20 ม.ค. 2021 เวลา 06:11 • นิยาย เรื่องสั้น
หนี้สงฆ์
"น้าๆมานอนทำไรตรงนี้" ผมงัวเงียเงยหน้่าขึ้นมองตามเจ้าของเสียง
"น้าเมารึไง" ถึงมานอนหน้าโบสถ์เนี่ย
"ที่นี่ทีไหน"ผมถามเจ้าเด็กหัวจุกท่าทางกวนตีน
"วัดไงไม่รู้จักรึไง" มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงกวนตีนไม่แพ้หน้าตา
แต่ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นไปเตะมัน จังหวะพอดีกลับที่พระชรารูปนึงเดินผ่านมา
ท่านหยุดยืนมองผมก่อนที่จะเอ่ยปากถาม "โยมเป็นใคร ไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ย..."
ผมอึกอักก่อนที่จะตอบกลับไป "ครับหลวงพ่อ พอดีรถผมเสียอยุ่ที่ถนน ผมเลยเดิน
มาตามเสียงไฟเผื่อจะเจอใครพอช่วยเหลือได้ จนมาถึงตรงโบสถ์นี่แหละครับเลย
นอนพักเอาแรงก่อน กะว่าพรุ่งนี้ค่อยหาต่อ"
"โยมไม่ใช่คนร้ายใช่มั้ย" หลวงพ่อถามต่อพร้อมกับมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ไม่ใช่ครับ..." ผมตอบ
"แล้วโยมมาทำอะไรแถวนี้ ดูจากลักษณะแล้วไม่น่าจะมีญาติหรือใครที่รู้จัก
แถวนี้นะ" หลวงพ่อยังคงสงสัย
"พอดีผมจะไปหาญาติที่ลำปางครับ แต่ไม่ได้มานานเลยหลงมาทางนี้แล้วรถดันมา
เสียอีก..หลวงพ่อพอจะรู้จักใครที่ซ่อมรถได้มั่งครับ"ผมบอกสาเหตุ
"ก็พอจะมีอยู่นะ แต่พอดีมันเข้ากรุงเทพไปบอกจะไปรับปริญาลูกอีก2-3วัน
คงกลับ...." หลวงพ่อพูด
ผมคิดในใจทำไงดี...
"โยมจะค้างที่วัดก่อนมั้ยล่ะรอตาแทนมันกลับมา.." หลวงพ่อพูด
ผมรีบตอบทันที ได้ครับ..
จากนั้นผมก็เดินตามหลวงพ่อไปที่กุฎิ ระหว่างทางเดินผ่่านกุฎิเจ้าอาวาส
ผมมองเข้าไปเห็นโลงแก้วตั้งอยุ่ภายในมีร่างนึงนอนอยุ่ไม่เน่าไม่เปื่อย
"นั่นร่างเจ้าอาวาสคนก่อนท่านมรณภาพแล้วศพไม่เน่า ญาติโยมเลยศรัทธา
บริจาคเงินทำบุญกัน" หลวงพ่อพูด
ผมมองตามไปเห็นตู้เงินทำบุญเงินเกือบจะเต็มตู้ คะเนคร่่าวๆน่าจะเกือบแสน
ซึ่งถ้าผมมีเงินขนาดนั้นก็คงพอจะใช้หนี้พนันบอล ระหว่างที่ผมกำลังคิดบางอย่าง
หลวงพ่อก็พามาหยุดอยู่ที่หน้ากุฎิเก่าๆซึ่งอยู่ไม่ไกลกุฎิเจ้าอาวาสเท่าไรนัก
"โยมนอนที่นี่แล้วกัน กุฎินี้ไม่มีใครอยู่ พระรูปก่อนเพิ่งโดนจับสึกไปเพราะเล่นพนัน
บอล ผมสะดุ้งนิดนึงเมื่อหลวงพ่อพูดถึงการพนันบอล..หลวงพ่อจะรู้มั้ยว่าท่านยืน
คุยกับผีพนันอยู่ ผมคิดในใจ..
จากนั้นหลวงพ่อก็ขอตัวไปสวดมนต์ คืนนั้นผมนอนคิดทั้งคืนว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้พวกโต๊ะบอลดี ผมจะต้องหนีไปนานแค่ไหน ผมจะทำยังไงถ้ามันตามล่าไม่เลิก
ขณะที่ผมคิดฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย ผมก็ได้ยินเสียงคนคุยกันลอยมาตามลม
"จะดีเหรอหลวงพ่อนี่เงินบริจาคนะ มันบาป" เสียงผู้ชายพูดขึ้น
"ไม่บาปหรอกญาติโยมเค้าบริจาคก็เพราะอาตมา ยังไงเสียมันก็เป็นของอาตมา
อีกอย่างซะวัดนี้ก็เหลืออาตมารูปเดียว เดี๋ยวอาตมาบอกว่าเอาเงินไปบูรณะกุฎิ
เจ้าอาวาส..." เสียงหลวงพ่อ
"ว่าไงก็ว่่าตามกัน ยังไงเฮียสงไม่สนที่มาของเงินอยู่แล้วขอให้ใช้หนี้บอลแก
แกก็ยิ้มแล้ว ผมมันแค่คนทวงหนี้." เสียงผู้ชาย
หลังจากที่เสียงผู้ชายเงียบลง ผมตัดสินใจลุกขึ้นไปดูตามที่มาของเสียง
ผมค่อยๆ เดินเงียบๆ ไปทางกุฎิเจ้าอาวาส ระหว่างที่ผมกำลังจะไปถึง
ประตูกุฏิก็เปิดออกมาพอดี ผมฉากตัวหลบข้างโอ่งน้ำใบใหญ่ ภาพที่ผมเห็น
เป็นชายร่างใหญ่กำลังยกตู้บริจาคขนาดเท่าปี๊ปเดินออกมา พร้อมกับหลวงพ่อ
ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะเดินไปถึงรถที่จอดอยู่ ในหัวผมก็มีความคุณธรรมแล่น
เข้ามาทันที ผมเดินออกมาพร้อมตะโกนทันที " ทำไรกันนะหลวงพ่อ"
หลวงพ่อหันมามองตกใจ ชายร่างใหญ่หยุดชะงัก
"ขโมยเงินบริจาคมันบาปนะ" ผมพูด
"โยมอย่ายุ่งมันเป็นเรื่องของอาตมา" หลวงพ่อพูด
ผมคิดในใจนี่เหรอสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่มันเหลือบในผ้าเหลืองชัดๆ
ผมเดินเข้าไปหาชายร่างใหญ่พร้อมกับเอื้อมมือไปกระชากกล่องบริจาค
ขณะที่ยื้อยุดกล่องบริจาคนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นวาบเข้าที่หลัง
ผมหันกลับไปเห็นหลวงพ่อถือมีดอยู่ แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไร
ความเย็นครั้งที่2ก็เย็นเข้าที่ท้อง ผมเอามือกุมท้องเลือดทะลักออกมา
ผมเงยหน้าขึ้นมามองหลวงพ่อ หลวงพ่อตกใจรีบวิ่งหนีขึ้นรถพร้อมกับชายร่างใหญ่
และกล่องบริจาค แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นสติผมก็ขาดหายไป......
.....โจรใจบาป รถเสียหลักตกเขา ตายอนาถพร้อมพระลูกวัดและกล่องรับบริจาค ....
ผมยืนอ่านข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ที่ร้านหน้าวัด พร้อมกับยืนมอง รถมูลนิธิขับออก
ไป ชายแก่2-3คนจับกลุ่มคุยกัน จับใจความได้ว่า เมื่อคืนมีโจรเข้ามาขโมยเงิน
บริจาคเห็นว่าร่วมมือกับหลวงพ่อนี่แหล่ะ เห็นมั้ยกรรมตามทันตกเขาตายทันที
แต่ที่ตำรวจยังสงสัย คือชายหนุ่มที่ผูกคอตายในกุฎิข้างๆ นะเป็นใคร
ถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก หลักฐานอะไรก็ไม่มี.......
ผมคิดในใจผมคงไม่ติดหนี้สงฆ์ใช่มั้ยที่ผูกคอตายในวัด........
โฆษณา