19 ม.ค. 2021 เวลา 11:17 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
SCHOOL TOWN KING เมื่อระบบการศึกษาฆ่า"ความฝัน"
ตัวอย่าง: https://youtu.be/LGTjmPgAqOA
"ระบบการศึกษาโทษแต่เด็ก
แต่ระบบการศึกษาไม่เคยโทษตัวเอง.."
SCHOOL TOWN KING แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน ภาพยนตร์สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของสองแร็ปเปอร์วัยละอ่อน นนท์ และ บุ๊ค จากเด็กสลัมในชุมชนคลองเตยพลิกชีวิตสู่แร็ปเปอร์ยอดวิวหลักล้าน ชื่อเสียงที่ได้มาเพียงชั่วข้ามคืนจุดประกายแห่งฝันให้สองเด็กหนุ่มอุทิศชีวิตสู่วงการแร็ปเปอร์ ที่เต็มไปด้วยข้อครรหาของผู้ใหญ่ และสายตาของคนในครอบครัว!
SCHOOL TOWN KING เป็นหนังที่มาค่อนข้างถูกเวลา เพราะในปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "เพลงแร็ป" ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกระแสหลัก ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหน จะเพลงช้า หรือเพลงเร็ว ก็มีแร็ปเป็นองค์ประกอบเกือบทุกเพลง เช่นเดียวกับระบบการศึกษาที่มีข่าวฉาวให้เห็นไม่เว้นวัน
ชุมชนคลองเตยคือพื้นที่ในโซนกรุงเทพฯ ที่มักจะถูกมองข้าม และเต็มไปด้วยชื่อเสียงด้านลบไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพชีวิต ค้ายา ไปจนถึงอาชญากรรมต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ทำให้เห็นชัดถึงการถูกแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจนในเมืองกรุง ซึ่งแน่นอนว่า ในชุมชนแห่งนี้ไม่ได้มีแต่ด้านลบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เหล่าผู้คนในชุมชนต่างก็ดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป และตะเกียกตะกายให้ตัวเองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเช่นเดียวกันกับ บุ๊ก และ นนท์ นักเรียนมัธยมที่ตั้งใจว่าจะทำสิ่งที่พวกเขารัก เพื่อให้ครอบครัวของเขาอยู่อย่างสุขสบายในอนาคต
แต่เพราะสิ่งที่ นนท์ และ บุ๊ก รักไม่ใช่กระแสหลักในไทย แถมถูกเคลือบด้วยภาพลักษณ์ที่ก้าวร้าวเกินวัย ซ้ำร้ายพวกเขายังเป็นเพียงแค่เด็กชายวัยละอ่อนที่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการศึกษา และแบกรับความคาดหวังจากครอบครัวให้เติบโตมากกว่าที่พ่อและแม่ของพวกเขาเคยเป็น ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่พวกเขารักที่จะทำ อาจเป็นเพียงกระแสที่ผ่านเข้ามาไม่นานแล้วก็หายไปอย่างรวดเร็วตามความนิยมของคนไทยแบบ "มาเร็วไปเร็ว" นั่นทำให้ทั้งสองคนต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก
SCHOOL TOWN KING ไม่ใช่แค่พาคนดูไปสัมผัสการเติบโตของสองแร็ปเปอร์ และอีกมุมหนึ่งของชุมชนคลองเตยเท่านั้น หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงคือการสะท้อนปัญหาของระบบการศึกษาอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการทำให้เห็นว่าระบบการศึกษา สร้างกรอบและค่านิยมให้กับคนไทยอย่างรุนแรง จนถึงขั้นดับฝันและความตั้งใจของเด็ก ๆ หลายร้อยชีวิตลงไปอย่างง่ายดาย
SCHOOL TOWN KING ทำให้เห็นว่าระบบการศึกษาทำให้เด็กมีความสามารถบางคนกลายเป็นเด็กไร้ค่า เพียงเพราะความสามารถของพวกเขาไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในการเรียนการสอน และแย่กว่านั้นบุคลากรทางการศึกษาเองยังเพิ่มค่านิยมแบบผิด ๆ ให้กับเด็ก ๆ ด้วยการสอนว่าคนไม่เรียนหนังสือคือ "คนไม่ดี" หรือ "โจร" ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงโอกาสของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน และแต่ละคนก็มีความเก่งไม่เหมือนกัน
ในขณะที่ บุ๊ค และ นนท์ ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก จนกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ และคุณภาพชีวิตค่อย ๆ ถูกพัฒนาขึ้น แต่สังคมรอบข้างกลับมองว่าเขาทั้งสองคนเป็นเพียงแค่เด็กเกเรที่ไม่สนใจการเรียนเพียงเท่านั้น (ทั้ง ๆ ที่บุ๊คเคยเป็นหนึ่งในคนที่เรียนเก่งมาก ๆ ของชั้นปีด้วยซ้ำ) ในขณะที่ครอบครัวมองว่าสิ่งที่พวกเขาทำด้วยความรักในวันนี้ วันหน้ามันก็จะค่อย ๆ หมดความสำคัญไปตามช่วงวัย
สองตัวละครหลักอย่าง บุ๊ก และ นนท์ ขับเคลื่อนให้ SCHOOL TOWN KING ไปสู่จุดที่น่าสนใจได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเรื่องราวเดินทางมาสู่ช่วงสุดท้าย ตัวละครทั้งสองกลับถูกพัฒนาและเติบโตไปในทิศทางที่ต่างกันจนเกือบจะสิ้นเชิง พร้อมพาคนดูไปตั้งคำถามว่า "สิ่งที่ระบบการศึกษาคัดสรรให้เราก้มหน้าก้มตา ท่อง จำ และ เรียน มันจำเป็นแค่ไหน ในเมื่อวันหนึ่งบางบทเรียนเราไม่เคยหยิบความรู้ตรงนั้นมาใช้อีกเลย?"
สุดท้ายแล้วใบปริญญาสามารถรับรองว่าคุณเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพได้จริง ๆ หรือเปล่า? หรือมันเป็นเพียงแค่เศษกระดาษที่ระบบมอบให้เราเป็นรางวัลหลังท่องจำเป็นเวลาเกือบครึ่งชีวิต ?
SCHOOL TOWN KING แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน
วันนี้ที่ LIDO CONNECT และ HOUSE SAMYAN เท่านั้น
#จดอ #JUSTดูIT

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา