19 ม.ค. 2021 เวลา 00:32 • การศึกษา
สรรพสิ่งสิ้นสุดที่วิบัติ สรรพสัตว์สิ้นสุดที่ความตาย
ในโลกเราล้วนมีสรรพสิ่งมากมายทั้งที่มีวิญญาณครองและไม่มีวิญญาณครองล้วนมีการเกิด-ดับเป็นเรื่องธรรมดาของแต่ละสรรพสิ่ง ตามที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นถูกกลืนกินด้วยกาลเวลาทำให้สรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลตามเวลา และสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เป็นไปจึงทำให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลง
ในพระพุทธศาสนามีหลักสัจธรรมหรือคำสอนที่สำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไตรลักษณ์เป็นหลักคำสอนที่สำคัญประการหนึ่งที่มุ่งให้ระลึกถึงความเป็นปกติธรรมดาของสรรพสิ่งบนโลก สอดรับกับคำว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นอาการสามัญของทุกสรรพสิ่งทั้งนามธรรม และรูปธรรม
ไตรลักษณ์ 3 คือ ความเป็นของไม่เที่ยง หมายถึง ความไม่เที่ยง ความไม่ถาวรคงที่แน่นอน ความไม่คงที่อยู่ได้ในสภาพเดิมตลอดไป ภาวะที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมสลายแปรปรวนไป กล่าวคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่มีสิ่งใดหยุดนิ่งคงที่อยู่อย่างเดิมได้ตลอดไป ขึ้นอยู่กับว่าจะเปลี่ยนแปลงช้าหรือเปลี่ยนแปลงเร็วเท่านั้น แต่ที่แน่ๆ ก็คือสิ่งต่างๆ ทั้งหมดจะถูกกาลเวลาทำให้เปลี่ยนแปลงเปลี่ยนสภาพไปอย่างแน่นอน สิ่งใดมีการเกิดขึ้นในตอนต้น สิ่งนั้นแม้จะคงมีอยู่ในท่ามกลาง แต่ก็ยังต้องมีความเสื่อมสลายดับไปในที่สุด นี่นับเป็นสิ่งธรรมดาแท้ของโลกเปรียบเหมือนต้นไม้ตอนแรกก็งอกงามเขียวขจี พออายุได้หลายปีก็กลับกลายเป็นแห้งเหี่ยวรอวันสลายตายไปจากโลก
ในทางพระพุทธศาสนาแบ่ง ไตรลักษณ์ 3 อย่างดังนี้
1. ความไม่เที่ยง คือ ความไม่คงที่ ความไม่ยั่งยืน ความที่เกิดขึ้นแล้วเสื่อมและสลายไป ความที่แสดงถึงความเป็นสิ่งไม่เที่ยงของขันธ์ที่มีวิญญาณครองและไม่มีวิญญาณครอง เรียกว่า อนิจจัง อย่างเช่น พื้นคอนกรีตที่สร้างใหม่ ๆ มีความแข็งแกร่งทนทานพออายุการใช้งานไปหลาย ๆ ปี ก็เสื่อมสลายไปในที่สุด
2. ความเป็นทุกข์ คือ ความที่ถูกบีบคั้นด้วยการเกิดขึ้นและสลายตัว ความที่กดดัน ความฝืนและขัดแย้งอยู่ในตัว เพราะปัจจัยที่ปรุงแต่งให้มีสภาพเป็นอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงไป จะทำให้คงอยู่ในสภาพนั้นไม่ได้ ความที่ไม่สมบูรณ์มีความบกพร่องอยู่ในตัว เรียกว่า ทุกขัง อย่างเช่น แผ่นเหล็กที่มีความทนทานในเบื้องต้น ถูกสนิมกัดกินไปตามการเวลาทำให้ความทนทานไม่เหลืออยู่ผุกร่อนไปในที่สุด
3. ความที่ไม่มีตัวตน คือ ความที่แสดงถึงความไม่ใช่ใคร ไม่ใช่ของใคร ไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใคร ความที่แสดงถึงไม่มีตัวตนที่แท้จริงของมันเอง อาการที่แสดงถึงความไม่มีอำนาจแท้จริงในตัวเลย ความที่แสดงถึงความด้อยสมรรถภาพโดยสิ้นเชิงไม่มีอำนาจกำลังอะไรต้องอาศัยพึงพิงสิ่งอื่นๆมากมายจึงมีขึ้นได้.เรียกว่า อนัตตา อย่างเช่น กระจกแก้วที่ถูกนำมาประกอบขึ้นให้เป็นแผ่น ในที่สุดก็ต้องแตกสลายกับไปอยู่ในสภาพเดิม
ในโลกปัจจุบันนี้ ถ้าเรานำธรรม (ไตรลักษณ์) 3 ข้อนี้ มาใช้ในการดำเนินชีวิตได้เราก็จะไม่ประมาทในการสร้างความดีสะสมบุญเพื่อความเจริญในชาตินี้และชาติหน้า ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังสร้างความดีสะสมบุญทุกท่านทุกคนครับ
ภาพทั้งหมด โดยผู้เขียน
ชอบฝากกดไลน์//กดแชร์//กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจด้วยครับ//ขอบคุณครับ
โฆษณา