#ทริปโดนเทตอนที่3
รุ่งเช้าของวันที่2 ตื่นมาบนกระท่อมหลังน้อยที่ลอยอยู่บนน้ำ เวลาประมาณ6:30น.แต่ว่าท้องฟ้ายังไม่สว่างดีนักพี่คนขับเรือมาตามนัด เคาะประตูเรียก เราตั้งสติแล้วลุกขึ้นเปิดประตู เจอหน้ากันพี่เค้าบอกว่าให้เวลาเตรียมตัวครึ่งชั่วโมงนะเดี๋ยวจะพาไปนั่งเรือเพื่อไปดูน้ำตกและดูคนแถวนี้มาเก็บเบ็ดราวที่วางล่อเหยื่อไว้เมื่อวานบริเวณแถวๆนี้ ก็เป็นอันตกลงกันตามนี้
บรรยากาศที่มองจากที่นอนออกไปนอกหน้าต่าง
ใช้เวลประมาณ15นาทีก็ทำธุระส่วนตัวเสร็จ อากาศค่อนข้างเย็นเลยและบรรยากาศรอบข้างก็ดีมากๆ จากนั่นก็เดินไปหาพวกพี่เขาตรงที่นั่งคุยกับพวกเค้าเมื่อวาน พี่ผู้หญิงบอกว่าไปเที่ยวก่อนนะเดี๋ยวค่อยกลับมากินข้าวกัน คิดในใจตื่นมาก็เจออากาศดีๆและมิตรภาพดีๆเลย แล้วก็ได้เวลาออกเรือ เดินลงไปนั่งเรือลำเดิมแล้วพี่คนขับก็ออกเดินทาง ไปกันเลยพี่
บรรยากาศตอนเช้าระหว่างนั่งเรือออกไปเที่ยว
เรือแล่นไปได้ซักพักอากาศเย็นมากแต่ก็ตื่นตากับบรรยากาศโดยรอบข้างมากๆแสงแดดยังไม่สว่างมากนักแต่ก็พอจะมองอะไรต่างๆได้อย่างชัดเจน เช้านี้หมอกค่อยข้างเยอะ(พี่คนขับเรือบอกว่าอันนี้หมอกจริงๆ😅😅) แป๊บนึงพี่เค้าก็ชี้ให้ดูแนวราวเบ็ดตกปลาที่คนมาวางไว้
แนวเบ็ดราวจะอยู่ตรงริมๆตลิ่งตรงแนวป่า
แล้วก็ผ่านไปอีกซักพักแสงเริ่มสว่างมากขึ้นแต่ก็ยังมีหมอกหนาอยู่พอสมควร แล้วก็มาถึงตรงบริเวณน้ำตก ซึ่งขนาดไม่ใหญ่มากนัก พี่เค้าขับเรือเข้าไปเทียบตรงใกล้ๆน้ำตก น้ำบริเวณนี้จะใสมากและอากาศก็ค่อยข้างเย็น ดื่มด่ำบรรยากาศได้ซักพักพี่คนขับเรือบอกสจะพาขับอ้อมไปอีกทางนึงถ้าโชคดีเราจะได้เห็นค่างด้วย ดีใจและตื่นเต้นที่จะได้เห็นอะไรแปลกๆที่เราไม่เคยจากไหนมาก่อน คิดไปว่าทำไมเราโชคดีแบบนี้ที่ได้มาเที่ยวครั้งนี้ เรือก็แล่นไปจอแถวๆริมป่าแห่งหนึ่งเพื่อรอดูค่าง แต่วันนี้เราได้เห็นแค่นกแปลกๆ ก็เลยพากันกลับ แล้นมาได้อีกนิดนึงพี่เค้าบอกนั่นไงเห็นค่างมั้ย เค้าจอดให้ดูแต่ว่าอยู่ไกลมากเห็นอยู่บนยอดไม้ลิบๆ
นี่คือน้ำตกที่ไปดูกันไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่ก็บรรยากาศดี
แล้วก็ได้เวลากลับไปยังที่พัก ขากลับแสงแดดเริ่มสว่างมากแล้วเห็นวิวรอบข้างต่างไปจากเดิมพอสมควรแต่ก็สวยมากทีเดียว แล้วก็ล่วงเลยจนกลับมาถึงที่พักจนได้ ใช้เวลาประมาณเกือบๆ2ชั่วโมง
จุดที่จอดแวะเพื่อดูค่าง
ทิวทัศน์ตอนขากลับแดดออกแล้วแต่ยังมีหมอกและเมฆทอดผ่านทิวเขาอย่างสวยงามมากจร
กลับมาถึงที่พักแล้วจนได้ยังสนุกอยู่เลย พี่เค้าบอกว่าไปพักอาบน้ำอาบท่าทำอะไรให้เรียบร้อยก่อนก็ได้แล้วมากินข้าวเช้า เสร็จแล้วเขาจะพากลับซึ่งขากลับเราจะแวะถ่ายรูปที่แลนด์มาร์คของที่นี่กัน ที่เรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทย แล้วก็จะกลับเข้าฝั่งเลย ฟังคำนี้ก็ใจแป้วๆนะ แต่ก็เดินไปบ้านพักนั่งดูบรรยากาศรอบๆที่พักอีกนิดหน่อยมีคนพายเรือเล่นกันอยู่ แล้วก็ไปเตรียมตัวเก็บข้าวของอาบน้ำแต่งตัว ก็ยังคิดว่าแปลกดีนะเราอยู่โดยที่ไม่ต้องมีโลกของโซเชี่ยลมีเดียเลย จากนั่นก็เดินไปกินข้าวพร้อมกับหิ้วกระเป๋ามาเลย มาถึงพี่แม่ครัวก็ตักข้าวต้มมาให้หนึ่งถ้วยใหญ่ พร้อมน้ำหนึ่งกระติกไม่มีอะไรมากแต่รู้สึกว่าทำไมอร่อยจังเลย มีความสุขจังนั่งกินไปมองวิวบ้านที่เราพักและบริเวณรอบๆไปด้วย กินอิ่มเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาร่ำลากัน ทุกคนออกมายืนส่งลงเรือรู้สึกดีมากจริงๆ ไม่คำกล่าวใดๆออกมาได้มากกว่าคำว่า ขอบคุณทุกคนมากครับ สวัสดีทุกคนแล้วเดินลงเรือ ได้ยินคำพูดตามหลังมาว่า แล้วมาเที่ยวใหม่นะ เราหันมายิ้มและโบกมือลากันครั้งสุดท้าย แล้วก็สะพายกระเป๋าลงเรือ
ข้าวต้มมื้อเช้าพร้อมน้ำหนึ่งถัง
ทีนี้ก็ได้เวลาผจญภัยอีกครั้ง พี่คนขับเรือพาขับออกไป เพื่อจะไปยังแลนด์มาร์คสำคัญ จนมาถึงที่หมายมีเรืออีก3-4ลำมาจอดถ่ายรูปเหมือนกัน สวยสมกับที่เค้าบอกจริงๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น
ระหว่างทางมาเขาสามเกลอ
มาถึงแล้ว พี่เค้าจอดให้เราได้ถ่ายรูป ได้เก็บบรรยากาศแล้วเค้าก็เล่าอะไรต่างๆให้ฟังมากมาย ในใจก็คิดว่าดีจริงๆที่เราฝืนมาคนเดียว
เขาอินเดียนแดง พี่เค้าบอกว่าหินตรงยอดเขามีรูปร่างเหมือนกับอินเด
วนเวียนบริเวณนั้นอยู่ครึ่งชั่วโมง พี่เค้าก็บอกว่าได้เวลากับเข้าฝั่งกันแล้ว ขากลับก็ไม่มีอะไรมาก ดูวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปจนไม่อยากถ่ายแล้ว ทุกอย่างเก็บไว้ในความทรงจำ
แล้วเรือก็พาเรากลับมาถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ พร้อมสัณญาณโทรศัพท์ ขอบคุณพี่คนขับ สวัสดีร่ำลากันพอสังเขป ก็แยกย้ายเราเองก็โทรหารถตู้ให้มารับตรงที่นัดหมาย มีเวลาเดินเล่นดูร้านค้าต่างๆและของที่ระลคกมากมาย นั่งดูผู้คนขวักไขว่ไปมา มีทั้งที่มาเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัวและก็มีแบบเป็นทัวร์มาเพื่อจะไปแพต่างๆ
แล้วก็ได้เวลารถตู้มารับเพื่อจะเดินทางกลับเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ วันนี้จะนอนในตัวเมืองจองโรงแรมไว้เรียบร้อย แผนที่วางไว้คือจะไปหาของอร่อยกินและเดินเล่นหาของกินที่ตลาดโต้รุ่ง คิดไว้ว่าจะใช้วิธีเดินเท้าเอาแค่ที่พอระยะที่เราเดินไหว แล้วรถก็มาจอดแถวๆตลาด ก็ถามทางกันเรียบร้อยก็เดินไปที่โรงแรมที่จองไว้ ยังไม่ได้เวลาเข้าพักก็เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อนแล้วเดินไปหาของกิน เราจะไปกินของอร่อยเจ้าดังประจำเมืองสุราษฎร์กันเลย ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ชื่อร้าน ยกเข่ง แล้วก็เดินมาถึงร้านคนหนาแน่นพอสมควรแต่เรามาคนเดียวสบายอยู่แล้ว ได้นั่งโต๊ะเรียบร้อยก็สั่งอาหาร สั่งมาสองอย่างเป็นอาหารที่มาแล้วต้องกินคือ โล่งโต้ง จะเป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่มีกากหมูโรยหน้ามา เหมือนจะดูไม่มีอะไรแต่ก็อร่อยดี กับอีกหนึ่งอย่าง อันนี้นำเสนอมากส่วนตัวได้กินแล้วชอบมากจริงๆ ชื่อเมนูว่า ผักบุ้งไต่ราว แค่ชื่อก็แปลกแล้ว คือจะเป็นผักบุ้งลวกใส่เส้นหมี่ โรยหน้ามาด้วยหมูสามชั้น กุ้งทอดและไข่พะโล้ราดน้ำยำอะไรซักอย่างมา ดูแปลกดี แต่กินแล้วอร่อยมาก
โล่งโต้งและผักบุ้งไต่ราว อร่อยมากจร
อิ่มเรียบร้อยคิดในใจว่าพรุ่งนี้ต้องมาซ้ำแน่นอน ฮ่าๆๆๆ แล้วก็เดินกลับโรงแรม ขากลับเดินลัดเลาะตามซอย แวะดูวัดเก่าแก่อีกแป๊บนึงก็รู้สึกว่าร้อนมากไม่ไหวแล้วกลับไปชาร์จพลังที่โรงแรมก่อนดีกว่ามาถึงก็ถามพนักงานงานเรื่องเวลาตั้งตลาดว่ากี่โมงแล้วก็ขึ้นห้องเก็บของอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น แล้วรอเวลาไปเดินตลาดโต้รุ่งตอนเย็น
แล้วก็ได้เวลาไปเดินชมตลาดโต้รุ่งประจำสุราษฎร์ เดินบัดเลาะมาตามเคยแป๊บเดียวก็ถึงตลาด ร้านค้า ของกินและคนเยอะมาก อะไรก็น่ากินไปหมดเดินจนมาถึงร้านข้าวหมกไก่เห็นแล้วอยากลองเลยเข้าไปนั่ง สั่งข้าวหมกไก่เพิ่มเครื่องใน พอมาเสริฟ์ก็ตกใจมากทำไมเยอะแบบนี้แล้วจะไปกินอย่างอื่นต่อได้มั้ยล่ะนี่ แล้วยังมีผักใส่จานแช่น้ำแข็งมาให้อีก ผักแช่เย็นเจี๊ยบเติมเรื่อยๆ โอยสงสัยคงหยุดแค่ร้านเดียวนี่แหละ
ข้าวหมกไก่เพิ่มเครื่องในโรยกระเทียมเจียวหอมๆ
อิ่มแล้วทีนี้ไปต่อยากเลยจะกินอะไรได้อีกล่ะ เลยเดินเล่นจนสุดทางแวะซื้อขนมอีกนิดหน่อยเอาไว้ไปกินที่โรงแรมเผื่อหิว เราเลือกจะเดินกลับอีกกทางนึงไปทางถนนคนเดินเลียบไปกับแม่น้ำตาปี แต่ว่าวันนี้ไม่มีถนนคนเดินเลยเดินดูบรรยากาศริมแม่น้ำมาเรื่อย ดูบ้านเรือนเค้า ใจนึงก็คิดไปว่าดีแล้วที่เลือกเดินจะได้เห็นอะไรต่างๆแปลกๆมากมาย เพราะถ้าเราเลือกนั่งรถโดยสารคงจะไม่เห็นอะไรแบบนี้ เดินมาถึงตรงลานกีฬาก็เจอคนพากันมาออกกำลังกาย วิ่งบ้าง เตะตะกร้อลอดห่วงบ้าง เราแวะถ่ายรูปนั่งดูวิวริมแม่น้ำอีกแป๊บนึงก็เดินกลับโรงแรมที่พักซึ่งก็มืดพอดี
บนยอดตึกจะช่องไว้ให้นกนางแอ่นมาทำรัง
ลานเอนกประสงค์ที่มีคนมาเล่นกีฬากัน
เหนื่อยพอสมควรแล้วกลับมาถึงโรงแรมเรียบร้อยก็จัดแจงอาบน้ำอีกรอบนึง นั่งกินขนมและเครื่องดื่มที่ซื้อมาจนได้เวลาพอสมควรก็ปีนขึ้นเตียงนอนพักผ่อนเอาแรงไว้เพื่อพรุ่งนี้จะได้มีแรงผจญภัยอีกวันนึงซึ่งก็จะได้เวลากลับบ้านแล้ว แผนที่คิดไว้คือฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วจะนั่งรถตู้ไปสวนโมกข์ของท่านพุธทาสซึ่งอยู่ที่อำเภอไชยา แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนเอาแรง จบวันที่สองแบบค่อนข้างเหนื่อยและร้อนมากทีเดียว
แล้วก็จบกันไปกับตอนที่สามนะครับ แล้วมาลองติดตามตอนสุดท้ายว่าจะเป็นยังไงต่อไป เจอและเห็นอะไรบ้าง ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมา ถ้าชอบก็กดถูกใจกดแชร์เป็นกำลังให้กันเพื่อจะได้เขียนเรื่องต่อๆไปด้วยนะครับ บุญรักษาทุกคนครับ🙏🏻💛💙
ภาพรวมบรรยากาศตอนเย็นของตัวเมืองสุรา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
