Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Nachos Talk คุยไปเรื่อยกับนาโชส์ :)
•
ติดตาม
18 ม.ค. 2021 เวลา 12:20 • ประวัติศาสตร์
ก่อนที่ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศอย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
ประเทศญี่ปุ่นก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่กว่าจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้
ต้องผ่านสงครามแล้วสงครามเล่า มาเป็นร้อยๆ ปี
ว่ากันว่า ท้องฟ้าหลังจากพายุฝนจะสวยงามที่สุด
และวันนี้ผมจะมาเล่าถึง สงครามที่ปิดฉากยุคสงครามของญี่ปุ่นและรวบรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 15
ประเทศญี่ปุ่นนั้นกำลังอยู่ในยุคสงคราม หรือที่เรียกกันว่า เซ็นโกคุ (Sengoku Jidai)
ในช่วงที่ประเทศแตกแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่า
พวกขุนนางซามูไรต่างปกครองเมืองของตัวเองและคอยจ้องจะแย่งชิงอำนาจกันไปมา
ทำสงครามกันนับครั้งไม่ถ้วน
จนอยู่มาวันหนึ่ง โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ผู้ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศในขณะนั้นถึงแก่ความตาย
(ฮิเดโยชิ ในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง Kampuku ซึ่งมีอำนาจเปรียบเสมือนโชกุนเลยนะ แต่ที่ไม่ได้ใช้ตำแหน่ง “โชกุน” เป็นเพราะว่าญี่ปุ่นในสมัยนั้นยังเป็นระบบศักดินาอยู่ และฮิเดโยชินั้นมีภูมิกำเนิดเป็นชาวนา จึงไม่สามารถใช้ตำแหน่งโชกุนได้)
ก่อนตาย ฮิเดโยชิ มีทายาทอยู่หนึ่งคน คือ โทโยโทมิ ฮิเดโยริ
แต่ว่าฮิเดโยริ ในขณะนั้น มีอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้นเอง
ฮิเดโยชิ จึงได้สั่งเสียทำคำสั่งก่อนตายแต่งตั้ง ให้เจ้าเมืองที่มีอำนาจมากที่สุด 5 คนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนร่วมกันกับกลุ่มผู้บริหารราชการของฮิเดโยชิอีก 5 คน รวมกันเป็น 10 คน
คอยบริหารประเทศรอจนกว่าฮิเดโยริจะเติบโตพร้อมที่จะปกครองประเทศด้วยตนเอง
ซึ่ง เจ้าเมืองที่มีอำนาจมากที่สุดทั้ง 5 คนนั้นมี อุเอสึกิ คาเงคัตสึ (Uesugi Kagekutsu)
โมริ เทรุโมโตะ (Mori Terumoto)
อูคิตะ ฮิเดอิเอะ (Ukita Hideie)
มาเอดะ โทชิอิเอะ (Maeda Toshiie)
และโทกุงาว่า อิเอยาสึ (Tokugawa Ieyasu)
และก็เป็นเหมือนเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของประเทศอื่นๆครับ
เมื่อทายาทของผู้นำคนก่อน ยังเด็กเกินกว่าจะทำอะไรได้
ผู้ใดที่สามารถควบคุมทายาทคนนั้นได้ ย่อมควบคุมประเทศได้
เมื่อเป็นดังนี้ เหล่าผู้สำเร็จราชการแทนของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ จึงเริ่มเคลื่อนไหวแย่งชิงอำนาจกันทันที
โทกุงาว่า อิเอยาสึ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองที่มีอำนาจทางทหาร และทางการเงินเยอะที่สุด ได้เริ่มสร้างสัมพันธไมตรีกับเมืองอื่น ๆ รอบข้าง
จนทำให้เจ้าเมืองคนอื่น ๆ เริ่มหวั่นเกรงว่า อิเอยาสึ นั้นจะมีอำนาจมากเกินไป
แล้ว อิชิดะ มิตซึนาริ (Ishida Mitsunari) หนึ่งในกลุ่มผู้บริหารราชการของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
มิตซึนาริ กลัวว่า อิเอยาสึ จะยึดอำนาจแล้วขึ้นปกครองญี่ปุ่นเสียเอง ไม่ขึ้นตรงต่อตระกูลโทโยโทมิ
แต่ว่าจะทำยังไงดีล่ะ อิเอยาสึ นั้นแข็งแกร่งและไม่ง่ายเลยที่จะชนกันซึ่งๆหน้าแล้วจะชนะได้
ด้วยความที่ มิตซึนาริ เองนั้นก็ไม่ได้มีพื้นเพมาจากการเป็นนักบู๊หรือซามูไร
เพราะตนนั้นเป็นนักบุ๋นที่ใช้มันสมองในการวางแผน เล่นการเมืองมากกว่า
จึงวางแผนส่งนักฆ่า ไปลอบสังหารอิเอยาสึ แถมยังปล่อยข่าวอีกว่า มาเอดะ โทชิอิเอะ เป็นผู้ที่ลงมือ
เพราะถึงแม้จะลอบสังหารพลาด ก็สามารถทำให้ อิเอยาสึ ผิดใจกับ โทชิอิเอะ แล้วทำสงครามกันเองก็ได้
แต่แล้วแผนการนั้นก็ล้มเหลว
เพราะว่า อิเอยาสึ รู้ทันแผนลอบสังหารนี้ก่อน
แถม มาเอดะ โทชิอิเอะ ก็ได้เข้าไปสวามิภักดิ์ต่อ อิเอยาสึ ด้วยตัวเองตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วด้วย
ซึ่ง มิตซึนาริ ยังไม่รู้ว่า อิเอยาสึ รู้ตัวแล้วว่าตนเป็นตัวการ
หลังจากนั้นไม่นาน มาเอดะ โทชิอิเอะ ถึงแก่ความตาย
และในงานศพของ โทชิอิเอะ ลูกน้องของอิเอยาสึ ได้จับกุม มิตซึนาริ ได้สำเร็จ
มิตซึนารินั้นได้อ้อนวอนร้องขอชีวิต และขอสวามิภักดิ์ต่ออิเอยาสึ
ซึ่งน่าแปลกมากที่ อิเอยาสึนั้น ยอมรับและให้อภัยมิตซึนาริ พร้อมปล่อยตัวไป
เพราะอิเอยาสึย่อมรู้ว่า คนอย่างมิตซึนารินั้นไม่ยอมลามือง่ายๆ แน่นอน
ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เมื่อได้รับปล่อยตัวออกมา มิตซึนาริ ก็เริ่มแอบรวมรวมพรรคพวกอย่างลับๆ ทันที
หลังจากนั้น เมื่ออิเอยาสึ มีอำนาจมากขึ้น จึงได้เข้าควบคุมปราสาทโอซาก้าที่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ โทโยโทมิ ฮิเดโยริ พำนักอยู่
แต่ไม่นานหลังจากนั้น ในปี 1600
อุเอสึกิ คาเงคัตสึ หมายมั่นจะแย่งชิงอำนาจกับอิเอยาสึ จึงได้เคลื่อนทัพมาประชิดเขตดินแดนของอิเอยาสึ
ทำให้อิเอยาสึ ต้องเตรียมกองทัพไปรบกับ คาเงคัตสึ ทันที
ซึ่ง มิตซึนาริ นั้นรอจังหวะนี้อยู่แล้ว จึงฉวยโอกาสอ้างความจงรักภักดีต่อตระกูลโทโยโทมิ รวบรวมกลุ่มผู้สำเร็จราชแทนที่เหลือมาเป็นพวกได้สำเร็จ (หลังจากนี้จะเรียกว่ากองทัพฝ่ายตะวันตก) และได้ประกาศสงครามกับอิเอยาสึ พร้อมกับเคลื่อนทัพเข้าประชิด กองทัพของฝ่ายอิเอยาสึ (หลังจากนี้จะเรียกว่ากองทัพฝ่ายตะวันออก) ทันที
ทำให้ตอนนี้นั้น กองทัพฝ่ายตะวันออก ถูกขนาบข้างเรียบร้อย และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากที่สุด เพราะหากกองทัพฝ่ายตะวันตกเคลื่อนทัพมาถึงเมื่อไหร่ กองทัพฝ่ายตะวันออกที่กำลังรบกับ อุเอสึกิ คาเงคัตสึ อยู่นั้น จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
แต่คนอย่าง อิเอยาสึ มีหรือจะไม่มีพรรคพวกเหลืออยู่
มีหนึ่งในเจ้าเมืองที่สนิทกับ อิเอยาสึ ชื่อ โทริอิ โมโททาดะ (Torii Mototada) ซึ่งปกครองเมืองที่กองทัพฝ่ายตะวันตกจะต้องเดินทางผ่าน
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องจบชีวิตลงอย่างแน่นอน หากต่อต้านกองทัพฝ่ายตะวันตก
แต่เพราะมิตรภาพ โทริอิ โมโททาดะ ตัดสินใจสู้อยู่ข้าง อิเอยาสึ แทน
โมโททาดะ นำกองกำลังประมาณ 2,000 สู้ตายถวายชีวิตพยายามต้านกองทัพฝ่ายตะวันตกของฮิเดโยริ ที่มีประมาณ 40,000 คน
กำลังพลต่างกันขนาดนี้ แต่ด้วยความใจสู้ กองทัพของโมโททาดะสามารถต้านได้ถึง 10 วันเลยทีเดียวครับ
ทำให้กองทัพฝ่ายตะวันตกเดินทางได้ล่าช้ากว่าตามแผนการไปมาก
ซึ่งกว่ามิตซึนาริ จะนำกองทัพเดินทางไปถึงเป้าหมาย
อิเอยาสึ ก็สามารถนำกองทัพผลักดันให้ อุเอสึกิ คาเงคัตสึ ต้องร่นถอยกลับไปและได้เตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพฝ่ายตะวันตกแล้ว
กองทัพของทั้งสองฝ่ายมีนั้นมีกำลังพลพอๆ กันคือฝ่ายละประมาณ 80,000 คน
ด้วยความที่มีความรัดกุมรอบคอบในการวางแผน เมื่อเห็นดังนั้น มิตซึนาริ จึงตัดสินใจร่นถอยกองทัพไปตั้งรับ ที่เซคิงาฮาระ
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ มิตซึนาริ จะได้เปรียบในทางด้านภูมิศาสตร์มากกว่า
พอรุ่งสาง สงครามที่เซคิงาฮาระ ได้เริ่มต้นขึ้น การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือด
แต่เพราะความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ จึงเป็นฝ่ายของมิตซึนาริที่กุมความได้เปรียบกว่ามาก
เมื่อเห็นว่าฝ่ายกองทัพฝ่ายตะวันออกเริ่มเพลี้ยงพล้ำ เสียกระบวนรบ เจียนอยู่เจียนไป
มิตซึนาริจึงคิดจะปิดบัญชีด้วยการสั่งให้กองทัพทั้งหมดของตนรุมถล่มกองทัพฝ่ายตะวันออกทันที
แต่ทว่าเหตุการณ์ดันกลับตาลปัตร เมื่อ โคบายาคาวะ ฮิเดอากิ (Kobayakawa Hideaki) หนึ่งในขุนพลของมิตซึนาริ ผู้ควบคุมกองกำลังจำนวนเกือบ 2 หมื่นคน เมินเฉยต่อคำสั่งของมิตซึนาริ ไม่ยอมบุกเข้าโจมตีกองทัพของอิเอยาสึเสียอย่างนั้น
อันที่จริง โคบายาคาวะ ฮิเดอากิ นั้นได้ทรยศฝั่งกองทัพฝ่ายตะวันตกแล้วเข้าร่วมกับอิเอยาสึมาตั้งแต่ก่อนเริ่มสงครามแล้ว แต่เนียนมาอยู่ฝั่งมิตซึนาริเพื่อเข้ามาดูสถานการณ์ก่อน
พอกองทัพฝ่ายตะวันตกเห็นว่า เกิดการทรยศกันเอง
ทำให้เหล่าผู้นำเกิดความไม่ไว้ใจกันเอง เหล่าทหารก็เสียขวัญกำลังใจกันไปหมดจนเสียกระบวนรบ
จนกลับมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบแทน
และในที่สุดก็เป็นฝ่ายของ โทกุงาว่า อิเอยาสึ ที่สามารถเอาชนะสงครามเซคิงาฮาระนี้ไปได้
ซึ่งสงครามนี้ถือว่าเป็นสงครามที่ปิดฉากยุคเซ็นโกคุ และรวบรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ
ทำให้ญี่ปุ่นสงบสุขไปอีก 200 กว่าปีเลยทีเดียว
หลังจากนั้น 3 ปี ในปี 1603 โทกุงาว่า อิเอยาสึ ก็ได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรษให้เป็น “โชกุน” อย่างเป็นทางการ
ส่วน โทโยโทมิ ฮิเดโยริ ผู้ซึ่งอาจจะเป็นเสี้ยนหนามคนสุดท้ายของตระกูลโทกุงาว่า ก็ไม่ได้รอดนะครับ
สุดท้ายถูกกำจัด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดสงครามแย่งชิงอำนาจอีก
และตระกูลโทกุงาว่า ก็ได้ปกครองประเทศญี่ปุ่นในฐานะโชกุน ไปอีกนานเลย
หลายๆ คนคงสงสัยว่าทำไม อิเอยาสึ ถึงปล่อยตัว มิตซึนาริ ทั้งๆ ที่รู้ว่า มิตซึนาริ จะต้องกลับมาแน่ๆ
1
ส่วนตัวผมคิดว่า ด้วยความที่ อิเอยาสึ นั้น เป็นคนที่เก่งทั้งบู๊และบุ๋น
อิเอยาสึ น่าจะรู้อยู่แล้วแหละ ว่าในช่วงเวลานั้น เขาเป็นเจ้าเมืองที่มีความโดดเด่นมากที่สุด
และแน่นอน เด่น เกินไป ย่อมไม่มีใครชอบ
เจ้าเมืองคนอื่นๆ จะต้องรวมหัวกันเพื่อกำจัดเขาเป็นแน่
ซึ่งต่อให้มิตซึนาริตายไป ก็ต้องมีคนอื่นขึ้นมานำกองทัพต่อสู้แทนอยู่แล้ว
แทนที่จะทำสงครามกับคนอื่นที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร สู้ทำสงครามกับคนที่รู้ทางดีแล้วอย่าง มิตซึนาริ น่าจะดีกว่า
แล้วเจอกันใหม่คราวหน้าครับผม
#สงครามเซคิงาฮาระ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย