19 ม.ค. 2021 เวลา 13:22 • ประวัติศาสตร์
“เดวิด เรเมอร์ (David Reimer)” โศกนาฏกรรมของเด็กชายที่ถูก “ทดลอง” ให้โตมาอย่างเด็กผู้หญิง
เรื่องราวของ “เดวิด เรเมอร์ (David Reimer)” เป็นเรื่องราวที่น่าหดหู่เรื่องหนึ่ง
เขาเป็นเด็กผู้ชาย แต่ด้วยการรักษาที่ผิดๆ ทำให้เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างเด็กผู้หญิง ซึ่งส่งผลกับชีวิตของเขาจนนำไปสู่การฆ่าตัวตาย
1
“เดวิด เรเมอร์ (David Reimer)” หรือชื่อในตอนเกิดคือ “บรู๊ซ เรเมอร์ (Bruce Reimer)” เกิดที่แคนาดาในปีค.ศ.1965 (พ.ศ.2508) โดยเขามีพี่ชายฝาแฝดชื่อ “ไบรอัน (Brian Reimer)”
1
สองพี่น้องเรเมอร์
สองพี่น้องนั้นสุขภาพแข็งแรงดี แต่ขณะที่มีอายุได้แปดเดือน ทั้งคู่เริ่มมีปัญหาด้านการขับถ่ายปัสสาวะ เป็นภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ
1
พ่อแม่พาทั้งคู่ไปทำการขลิป หากแต่ในรายของบรู๊ซนั้น เกิดความผิดพลาด ทำให้อวัยวะเพศมีปัญหา ในขณะที่ไบรอันนั้นขลิปสำเร็จ
3
พ่อแม่นั้นพยายามหาวิธีที่จะช่วยบรู๊ซ และก็ได้เห็นนักจิตวิทยาชื่อ “จอห์น มันนี (John Money)” ออกรายการโทรทัศน์
1
จอห์น มันนี (John Money)
มันนีได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นคว้าเรื่องเพศ และมีความเชี่ยวชาญทางด้านเด็กที่เป็นอินเตอร์เซ็กส์ คือไม่สามารถระบุเพศได้
1
เรเมอร์ได้เขียนจดหมายหามันนี อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชาย และได้พาลูกชายไปหามันนีถึงสหรัฐอเมริกา
มันนีเชื่อว่าลักษณะทางเพศของคนเรา มาจากโครงสร้างของสังคมแวดล้อมและการเลี้ยงดู และเชื่อว่าการจะระบุเพศ เป็นสิ่งที่สามารถสอนกันได้
2
มันนีได้ลงความเห็นให้บรู๊ซเข้ารับการตัดอัณฑะและให้เลี้ยงดูบรู๊ซอย่างเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง โดยครอบครัวจะไม่เล่าให้บรู๊ซฟังว่าที่จริงเขาเป็นผู้ชาย
2
พ่อแม่ของบรู๊ซตกลง และการผ่าตัดก็เริ่มขึ้นในปีค.ศ.1967 (พ.ศ.2510) ก่อนวันเกิดอายุสองขวบของบรู๊ซ
2
บรู๊ซในวัยเด็ก
นี่นับเป็นโอกาสดีที่มันนีจะได้ทดลองทฤษฎีของตนด้วย แต่ในเวลาต่อมา เขาจะได้เห็นว่าทฤษฎีของเขานั้นผิด
1
ตั้งแต่นั้นมา บรู๊ซก็ถูกเลี้ยงดูในฐานะของ “เบรนดา เรเมอร์ (Brenda Reimer)”
เบรนดาได้รับเอสโตรเจนเพื่อให้ร่างกายมีลักษณะของเพศหญิง โดยพ่อแม่จะพาเขาและไบรอันกลับไปให้มันนีตรวจทุกปี เพื่อตรวจดูพฤติกรรมต่างๆ
5
มันนีได้บันทึกว่าเบรนดานั้นมีความละเอียด รอบคอบกว่าไบรอัน และเบรนดายังมีความดื้อกว่าไบรอัน มีลักษณะของทอมบอย
มันนีได้บันทึกว่ากรณีของเบรนดานั้นคือความสำเร็จ และได้ออกหนังสือบรรยายความสำเร็จ หากแต่เบรนดาไม่รู้สึกอย่างนั้น
เบรนดาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าตนนั้นรู้สึกอึดอัด ตนนั้นอยากวิ่งเล่น ปีนต้นไม้ เล่นอะไรที่เด็กผู้ชายเล่น แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะตนเข้าใจว่าตนคือผู้หญิง
แม่ของเบรนดาก็เห็นและเข้าใจดี โดยแม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าครั้งแรกที่ให้เบรนดาใส่ชุดเดรส เบรนดาก็โมโหมากและฉีดเสื้อทิ้ง
2
ไม่เพียงแค่ที่บ้าน แต่ที่โรงเรียน เบรนดาก็มีปัญหา โดยเบรนดามักจะถูกเพื่อนล้อ เนื่องจากถึงแม้จะดูเป็นผู้หญิง แต่ก็มีกล้ามเนื้อเหมือนผู้ชาย และยังถนัดที่จะยืนปัสสาวะ
ความลับและกดดันของเบรนดา ทำให้ทั้งครอบครัวเครียด พ่อก็เริ่มจะติดเหล้า แม่ก็พยายามจะฆ่าตัวตาย ส่วนไบรอันก็เริ่มจะมีปัญหาลักเล็กขโมยน้อยและทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เมื่อฝาแฝดทั้งคู่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แพทย์คนอื่นๆ ก็ได้แนะนำให้พ่อและแม่พูดความจริงกับลูก พ่อจึงตัดสินใจเล่าความจริงให้เบรนดาและไบรอันฟัง
ภายหลังจากที่ทราบความจริง เบรนดาก็เลือกที่จะใช้ชีวิตในฐานะของผู้ชาย และใช้ชื่อ “เดวิด (David)” และได้เข้ารับการผ่าตัดและกินฮอร์โมนเพื่อทำให้ตัวเองกลับมาใกล้เคียงความเป็นชายให้มากที่สุด
หากแต่ความหดหู่และกดดันก็ได้ส่งผลต่อสุขภาพ และขณะที่มีอายุได้ 20 ต้นๆ เดวิดก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง หากแต่ไม่สำเร็จ และต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า
3
แต่ถึงอย่างนั้น เดวิดก็ได้มีความรัก และแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อ “เจน (Jane)” ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันถึง 14 ปี และเดวิดก็ได้เป็นพ่อเลี้ยงให้ลูกๆ ของเจน
1
เดวิดและเจน
แต่ความหดหู่ ซึมเศร้าของเดวิด ก็ได้พรากชีวิตเขาไป
ในปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547) เดวิดได้ฆ่าตัวตายด้วยวัย 38 ปี
เรื่องราวของเดวิด นับเป็นเรื่องราวที่ชวนหดหู่ และยังเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้
โฆษณา