Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เเนวความคิดเเละหลักการใช้ชีวิต🐔
•
ติดตาม
18 ม.ค. 2021 เวลา 05:53 • อสังหาริมทรัพย์
งานวิจัยค้นพบว่า “เศรษฐี”
ถูกแบ่งออกไปด้วยกัน 3 กลุ่ม
นักลงทุนมัธยัสถ์, เศรษฐีอัจฉริยะ, เศรษฐีนักสร้างฝัน
-หลังจากใช้เวลา 5 ปี ในการศึกษางานวิจัย
ที่กล่าวไว้ว่า เศรษฐีในโลกนั่น นี้มีอยู่ด้วยกัน 3 กลุ่ม ดังนี้
-จากงานวิจัยของ Thomas C. Corley ทำการสำรวจคนที่ “มั่งคั่ง” หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “คนรวย” จากการสัมภาษณ์ทั้งหมด 233 คน ระหว่างการสัมภาษณ์ “คนรวย” แต่ละคน และใช้ระยะเวลาอีก 18 เดือนต่อมา ในการสรุปและวิเคราะห์คำตอบของพวกเขาเหล่านั้น พบว่า เศรษฐีนั่นถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้
.
-เศรษฐีกลุ่มที่ 1 คือ “นักลงทุนผู้มัธยัสถ์” (The Saver-Investors)
.
-จากงานวิจัยชิ้นนี้ มีคนร่ำรวยที่เป็น “นักลงทุนผู้มัธยัสถ์” อยู่ที่ 22% ของคนรวยในการศึกษา ‘Rich Habits Study’ คนกลุ่มนี้จะปราศจากหนี้สิน ไม่ได้มีหน้ามีตาทางสังคมมากนัก แต่มีรายได้เข้ามาแบบ Passive income ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในหุ้น ได้ดอกเบี้ยจากเงินปันผล หรือการลงทุนในอสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าให้มีรายได้เข้ามาทุกเดือน
.
-โดยสิ่งที่ค้นพบคือ คนกลุ่มเหล่านี้ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หรือมีชื่อเสียงทางสังคมมากนัก, มีเงินเก็บจากการทำงานกับบริษัทใหญ่และมั่นคง
.
-โดยนำเงินเก็บเหล่านั้น ไปลงทุนต่อยอด เพื่อให้เกิด Passive income, หารายได้อาจได้ไม่มาก แต่หาได้เกินค่าเฉลี่ยมาตรฐาน, เก็บออมได้เฉลี่ยเดือนละ 20%, และลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
1
-โดยเฉลี่ยจะใช้ระยะเวลาสร้างสินทรัพย์ประมาณ 32 ปี มูลค่าของสินทรัพย์อยู่ที่ 3.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 100 ล้านบาท
.
-เศรษฐีกลุ่มที่ 2 คือ “อัจฉริยะ ผู้ชำนาญ” (Virtuoso)
-งานวิจัยชิ้นนี้ มีคนร่ำรวยที่เป็น “เศรษฐีอัจฉริยะ” อยู่ประมาณ 27% ของคนรวยในกลุ่มนี้ คนกลุ่มนี้มักเติบโตขึ้นในองค์กรใหญ่ และได้รับมอบหมายในตำแหน่งที่สำคัญๆ ด้วยความขยัน ทำงานหนัก บุคคลที่มีความสามารถ ทางเทคนิคที่โดดเด่นในศาสตร์นั้นๆ รวมถึงอาจเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่มีองค์กรที่ทำกำไรสูง
-โดยสิ่งที่ค้นพบของคนกลุ่มนี้คือ พวกเขามักศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ อีกทั้งยังวางแผนอย่างรอบคอบในการนำรายได้ไปต่อยอดในการลงทุน
อีกทั้งยังแตกต่างจากกลุ่มแรกคือ การเป็นที่รู้จักของสังคม
-ยกตัวอย่างเศรษฐีอัจฉริยะ อย่าง “คุณกวี ชูกิจเกษม” รองกรรมการผู้จัดการสายวิเคราะห์หลักทรัพย์กสิกรไทย คุณกวีนั่น ทำงานในองค์กรใหญ่มานานหลายปี ดังนั้นจึงมีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียง ในสิ่งที่ทำจนมีผลตอบแทนในระดับสูง เป็นต้น
1
-โดยเฉลี่ยจะใช้ระยะเวลาสร้างสินทรัพย์ประมาณ 20 ปี มูลค่าของสินทรัพย์อยู่ที่ 4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 120 ล้านบาท
.
-เศรษฐีกลุ่มที่ 3 คือ “นักสร้างฝัน” (The Dreamers)
1
-งานวิจัยชิ้นนี้ มีคนรวยที่เป็นเศรษฐีนักสร้างฝันอยู่ประมาณ 51% ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นกลุ่มที่มั่งคั่งร่ำรวย พวกเขาทำงานโดยการไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง และทำให้ฝันนั้นเป็นจริง พร้อมรับผลตอบแทนมหาศาล
-โดยสิ่งที่ค้นพบของคนกลุ่มนี้คือ มักมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะผู้ก่อตั้งกิจการขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งผู้เปลี่ยนแปลงโลกก็ว่าได้ อย่างไรก็ดี การวิ่งไล่ตามความฝันไม่ใช่เรื่องง่าย และเต็มไปด้วยความเสี่ยง
-ยกตัวอย่างเศรษฐี นักสร้างฝันอย่าง “แจ็ค หม่า” (Jack Ma) สู่เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่มีทรัพย์สินทั้งหมด 1.5 ล้านล้านบาท ที่เริ่มสร้างธุรกิจจากการวิ่งตามความฝันของตัวเอง ด้วยความเชื่อว่า ต้องทำให้ความฝันมีชีวิตอยู่ตลอดเวลา เพราะสักวันฝันนั้นอาจจะเป็นจริงขึ้นมาจริงๆ
.
-โดยเฉลี่ยจะใช้ระยะเวลาสร้างสินทรัพย์ประมาณ 12 ปี มูลค่าของสินทรัพย์อยู่ที่ 7.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 200 ล้านบาท
.
-มี 2 สิ่งที่เหมือนกันของคน ทั้งสามกลุ่มนี้คือ
-ทุกความพยายามต้องใช้เวลาหลายต่อหลายปีในการสร้างความมั่งคั่ง และความสม่ำเสมอ
-พวกเขารู้จักวิธีการวางแผน และการจัดการกับความมั่งคั่งของตัวเอง และต่อยอดด้วยวิธีการนำเงินไปต่อเงิน
-ถ้าอยากประสบความสำเร็จและมั่งคั่งระดับเศรษฐี สิ่งสำคัญคือ เลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับเรา และมุ่งมั่นลงมือทำอย่างตั้งใจ
2
-สิ่งที่ทุกคนมีไม่แตกต่างกันเลยคือ เรื่องของระยะเวลา เพียงแค่เราหมั่นเตรียมวัตถุดิบ สั่งสมให้พร้อม เพราะความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงวันเดียว
8 บันทึก
9
10
8
9
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย