18 ม.ค. 2021 เวลา 08:00 • ครอบครัว & เด็ก
นิสัยของผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในหนังสือ The Seven Habit of Highly Effective People
นิสัยของผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในหนังสือ The Seven Habit of Highly Effective People ที่เขียนโดย นักจิตวิทยาชื่อ สตีเฟน อาร์. โคว์วีย์ (2541) ได้กล่าวว่าการพัฒนานิสัย (Developing Habits) ประกอบด้วย ความรู้ ทักษะและความอยาก และสิ่งที่ยากในการพัฒนานิสัยให้ดีขึ้นคือ การสร้างความ อยากในการท่ีจะลงมือทำ หากมองถึงองค์ประกอบของการสร้างนิสัยแล้ว จะเห็นว่า เมื่อคนเรามีความรู้ มีแนวทางและหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ ภายใต้ความต้องการพัฒนาตนเองในทางที่ดี การเปลี่ยนแปลงนิสัยของ ตนเองย่อมเป็นไปได้เสมอ
การฝึกฝนคุณลักษณะเหล่านี้ ให้กลายเป็นนิสัยของเรา เท่านี้คำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตก็คงไม่ ยากเกินไป
หนังสือ THE 7 HABITS OF HIGHLY EFFECTIVE TEENS ได้พูดถึงลักษณะของวัยรุ่นท่ีจะ ประสบความสาเร็จโดยใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สิ่งที่เราอยากเป็นให้สามารถเป็นจริงได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะนำมาเป็นแนวทางในการทำงานและใช้ชีวิตที่ดี โดยเร่ิมต้นจากเราจะต้องมีวิธีการที่เรามองตนเอง เข้าใจตนเองและตีความเกี่ยวกับตนเองอย่างถูกต้องและเป็นบวก เพราะสิ่งเหล่าน้ีจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม ของเรา และพฤติกรรมของเรานั้นก็จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีนั่นเอง หมายความว่า หากเรามีมุมมองต่อสิ่งหนึ่งใน ด้านดี เราก็จะปฏิบัติในทางที่ดี ผลที่ดีก็ย่อมเกิด และในทางตรงกันข้าม หากเรามีอคติกับส่ิงใดแล้ว เราก็ย่อม ปฏิบัติอย่างมีอคติ ผลท่ีออกมาก็จะไม่สู้ดีนัก ส่วนนิสัยแรกที่เราควรจะสร้าง คือ
Be Proactive เขาอธิบายว่า เวลาท่ีมีส่ิงเร้ามากระทบกับตัวเรา หากเราโต้ตอบไปทันที เรียกว่า การโต้ตอบ (Reactive) แต่ถ้าเราหยุดใช้สติ คิด แล้วเลือกการตอบสนอง เรียกว่า Proactive สรุปง่าย ๆ คือ ให้ เรามีสติในการแก้ปัญหาต่างๆ ท่ีเผชิญอยู่นั่นเอง ในนิสัยน้ียังสอนด้วยว่า เรามักกังวลกับสิ่งที่เราไม่สามารถทำ อะไรได้ ดังน้ัน Proactive สอนให้เราทำในสิ่งที่เราทาได้ให้มากที่สุด ทำตัวเราที่ทำได้ให้ดีที่สุด
Begin with the End in mind อันนี้ก็ง่ายๆเลย ก่อนที่เราจะทำอะไรให้เราคิดถึงผลลัพธ์สุดท้าย ก่อน ว่าอยากให้เป็นอย่างไร แล้วจากผลลัพธ์ที่คิดในใจก็จะแปลเป็นวิธีการไปสู่จุดหมาย หากเราทำงานโดยที่ ภาพสุดท้ายไม่ชัดเจน งานมันก็จะออกมาอีหลักอีเหลื่อ แต่ถ้าเรามีภาพสุดท้ายแล้ว ก็เหมือนมีเป้าหมายท่ี ชัดเจน เราจะรู้ว่าเราต้องเตรียมอะไรอย่างไรบ้าง
Put First Things First ก็คือ ทำสิ่งท่ีสำคัญก่อน ก็จะมีคำถามต่อว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญง่ายๆ เลย เราต้องรู้บทบาทหน้าที่ของเราว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ แยกให้ออกระหว่าง สิ่งสำคัญ/ไม่สำคัญ งานเร่งด่วน/ไม่เร่งด่วน ถ้าเรารู้จักวางแผนดีๆ งานสำคัญไม่เร่งด่วนก็จะเยอะกว่างานด่วนและสำคัญ กับงานด่วนแต่ไม่สำคัญ
Think win-win อันนี้เป็นเรื่องของทัศนคติ ในการใช้ชีวิตคนส่วนใหญ่จะคิดแบบชนะ-แพ้ในความจริงแล้วมนุษย์ มีทางออกที่จะสามารถจัดการแบบแบบชนะ-ชนะ คือ ไม่มีผู้แพ้
Understand before be Understood ก่อนบอกความต้องการหรือสิ่งที่เราคิดแล้วอยากให้ผู้อื่นยอมรับ เราต้องให้ความสำคัญและเข้าใจมุมมองของผู้อื่นอย่างลึกซึ้งก่อน
Synergize หรือ ผนึกพลังผสานความต่าง คนเรามักอยู่ในมุมของตัวเอง ไม่ยอมรับความเห็นของผู้อื่น ถ้าเราเปิดใจยอมรับความเห็นที่แตกต่างได้ นั่นย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง 1+1 > 2 ก็เพราะการยอมรับในความต่าง
Sharpen the saw แปลง่าย ๆ ว่า ลับเลื่อยให้คมเสมอ ก็คือหมั่นเติมพลังให้ชีวิต ทั้ง 4 ด้านได้แก่
1. ด้านสติปัญญา เช่น อ่านหนังสือ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
2. ด้านกายภาพ เช่น หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้พอ กินอาหารที่มีประโยชน์
3. ด้านอารมณ์ เช่น หมั่นคิดในสิ่งที่ดี ทำดี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
4. ด้านจิตวิญญาณ เช่น เข้าวัด เข้าโบสถ์ อยู่กับธรรมชาติ ทะเล ภูเขา ฟังเพลงที่ชอบ ดูหนังที่สนุก
หนังสือ THE 7 HABITS OF HIGHLY EFFECTIVE TEENS เป็นหนังสือที่มีแนวความคิดที่ดีที่เน้นวิธีการปฏิบัติตนเองให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ตนเองมีโอกาสได้พัฒนาและทำให้คนรอบข้างได้รับผลที่ดีตามไปด้วย การเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองเพียงแค่ต้องการเล็กน้อยก็ดีกว่าไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรตนเองเลย เพราะคนที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือตัวของเราเอง โดยมุ่งเน้นความสามารถที่เราจะทำได้โดยยึดเอาสิ่งที่ส าคัญเป็นหลักและจัดการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เราสามารถสร้างนิสัยที่เราอยากจะเป็นให้เป็นจริงได้
จากหลักสูตรจิตวิทยากับชีวิตประจำวัน | Psychology and Daily Life ดร.ณฐวัฒน์ ล่องทอง
โฆษณา