลิกลักษณะอย่างไรเราก็โจทย์ในชีวิตที่ท้าทายเหมือนกัน เป็นหนังสือที่อธิบายความเป็นคนชอบเก็บตัวในบางมุมที่แม้แต่คนชอบเก็บตัวเองอาจจะไม่เคยสังเกตตัวเองเท่านี้มาก่อน คำถามต่าง ๆ ที่เราเคยสงสัย ก็มีคำตอบให้ในเล่มนี้ หนังสือที่จะทำให้เราเข้าใจตัวเองและเข้าใจผู้อื่นได้มากขึ้น ยอมรับในความแตกต่างกันและมีหนทางอยู่ร่วมกันด้วยความสุขที่มากขึ้น ส่วนตัวแล้วแน่นอนว่าเราเข้าข่ายเป็นคนชอบเก็บตัว หนังสือเล่มนี้ทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้คำตอบบางอย่างที่ตามหามาตลอด ได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ จากที่เราเคยคิด เคยเชื่อฝังใจ ขอบคุณและดีใจที่ได้อ่านน้องชมพูแปร๊ดกับแมวดำที่ดูยียวนเล่มนี้ค่ะ
………………………………………………....
ข้อมูลหนังสือ
ที่จริงแล้ว, ฉันเป็นคนเก็บตัวนะ
แปลจากหนังสือ: Actually, I'm an Introvert 사실, 내성적인 사람입니다
ผู้เขียน: นัมอินซุก
ผู้แปล: สาริญา แซ่ตั้ง
ออกแบบปก: Ae Shoong
สำนักพิมพ์: Bibli
จำนวนหน้า: 272 หน้า ปกอ่อน
………………………………………………....
❣#ฌาร์มา มีความรู้ดี ๆ เทคนิคการอ่านหนังสือ รีวิวหนังสือหลาย ๆ แนว และนิยายที่เขียนเอง ให้อ่านกันอีกเรื่อย ๆ ค่ะ กด Like Page และกด see first page ไว้ เพื่อที่จะได้เห็นโพสต์ใหม่ ๆ อีกนะคะ
❣หากชอบ อย่าลืมกด like comment share โพสต์นี้ เป็นกำลังใจให้ฌาร์มาเขียนรีวิวเล่มหน้า ๆ ต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
#ฌาร์มา #เล่มนี้ฌาร์มาอ่านจบแล้ว #ฌาร์มากับการสลายกองดองของเธอ #เดี๋ยวนี้ใครเขาอ่านหนังสือกัน #บันทึกการอ่าน #รีวิวหนังสือ #แนะนำหนังสือ #สรุปหนังสือ #ที่จริงแล้วฉันเป็นคนเก็บตัวนะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
