Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เหลา กับ LAW
•
ติดตาม
18 ม.ค. 2021 เวลา 14:06 • การศึกษา
สามีภริยานอกใจยิงทิ้งได้ไม่ติดคุกจริงหรือ? 🤔
การที่ชายหญิงตกลงจดทะเบียนสมรสกันย่อมเป็นการแสดงให้เห็นว่า ชายหญิงคู่นั้นตกลงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ซึ่งตามประเพณีหมายถึง การที่ต่างฝ่ายต่างยกย่อง อุปการะ ดูแลซึ่งกันและกัน และร่วมบ้านหลังเดียวกัน ร่วมชีวิตในการครองเรือน ใช้ชีวิตร่วมกัน และร่วมไปถึงการร่วมประเวณีต่อกันด้วย ดังนั้นสามีและภริยาจึงมีหน้าที่ที่ต้องซื่อสัตย์ต่อความรักซึ่งกันและกัน โดยจะต้องไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับบุคคลอื่น หากสามีหรือภริยามีชู้หรือยกย่องหญิงหรือชายอื่นหรืออุปการะหญิงหรือชายอื่นฉันสามีภริยา ย่อมเป็นที่เสื่อมเสียเกียรติยศและชื่อเสียงแก่สามีหรือภริยา
แต่อย่างไรก็ดีความรักเป็นสิ่งที่ออกแบบไม่ได้ แต่แอบบอกได้ เมื่อสามีหรือภริยานอกใจยกย่องหญิงหรือชายอื่นหรืออุปการะหญิงหรือชายอื่นฉันสามีภริยา ย่อมเป็นการทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียงแก่อีกฝ่ายหนึ่ง อันเป็นการกระทำละเมิดสามีหรือภริยาที่ถูกกระทำละเมิดย่อมมีสิทธิที่ป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงของตนไม่ให้ผู้ใดมาทำให้ตนเสื่อมเสียเกียรติยศชื่อเสียงซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย
แต่ว่าการป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงนั้นแม้จะเป็นสิทธิโดยสอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องกระทำไปภายในขอบเขตของกฎหมายเช่นกัน หากกระทำไปเกินขอบเขตของกฎหมายย่อมไม่ได้รับความคุ้มจากกฎหมาย แล้วอย่างไรถึงจะเรียกว่าเป็นการกระทำไปในขอบเขตของกฎหมาย โดยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ได้บัญญัติเกี่ยวการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองและของผู้อื่นไว้ซึ่งถ้าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
"มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตน หรือผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำไปพอสมแก่เหตุ การกรทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด"
รูปภาพจาก https://www.thairath.co.th/news/society/1660880
ปัญหาจึงมีว่าเมื่อสามีหรือภริยานอกใจมีชู้เราสามารถยิงทิ้งได้ทันทีเลยหรือไม่? โดยอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตัวเอง
ซึ่งได้มีคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้
1.คำพิพากษาฎีกาที่ 378/2479 ชายพบภริยาของตนกำลังร่วมประเวณีทำชู้กับชายอื่นจึงฆ่าภริยาและชายชู้ตายทั้งสองคนนั้นทันทีเช่นนี้ ถือว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียง พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษ
2. คำพิพากษาฎีกาที่ 3861/2547
แม้จำเลยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของ ต. มีสิทธิป้องกันมิให้หญิงอื่นมามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีของตน แต่ขณะจำเลยพบโจทก์ร่วมนั้น โจทก์ร่วมกำลังนอนหลับอยู่กับ ต. เท่านั้น มิได้กำลังร่วมประเวณีกัน พฤติการณ์เช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่ามีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง อันจำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของจำเลยแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การที่โจทก์ร่วมเข้าไปนอนหลับอยู่กับ ต. สามีโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่เตียงนอนในฟาร์มเลี้ยงไก่ของ ต. เช่นนี้นับได้ว่าเป็นการกระทำที่ข่มเหงจิตใจของจำเลยอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยพบเห็นโดยบังเอิญมิได้คาดคิดมาก่อนและไม่สามารถอดกลั้นโทสะไว้ได้ ใช้มีดฟันศีรษะโจทก์ร่วมไปในทันทีทันใด การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตาม ป.อ. มาตรา 72 หาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายดังที่จำเลยฎีกาไม่
จากแนวคำพิพากษาฎีกาข้างต้นจึงสรุปการกระทำที่เป็นการป้องกันสิทธิของสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ว่า
1. นาย ก. พบเห็น นาง ข. ภริยาของตน กำลังร่วมประเวณีกับนาย ค. ชายชู้กรณีเช่นนี้ถือได้ว่า การที่นาง ข. ร่วมประเวณีกับ นาย ค. มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแก่นาย ก. แล้ว เพราะเป็นการทำให้ นาย ก. ต้องเสื่อมเสียเกียรติยศและชื่อเสียงการที่นาย ก. ใช่ปืนยิงนาง ข. ภริยาของตน และ นาย ค. ชายชู้ถึงแก่ความตาย ถือเป็นการป้องสิทธิของนาย ก. โดยชอบด้วยกฎหมาย นาย ก. ไม่มีความผิด ตามฎีกา 378/2479
2. นาย ก. พบ นาง ข. ภริยาของตนกำลังนอนหลับอยู่นาย ค. ชายชู้โดยไม่ได้ร่วมประเวณีกัน นาย ก. จึงใช้ปืนยิง นาง ข. และ นาย ค. ถึงแก่ความตาย การที่นาย ข. ภริยาของ นาย ก. กำลังนอนหลับอยู่กับนาย ค. โดยยังไม่ได้ร่วมประเวณีกัน จึงถือไม่ได้ว่ามีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงแก่นาย ก. การที่นาย ก. ใช้ปืนยิงนาง ข. และ นาย ค. ถึงแก่ความตาย นาย ก. จึงไม่อาจอ้างได้ว่ากระทำไปเพื่อป้องกันสิทธิของตน นาย ก. จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แต่อย่างไรก็ดี การที่ นาง ข. ภริยาของนายก ก. ได้นอนหลับอยู่กับนา ค. ซึ่งเป็นชายชู้ ภือเป็นการข่มจิตใจของนาย ก. อย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่นาย ก. ใช้ปืนยิงนาง ข. และนาย ค. ถึงแก่ความตายนาย ก. สามารถอ้างได้ว่ากระทำไปเพราะบันดาลโทสะ ตามฎีกา 3861/2547
ดังนั้นไม่ใช่ทุกรณีที่เมื่อสามีหรือภริยานอกใจมีชู้แล้วไปยิงทิ้งหรือไปทำร้ายเขาแล้วเราจะไม่ติดคุก แต่ทางที่ดีเราไม่ควรจะทำผิดกฎหมายจะเป็นการดีกว่า
🔔 หากบทความนี้ประโยชน์ท่านสามารถ กด Like 👍กด Share 🤳และ กด Follow👥 เหลา กับ LAW เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา และท่านจะได้ไม่พลาดสาระน่ารู้จากเรา
คำพิพากษาฎีกา 378/2479
คำพิพากษาฎีกา 3861/2547
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.thairath.co.th/news/society/1660880
บันทึก
3
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย