21 ม.ค. 2021 เวลา 11:09 • ไลฟ์สไตล์
มาสร้างบรรยากาศให้ห้องพร้อม Work From Home ด้วยเทียนหอมกันเถอะ...
ถึงแม้ว่าปี 2020 จะผ่านไปแล้ว อย่างไรก็ตามปี 2021 นี้ เรายังคงต้องรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 กันอยู่ ทำให้เพื่อนๆหลายคนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตมา Work From Home หรือเรียนออนไลน์กันเหมือนเดิม แต่หากอุดอู้อยู่แต่ในห้องด้วยบรรยากาศเดิม ๆ ก็คงจะเกิดความรู้สึกเบื่อ จนรู้สึกว่าขาดInspirationในการคิดงาน และทำให้การเรียนและการทำงานไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร วันนี้เราจะมาชวนเพื่อนๆ เพิ่ม Inspirationให้กับตัวเอง และเปลี่ยนบรรยากาศในห้องให้ไม่น่าเบื่อด้วยเทียนหอมอโรมากันค่ะ
ศาสตร์แห่งการบำบัดด้วยกลิ่น กับ เทียนหอม
สุคนธบำบัด (Aromatherapy) หรือ การใช้กลิ่นหอมเพื่อบำบัดเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด สุคนธบำบัดถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2471 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส เรเน่มัวริส กาเต้ฟอเซ่ (Rene Maurice Gattefosse) ซึ่งได้ค้นพบคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อของน้ำมันลาเวนเดอร์โดยบังเอิญ และได้รับฉายาว่า "บิดาแห่งสุคนธบำบัด"
โดยส่วนประกอบสำคัญของการใช้กลิ่นมาบำบัดฟื้นฟูร่างกายคือ น้ำมันหอมระเหย (Essential Oil) ซึ่งเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น ดอก ใบ ราก ผล เมล็ด กิ่ง แก่น ยางและลำต้น โดยจะนำมาสกัดจนได้สารที่เข้มข้นที่สามารถนำไปใช้เพื่อสูดดม หรือทาตามผิวหนัง โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า โมเลกุลขนาดเล็กของน้ำมันหอมระเหยจะไปกระตุ้นการทำงานของตัวรับกลิ่นภายในจมูก และสมองส่วนลิมบิก (Limbic) ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์
นอกจากนี้ การสูดดมน้ำมันหอมระเหยยังส่งผลต่อสมองส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น สมองส่วนคอร์เท็กซ์ (Cortex) ที่มีผลต่อการเรียนรู้ ต่อมพิทิวทอรี (Pituitary) ที่ควบคุมระบบฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงสมองส่วนไฮโพทาลามัส (Hypothalamus) ที่ทำให้หลั่งสารเคมีที่ชื่อว่าเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและพฤติกรรมทางเพศ
เพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสาวกเทียนหอมคงจะรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมคะว่า ในเทียนหอมที่เราใช้กันอยู่ จริง ๆ แล้วที่มันมีกลิ่นหอมก็มาจากน้ำมันหอมระเหยนี่แหละค่ะ โดยกลิ่นก็จะมีหลายระดับ หรือที่รู้จักกันว่า "Note" คล้ายน้ำหอมที่เราใช้กัน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น
1. Top Note = กลิ่นแรกที่จมูกจะได้กลิ่น และเป็นกลิ่นที่โดดเด่นที่สุด
2. Middle Note = กลิ่นหลัก จะเป็นกลิ่นที่สองที่จมูกจะได้กลิ่น หลังจากที่กลิ่น Top Note เจือจางไป
3. Base Note = กลิ่นสุดท้าย จะเป็นกลิ่นที่จะอบอวลอยู่ในห้องหลังจากจุดได้นานที่สุด โดยกลิ่นจะเจือจางไม่โดดเด่นเหมือนกลิ่น Top Note แต่จะเน้นความอบอวลและคงทนอยู่ได้นานถึงแม้ว่าจะดับเทียนหอมไปแล้วหลายชั่วโมง
ว่ากันว่าวงการเทียนหอมเข้าแล้วออกยาก ดังนั้นวันนี้เราจะถือโอกาสมาชวนเพื่อนๆเข้าวงการเทียนหอมกันค่ะ หากเพื่อนๆคนไหนกำลังเริ่มต้นเข้าวงการเทียนหอม หรือสนใจเลือกซื้อเทียนหอมอยู่ แต่ยังลังเลไม่รู้ว่าจะเลือกกลิ่นแบบไหนดี วันนี้เรามีตัวช่วยให้เพื่อน ๆ เลือกกลิ่นเทียนหอมได้ถูกใจและตรงตามจุดประสงค์การใช้งานกันค่ะ
1. กลิ่น Citrus
เทียนหอมกลิ่น Citrus จะเป็นกลิ่นที่ได้มาจากผลไม้ตระกูลส้ม และมะนาว โดยกลิ่นจะมีความหวานซ่อนเปรี้ยว ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง ช่วยลดความเครียด และความวิตกกังวล นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นสมอง ช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่งและอารมณ์ดีขึ้น
กลิ่นนี้เหมาะกับใคร
กลิ่น Citrus เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระฉับกระเฉง และต้องการความคิดสร้างสรรค์ เหมาะสำหรับการจุดในห้องทำงานเพื่อช่วยลดความเครียด หรือบริเวณห้องนั่งเล่น ที่มีการสังสรรค์พูดคุย เพื่อช่วยให้ห้องรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถจุดเทียนหอมที่มีกลิ่นของมะกรูด และมะนาวในห้องน้ำได้อีกด้วย เนื่องจากกลิ่น มะกรูด และมะนาวมีคุณสมบัติในการช่วยลดกลิ่นท่อในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
2. กลิ่น Fruity
กลิ่น Fruity จะเป็นกลิ่นที่มีความหอมหวาน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น นอกจากนี้กลิ่นผลไม้ยังช่วยลดความอยากอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูง และของหวานอีกด้วย เนื่องจากกลิ่นผลไม้จะช่วยกระตุ้นให้สมองให้รู้สึกอยากกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น และช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นด้วยค่ะ
กลิ่นนี้เหมาะกับใคร
กลิ่นนี้เหมาะสำหรับการวางในห้องทำงานเพื่อช่วยให้ความผ่อนคลาย และทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่รู้สึกอยากของหวาน หรือหิวตลอดเวลาระหว่างทำงาน ทำให้ขาดสมาธิในการทำงาน กลิ่นนี้จะช่วยลดความหิวระหว่างวันลง และช่วยเพิ่มสมาธิ ทำให้สามารถจดจ่ออยู่กับงานได้มากขึ้นด้วยค่ะ
3. กลิ่น Floral
กลิ่น Floral จะเป็นกลิ่นที่ได้มากจากดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมต่าง ๆ ตัวกลิ่นจะมีความหอมหวาน โรแมนติก และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยกลิ่นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในการนำมาผสมเป็นกลิ่นของเทียนหอมได้แก่
- กลิ่นดอกกุหลาบ : เพิ่มความสดชื่น ช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการทำงาน และช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ โดยในอดีตสมัยโรมันได้มีการนำน้ำมันดอกกุหลาบมาช่วยเพิ่มสมรรถภาพบนเตียงให้กับเพศชายอีกด้วย
- กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ : ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ไมเกรน ช่วยให้จิตใจสงบ รู้สึกผ่อนคลาย
- กลิ่นดอกกระดังงา : ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ทำให้นอนหลับสบาย
- กลิ่นดอกมะลิ : กลิ่นหอมเย็นของมะลิช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกปลอดโปร่ง
กลิ่นนี้เหมาะกับใคร
กลิ่นนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวางในห้องนอน เนื่องจากจะช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาเรื่อง นอนไม่หลับ ปวดหัวไมเกรน หรือความเครียด กลิ่นยอดนิยมอย่างกลิ่นดอกลาเวนเดอร์เป็นกลิ่นที่เหมาะกับคุณอย่างยิ่ง และสำหรับคู่รักที่ต้องการเพิ่มความโรแมนติกให้กัน กลิ่นดอกกุหลาบ และดอกเจอราเนียมจะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งรักได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
4. กลิ่น Herb & Spicy
กลิ่น Herb & Spicy จะเป็นกลิ่นที่ได้มาจากเครื่องเทศ และสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ถึงแม้ว่าชื่อจะฟังดูเผ็ด แต่เทียนหอมกลิ่นนี้ไม่ส่งกลิ่นที่แสบจมูกแต่อย่างใดนะคะ ในทางกลับกับ เทียนหอมกลิ่นนี้จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ตัวกลิ่นจะมีความหรูหราและเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมากอีกกลิ่นหนึ่งเลยค่ะ เช่น
- กลิ่นโรสแมรี่ (Rosemary) มีคุณสมบัติในการช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และยังช่วยในการไล่ยุงและแมลงได้
- กลิ่นสะระแหน่ (Peppermint) : ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว ไมเกรน และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
- กลิ่นยูคาลิปตัส (Eucalyptus) : กลิ่นหอมสดชื่นของยูคาลิปตัสจะช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการคัดจมูก ไข้หวัด และอาการภูมิแพ้
- กลิ่นตะไคร้ (Lemongrass) : กลิ่นหอมสดชื่นของตะไคร้หอมช่วยให้ความผ่อนคลาย ช่วยไล่ยุงและลดกลิ่นอับในห้อง
กลิ่นนี้เหมาะกับใคร
เทียนหอมกลิ่นนี้เป็นอีกกลิ่นที่ใช้ได้หลากหลายจุดประสงค์ สามารถใช้จุดในห้องทำงาน เมื่อต้องการความสดชื่นระหว่างทำงานเพื่อช่วยลดความง่วงระหว่างทำงาน หรือสามารถใช้จุดในห้องนอนเพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อน สำหรับใครที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีอาการคัดจมูกบ่อย ๆ เทียนหอมกลิ่น Eucalyptus จะช่วยลดอาการภูมิแพ้และทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น เทียนหอมกลิ่นHerb & Spicy ยังเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับการจุดเพื่อเพิ่มความผ่อนคลายระหว่างนอนแช่ตัวในอ่างอาบน้ำได้ โดยเฉพาะกลิ่นตะไคร้ (Lemongrass) ที่นอกจากจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังสามารถช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นจากท่อในห้องน้ำได้ และสำหรับบ้านใครมียุงเยอะแต่ไม่อยากจุดยากันยุงที่มีกลิ่นฉุนรบกวนจมูก เทียนหอมที่มีกลิ่นตะไคร้ และโรสแมรี่เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
5. กลิ่น Woody
กลิ่น Woody เป็นกลิ่นที่มีความหรูหรา ให้ความรู้สึกอบอุ่น ช่วยให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล โดยเทียนหอมกลิ่นWoody มักเป็นกลิ่นที่ได้มากจากเนื้อไม้ที่มีกลิ่นหอม เช่น กลิ่นไม้แก่นจันทน์ (Sandalwood) จะช่วยให้จิตใจสงบ รู้สึกผ่อนคลาย กลิ่นไม้กฤษณา (Agarwood) จะช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ และกลิ่นไม้สนซีดาร์ (Cedarwood) ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ และลดความเครียดในช่วงก่อนประจำเดือนของสาว ๆ ได้ด้วยค่ะ
กลิ่นนี้เหมาะกับใคร
ความอบอุ่นของกลิ่น Woody เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการตัวช่วยทำให้จิตใจสงบ เหมาะสำหรับใช้จุดในห้องทำงานเพื่อเพิ่มสมาธิ และเมื่อต้องการความสงบให้กับจิตใจ สำหรับใครที่มีงานที่ต้องใช้การตัดสินใจเป็นประจำ กลิ่นนี้จะช่วยให้คุณคลายความกังวลลง สร้างแรงบันดาลใจและช่วยเพิ่มสมาธิให้คุณได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดนี้ก็เป็นกลิ่นเทียนหอมที่เราภูมิใจนำเสนอให้เพื่อน ๆ ได้ไปลองกัน โดยเทียนหอมก็จะมีหลากหลายแบรนด์ และหลายช่วงราคา ตั้งแต่หลักร้อย ไปถึงหลักหมื่น บางแบรนด์ที่มีราคาแพงมักมีที่มาจากประวัติอันยาวนานของแบรนด์ คุณภาพของสินค้า และราคาของวัตถุดิบบางตัวที่มีราคาแพง โดยน้ำมันEssential Oil บางกลิ่นที่เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เทียนหอมมีกลิ่นต้องสกัดจากวัตถุดิบที่มีราคาแพงจำนวนมาก ด้วยกรรมวิธีที่ซับซ้อน ทำให้ราคาของเทียนหอมชนิดนั้นย่อมมีราคาแพงตามไปด้วย นอกจากกลิ่นหลัก 5 กลิ่นที่เราแนะนำมาในข้างต้นแล้ว ยังมีเทียนหอมกลิ่นอื่น ๆ อีก ที่มีความแปลกใหม่เฉพาะตัว เช่น กลิ่นหนังสือเก่า กลิ่นดินหลังฝนตก กลิ่นทะเล กลิ่นของสุสานโบราณ และกลิ่นสุดแปลกอย่างกลิ่นน้องสาวของผู้หญิง ที่เป็นกระแสมาแรงอยู่ช่วงหนึ่งจากการร่วมมือกันของนักแสดงฮอลลีวู้ดคนดังอย่าง Gwyneth Paltrow และคุณ Douglas Little นักปรุงน้ำหอมของแบรนด์ Heretic ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นนี้ก็ได้ Sold out ไปอย่างรวดเร็วหลังการวางจำหน่ายเพียงไม่นาน
ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะมีคุณสมบัติในการช่วยบำบัด และฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ ไม่ควรจุดเทียนหอมนานเกิน 3-4 ชั่วโมง ควรปรับสมดุลร่างกายด้วยการออกไปรับอาการธรรมชาตินอกบ้านบ้าง นอกจากนี้ควรหมั่นดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจนะคะ
.
โฆษณา