Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สบายๆสไตล์เรา (sabai style kengg15)
•
ติดตาม
19 ม.ค. 2021 เวลา 09:20 • ท่องเที่ยว
ทริปโดนเท #ตอนที่4(ตอนจบ)
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายที่จะต้องลาจากกันแล้วสุราษฎร์ธานี เพลนวันนี้คือจะต้องตื่นไปกินติ่มซำเจ้าอร่อยแถวนี้ก็เสิร์จหาจากอินเตอร์เน็ต ถ้ามีเวลาจะไปกินร้านยกเข่งซ้ำอีก(ชอบมาก) แล้วก็จะไปเที่ยวสวนโมกข์ แล้วก็รอเวลากลับ เป็นอันจบทริปนี้
ตื่นเข้ามาล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาที่รีเซฟชั่นถามพนักงานว่าถ้าจะไปสวนโมกข์ต้องไปนั่งรถตรงไหน ได้คำตอบเรียบร้อยก็เดินตามแผนที่ไปหาติ่มซำกิน ไปถึงร้านก็สั่งที่อยากกินมาประมาณนึงพร้อมกับชาร้อน(หวานเจี๊ยบ) ก็นั่งกินไปพร้อมกับมองวิถีชีวิตของคนแถวนี้ในตอนเช้าไปด้วย กินเสร็จเรียบร้อยเดินเล่นแถวนั้นอีกนิดหน่อยก็กลับโรงแรมเตรียมเก็บของ อาบน้ำเพื่อจะได้พร้อมผจญภัยวันสุดท้ายกัน
ติ่มซำกับชาร้อนที่สั่งมากิน ไม่ว้าวมากแต่ก็ถือว่าดี
หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนจะได้เดินทางสะดวกหน่อยขากลับค่อยแวะมาเอาอีกที ก็เดินลัดเลาะมาที่ท่ารถตู้ซื้อตั๋วสองถามเวลาเรียบร้อย ยังพอเหลือเวลาอีกพอสมควรเลยเดินเล่นแถวๆตลาด แล้วก็เลยเถิดมาถึงร้าน ยกเข่ง แน่นอนต้องซ้ำ สั่งมาแค่อย่างเดียวคือ ผักบุ้งไต่ราว เพราะยังอิ่มๆกับติ่มซำอยู่ กินเสร็จก็เดินกลับมาท่ารถตู้ ขึ้นนั่งเรียบร้อย แล้วก็ถึงเวลาล้อหมุน
อร่อยจนต้องซ้ำกับ ผักบุ้งไต่ราว
ใช้เวลาเดินทางพอสมควรรถก็วิ่งมาส่งลงที่หน้าสวนโมกข์ ซึ่งรถก็ยังวิ่งไปต่อยังปลายทางซึ่งไม่แน่ใจว่าไปถึงจังหวัดอะไร ลงรถเรียบร้อยเดินดูร้านค้าแถวนั้นอีกเล็กน้อยส่วนใหญ่ก็มีแต่ไข่เค็มไชยา จากนั้นก็เดินมาถึงทางเข้า ยืนอ่านอะไรนิดนึงแล้วก็เดินเข้าไปสัมผัสแรกเลยคือความสงบและอากาศข้างในเย็นสบาย
หน้าประตูทางเข้าสวนโมกข์
เดินเข้าไปก็จะเจอคำสอนของท่านพุทธทาสมากมายวางและติดไว้ตามที่ต่างๆซึ่งก็หยุดยืนอ่านไปเรื่อยๆเพลินดี มาหยุดแวะที่กุฏิท่านพุทธทาสซึ่งก็ไม่ได้หลังใหญ่โตนักและดูเรียบง่ายไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรมากนัก แล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆจนมาถึง โรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งเป็นสถานที่แสดงผลงานศิลปะที่แฝงปรัชญาธรรมมะเอาไว้ ที่เงียบมากจนดูวังเวงเนื่องจากไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวกันมากนะ
แวะเล่นกับเจ้าถิ่นใกล้ๆกับกุฏิท่านพุทธทาส
โรงมหรสพทางวิญ
เดินดูอะไรต่างๆไปไม่ค่อยเจอผู้คนหรือพระมากนักวนเวียนอยู่ในนั้น เดินบ้างนั่งพักบ้าง รู้สึกว่าใจสงบดีอาจจะเพราะบรรยากาศและคำสอนต่างๆที่ได้อ่านมาระหว่างทาง รู้สึกว่าดีจังที่ได้มาซักครั้งนึงในชีวิต เวลาผ่านไปนานพอสมควรดูเวลาแล้วก็คิดว่าคงจะต้องกลับแล้วล่ะ
คำสอนต่างๆซึ่งมีเยอะมาก
ขากลับเลี้ยวมาอีกทางเพื่อจะไปดูพระอุโบสถของที่นี่และตรงข้างๆกันก็จะเจอสถานที่เผาสังขารของท่านพุทธทาสอยู่ใกล้ๆกันซึ่งต้องเดินขึ้นเนินเขาไปเล็กน้อยแต่ก็หลายเลี้ยว พอเหนื่อยแหละ แล้วขึ้นมาถึงโบสถ์จนได้แล้วก็ต้องแปลกใจกับถาพพระอุโบสถของที่นี่ เพราะว่าไม่มีอะไรเลย มีแค่พระประธานอยู่องค์เดียวโดดๆบนเนิน ดูเรียบง่ายและสงบมากๆ
ถาพพระอุโบสถของสวนโม
หัยกลับไปอีกด้านนึงก็จะเห็นสถานที่เผาสังขารของท่านพุทธทาส ซึ่งก็เรียบง่ายเช่นกัน ยืนดูและคิดอะไรต่างๆตามไปด้วยซักพักก็ได้เวลาเดินลงเขาและจะเดินวนไปอ้อมไปอีกด้านนึง
ตรงนี้คือสถานที่เผาสังขารท่านพุทธทาส
เดินวนมาอีกทางนึงก็เจอกับสระน้ำ ชื่อสระ นาฬิเกร์ นั่งพักดื่มด่ำบรรยากาศของความสงบอีกแป๊บนึง ก็ออกเดินต่อ เลี้ยวมาอีกทาง ก็เจอกับตึกที่จะไวสำหรับให้ พระหรือเณรที่มาปฏิบัติธรรมและเรียนที่นี่จำวัดกัน เส้นทางก็พามาบรรจบกับตรงทางที่เดืนเข้ามาพอดี
สระนาฬเกร์
แล้วก็ได้เวลากลับ โทรไปที่ท่ารถตู้นัดแนะสถานที่และเวลาเรียบร้อยก็เดินออกมา พอพ้นประตูก็รู้สึกเหมือนว่าออกมาอีกโลกนึงที่สับสน ทั้งร้านขายของ รถราที่วิ่งบนถนนขวักไขว่ เราก็เดินช้าๆข้ามสะพานลอยมานั่งรอรถตู้ที่ศาลารอรถซึ่งอากาศค่อนข้างร้อนผิดกับตอนอยู่ในสวนโมกข์มากๆ นั่งรอซักพักรถก็มาถึง รถมีผู้โดยสารเต็มแต่เหลือที่นั่งด้านหลังไว้ให้เราหนึ่งที่ ซึ่งค่อนข้างเบียดนั่งไม่สบายเลยต่างกับขามาอย่างสิ้นเชิง ฮ่าๆๆ คนขับค่อนข้างซิ่งมากจึงใช้เวลาเร็วกว่าที่คิดรถก็พาเรากลับมาถึงตัวเมืองสุราษฎร์โดยปลอดภัย เสร็จแล้วก็เดินกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม ยังมีเวลาอีกพอสมควร เลยตัดสินใจเดินไปร้านนวดแผนโบราณ เพราะว่าก็ค่อนข้างเมื่อยมากทีเดียวกับสองวันนี้ เพราะว่าใช้การ เดินๆๆ เลยนอนให้เค้านวดเท้าให้ 1ชั่วโมง สบายจนหลับไปเลย ฮ่าๆ เสร็จจากนวดเท่าเรียบร้อยก็เดินออกมาหารถเพื่อกลับไปสนามบิน ตัดสินใจเรียกแท็กซี่เพื่อจะได้มีเวลากินข้าวเย็นที่สนามบินอีกซักมื้อนึงก่อนกลับ มาถึงสนามบินเรียบร้อย เช็คอินเสร็จก็เดินหาอะไรกินนิดหน่อยแล้วเดินดูร้านของฝากในสนามบินอีกซักพักก็เดินเข้าไปรอเวลา
แล้วก็ถึงเวลาเครื่องขึ้น ได้เวลากลับจริงๆแล้ว กลับไปเพื่อสู้ชีวิตในเมืองกันต่อไป ระหว่างนั่งอยู่บนเครื่องก็คิดอะไรไปกับสิ่งต่างๆที่เราได้เจอมาในสามวันสองคืนที่สุราษฎร์ คิดไปว่าถ้าครั้งนี้เพื่อนๆที่นัดไว้มากันครบก็คงจะสนุกดีไปอีกแบบนึงเฮฮากันตามประสาเพื่อนๆและก็คงจะไม่ได้เห็นและได้รับมิตรภาพที่ดีจากผู้คนที่เราไปเจอมา ทั้งอาหารการกินทั้งประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้รับมา แล้วก็คิดไปว่าการเดินทางคนเดียวไม่ได้น่ากลัวและน่าเบื่ออะไรเลย กลับได้รับประสบการณ์และความรู้มากมาย ทำให้รู้ว่าเรานี่ตัวเล็กมากๆบนโลกใบนี้ และยังมีอะไรต่างๆให้เราไปสัมผัสอีกมากมายจริงๆ แป๊บเดียวเครื่องก็พาเรามาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ก็เป็นอันจบทริปนี้โดยสวัสดิภาพและอิ่มเอมและประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้จนต้องมาแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนที่ติดตามและไม่ได้ติดตามได้อ่านกันครับ🙏🏻
จบลงเรียบร้อยกับ ทริปโดนเทที่สุราษฎร์ กันครบทั้งสี่ตอน ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะครับ ชอบไม่ชอบ ติชมกันได้ พร้อมรับฟังคำแนะนำเพราะยังใหม่มากกับการเขียนเล่าเรื่องแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ แล้วมาติดตามต่อไปว่าผมจะมีเรื่องราวประสบการณ์อะไรมาแชร์กันให้ได้อ่านอีก หวังว่าเรื่องราวครั้งนี้จะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะครับ และขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ ขอบคุณคนที่อยู่ข้างๆที่คอยให้กำลังใจคอยแนะนำกันมาตลอดนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ🙏🏻🙏🏻🙏🏻💛💙
ภาพบรรยากาศโดยรวมที่ตัวเมืองสุ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย