18 ม.ค. 2021 เวลา 14:48 • การศึกษา
"เงี่ยน" กับความหมายในบริบทที่เปลี่ยนไปในทางที่เลวลง
(บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายของคำในภาษาไทย)
การเปลี่ยนแปลงความหมายของคำนั้นเกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัยล้วนเกิดจากการใช้และความเข้าใจที่แตกต่างกัน ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คำนั้นเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น หรือเลวลง เกิดจากบริบทในการใช้ของผู้ใช้ภาษาว่านิยมสื่อความหมายในประเภทใดบ้าง บางคำเป็นความหมายในทางที่ดี แต่ผู้ใช้นิยมใช้ในบริบทในทางที่ไม่ดี จึงทำให้คำๆนั้นมีความหมายที่เลวลงโดยปริยาย
เช่น คำว่า "นักเลง" ความหมายที่แท้จริงของคำนี้หมายถึง ผู้เชี่ยวชาญหรือฝักใฝ่ในสิ่งนั้น เช่น "นักเลงเพลงพื้นบ้าน" (ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเพลงพื้นบ้าน) "นักเลงพระ" (ผู้เชี่ยวชาญในการสะสมพระเครื่อง) เป็นความหมายที่แท้จริงของคำนี้คือ ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ซึ่งใช้ในบริบททั่วไปสำหรับคนในยุคก่อนๆ
2
ต่อมาจึงมีการใช้คำศัพท์ว่า "นักเลงหัวไม้" แปลว่าผู้เกะกะระราน ชอบใช้ไม้เป็นอาวุธในการข่มเหงรังแก ต่อมาจึงเหลือคำว่า "นักเลง" เพียงคำเดียวที่มีความหมายดังกล่าว จึงทำให้ความหมายเปลี่ยนไป บริบทการใช้เปลี่ยนไป ทำให้กลายเป็นคำที่มีความหมายเลวลงในปัจจุบัน
คำว่า "เงี่ยน" จึงเป็นคำๆหนึ่งที่ความหมายเดิมในทางที่ดี แต่เปลี่ยนแปลงในความหมายที่เลวลง เช่นคำว่า "นักเลง" บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายของคำว่า "เงี่ยน" กับความหมายในบริบทที่เปลี่ยนไปในทางที่เลวลง
"เงี่ยน" ไม่ใช่ คำเลวอย่างที่คิด บ่อยครั้งที่คนส่วนใหญ่มักจะพบเจอคำนี้และเข้าใจความหมายในทางที่ไม่ดี ซึ่งหมายถึง อาการอยากมีเพศสัมพนธ์ในความหมายที่เข้าใจในปัจจุบัน และจัดเป็นคำต้องห้ามที่ไม่ควรใช้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวลง ซึ่งเกิดจากบริบทการใช้ที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
1
คำว่า "เงี่ยน" มีความหมายว่า อยาก หรือ กระหาย ใช้ในบริบททั่วไปในสมัยก่อนเป็นความหมายในทางปกติ "เงี่ยนยา" (อยากยา) "เงี่ยนน้ำ" (กระหายน้ำ) ดังปรากฏในนิราศเมืองแกลงของสุนทรภู่ ความว่า
 
สงสารแสงแข็งข้อจนขาสั่น
เห็นเรือหันโกรธบ่นเอาคนหลัง
น้ำจะพัดปัดตีไปสีชัง
แล้วคลุ้มคลั่งเงี่ยนยาทำตาแดง
จากบทประพันธ์มีความหมายว่า นายแสง คนพายเรือมีอาการอยากยา ซึ่งเป็นคำที่ใช้ทั่วไปในบริบทของคนสมัยก่อนโดยไม่ใช่คำหยาบโลน จากตัวอย่างข้างต้นเห็นได้ว่าเป็นคำที่ปรากฏในวรรณคดีเอกของสุนทรภู่ จึงไม่ใช่คำที่มีความหมายเลวอย่างแน่นอน
ธุรกิจสื่อลามก
การใช้คำอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทำให้ความหมายของคำนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ปัจจัยที่ทำให้เกิดความอยากนั้นมีมากขึ้น มากกว่าอาหาร และยา เมื่อยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยสื่อมากมาย ในช่วงปี ค.ศ.1990-2000 เป็นต้นไปเกิดธุรกิจในด้านมืด คือ ธุรกิจสื่อลามก ในรูปแบบ VCD-DVD จึงทำให้เกิดการใช้คำในลักษณะที่เปลี่ยนไป เริ่มนิยมใช้ในบริบทของอาการอยากมีเพศสัมพันธ์แต่ยังไม่แพร่หลายเพราะเป็นสื่อที่จำกัดเฉพาะกลุ่ม
นับตั้งแต่ปี ค.ศ.2000-ปัจจุบัน เริ่มมีอินเทอร์เน็ตใช้ ผู้คนสามารถเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างแพร่หลายและมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เกิดการใช้คำในลักษณะที่เปลี่ยนไป มีการใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดการใช้ในบริบทที่เปลี่ยนไป คือใช้ในอาการอยากมีเพศสัมพันธ์อย่างเห็นได้เด่นชัด รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น คนรุ่นหลังอาจไม่เข้าใจที่มาและความหมายเดิมจึงทำให้เกิดการใช้ในลักษณะดังกล่าวต่อๆกันมา ทำให้มีความหมายที่แคบลง และเลวลงในที่สุด
การเปลี่ยนแปลงในทางที่เลวลงนั้น ส่งผลให้ความหมายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี 2554 มีความหมายว่า อยากจัด, กระหายจัด, มีความรู้สึกอยากหรือกระหายเป็นกำลัง, (โดยมากใช้เฉพาะของเสพติดและกามคุณ) โดยจำกัดความเพื่อบ่งบอกให้มีความหมายในทางที่ไม่ดี
อย่างไรก็ตามผู้ใช้ภาษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความหมายของคำเปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าปัจจุบัน เราจะไม่สามารถใช้คำดังกล่าวในความหมายเดิมได้ แต่เราสามารถศึกษาที่มาและความหมายของคำอื่นได้ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ภาษาในทางที่ผิด และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาที่มีความงดงามให้คงอยู่สืบไป
อ้างอิง :
คำไทย. (2562). ช่วงภาษาโบราณวันละคำ. [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก :
(สืบค้นเมื่อ 18 ม.ค. 63)
ที่มารูปภาพ :
โฆษณา