ฮาเร็ม(Harem)คืออะไร❓
ใช่สวรรค์ของท่านชายอย่างที่คิด
ไว้หรือเปล่า❓
หากเอ่ยว่า ฮาเร็ม(Harem) คนส่วนใหญ่จะนึกถึงอะไรครับ?🤔
นึกถึงสาวงามนับสิบ นับร้อย
นึกถึงห้องหับประดับ ประดาสวยหรู
นึกถึงคนรับใช้ขวักไขว่ ยั้วเยี้ย
นึกถึงอาหาร เครื่องดื่มเครื่องหอมมากมายก่ายกอง
และนึกถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดสิบเจ็ดของท่านชาย....🤤✌️
..
เราจะนึกถึงกันแบบนี้ใช่ไหมครับ
ถ้ามีคนเอ่ยถึงคำว่า"ฮาเร็ม"
..
ภาพในจินตนาการของฮาเร็ม
เริ่มต้นของทุกคนอาจจะออกไปในแนวนิยายอาหรับ ที่มีท่านสุลต่านผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าของฮาเร็ม ได้รับการปรนนิบัติพัดวีจากสาวงามรอบกาย ไม่ต่างจากสนมนางในขององค์ฮ่องเต้ในหนังจีน
..
แล้วท่านคิดว่าฮาเร็มจริง ๆ จะใช่แบบที่เราคิด แบบที่จินตนาการกันเหมือนในภาพยนต์ฮอลลีวู้ดหรือเปล่า?
..
มาครับ
วันนี้ผมจะพาไปแอบดู👀 ฮาเร็ม
ในประวัติศาสตร์ ว่า..
ฮาเร็มที่ว่า ใช่สวรรค์ชั้นเจ็ดสิบเจ็ดของท่านชายจริงหรือไม่?
..
เรามาเริ่มต้นจากความหมายของคำว่า"ฮาเร็ม"กันก่อน
Harem ในภาษาอังกฤษ มาจากคำว่า
harim หรือ haramในภาษาอารบิก ซึ่งแปลได้ว่า ต้องห้าม ได้รับความคุ้มครอง อันหมายถึงพื้นที่ส่วนแยกออกมาสำหรับผู้หญิง
อ้างถึงข้อเขียนของ Alev Lytle Croutier นักเขียนเชื้อสายตุรกี เจ้าของหนังสือ Harem: The World Behind the Veil
ซึ่งเธอเองนั้นมีบรรพบุรุษเคยพำนักอยู่ในฮาเร็มในตุรกี
เธอได้ให้ความหมายคำว่า ฮาเร็มไว้
3 ความหมาย คือ
1).พื้นที่แยกไว้สำหรับคุ้มครองสตรี
2).หมายถึงคำว่าภรรยา
3).สถานเพื่อความสำราญของผู้ครอบครอง
..
ฮาเร็ม กำเนิดขึ้นเมื่อไหร่?
ตามหลักฐาน มีการคาดคะเนว่า ฮาเร็ม ถือกำเนิดขึ้นราวศตวรรษที่ 13 ในยุคที่อาณาจักรออตโตมันเรืองอำนาจ
โดย ฮาเร็ม ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามความเชื่อของศาสนาอิสลาม
(เป็นความเชื่อ แต่มิได้มีบทบัญญัติในคัมภีร์ศาสนา)ที่ต้องการแยกเพศหญิงออกจากเพศชาย เพื่อการปกป้อง คุ้มครอง ซึ่งเรื่องนี้ย่อมต้องเป็นหน้าที่ของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว
พื้นที่ที่ถูกจัดสัดส่วนให้เป็นฮาเร็มจึงไม่ได้มีเฉพาะในพระราชวังสุลต่านหรือขุนนาง คหบดีผู้ร่ำรวยเท่านั้น
ในครอบครัวธรรมดาก็มีฮาเร็มได้
เพราะเป้าประสงค์หลักคือการกันผู้หญิงในการปกครองให้อยู่ห่างจากชายอื่นใด ที่มิใช่คนในครอบครัวเท่านั้น
..
ถึงแม้ฮาเร็มจะเต็มไปด้วยผู้หญิงและข้ารับใช้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอดีตฮาเร็มนี่แหละคือตัวแปรทางการเมืองชั้นดี
เพราะหลังจากหมดยุคการล่าสัตว์
เมื่อมนุษย์เริ่มหัดทำเกษตรกรรม แรงงานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงเผ่าพันธ์ุ
ค่านิยมการมีภรรยาหลายคนถูกระบุอยู่ในหลายความเชื่อทางศาสนา เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายแห่งชนเผ่าและวงศ์ตระกูล
อันรวมไปถึงการแต่งงานระหว่างคนของสองอาณาจักรเพื่อขยายอำนาจทางการเมือง
..
เมื่อในแต่ละฮาเร็มเต็มไปด้วยเหล่าภรรยามากมายของผู้ปกครองฮาเร็ม โดยเฉพาะฮาเร็มของคนระดับสุลต่านหรือเจ้าผู้ครองนคร
การเมืองเรื่องแย่งชิงอำนาจระหว่างเหล่ามเหสี นางสนมและนางบำเรอทั้งหลายย่อมเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น
..
ในฮาเร็มของสุลต่านจะมีการแบ่งลำดับขั้นการปกครองไว้ดังนี้
ผู้ยิ่งใหญ่สุดในฮาเร็มหากไม่นับองค์สุลต่านก็คือพระราชชนนีหรือแม่ของสุลต่าน
รองลงมาคือพระมเหสีที่ให้กำเนิดพระธิดาองค์แรก เรียกว่า "บาส คาดิน เอเฟนด์"
อันดับต่อมาคือสนมที่ให้กำเนิดบุตร ธิดา ให้แก่สุลต่าน เรียกว่า "อิค บาลเลอร์"
อันดับที่สี่ คือนางทาสรับใช้ที่รู้ใจสุลต่านสุด ๆ เรียกว่า "เกดิคลี คาดินลาร์"
อันดับรองสุดท้ายคือ นางทาสที่สุลต่านถูกใจโดยบังเอิญ และให้สามารถกำเนิดบุตร ธิดาแก่สุลต่าน
เรียกว่า "โอดา ลิคลาร์"
สุดท้าย ท้ายสุด คือ"กอสเด" นางทาสที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรแก่สุลต่านได้
..
พอจะรู้จักที่มา ที่ไป รูปแบบความเป็นไปของ"ฮาเร็ม"Harem กันพอสมควรแล้วนะครับ
คราวนี้จะพาไปรู้จัก สุดยอดฮาเร็มอันดับที่ 1 ในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาซึ่งก็คือ ฮาเร็มของสุลต่าน กียาส อัด ดิน ในช่วงศตวรรษที่ 15
ฮาเร็มของสุลต่านกียาส อัดดิน ขึ้นชื่อว่าเป็นฮาเร็มที่มีสาว ๆ มากที่สุดในประวัติศาสตร์คือมีมากถึง 15,000 คน😬
ด้วยเหตุผลที่องค์สุลต่านท่านนี้ เป็นนักรบมาเกือบครึ่งชีวิตก่อนจะขึ้นครองราชย์
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาพักจากการรบราฆ่าฟัน ท่านจึงได้สร้างเมืองแห่งใหม่เพื่อใช้เป็นฮาเร็มโดยเฉพาะ ชื่อว่าเมืองจาฮาซ เมฮัล
ภารกิจประจำวันในฮาเร็มคือจะมีสาวงามนับร้อยหรือบางวันถึงพันคน เดินเรียงแถวผ่านหน้าองค์สุลต่าน เพื่อให้ท่านพินิจพิจารณา
หากองค์สุลต่านถูกใจสาวงามคนใด สาวงามคนนั้นจะถูกนำพาไปอาบน้ำ แต่งองค์ทรงเครื่อง ที่ห้อง"เตอร์กีช บาธ" เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับใช้องค์สุลต่าน
..
มีการคำนวณว่า ต่อให้องค์สุลต่านเรียกสาวทุกคนไปรับใช้ เคียงหมอนเพียงคนละ 1 คืน พระองค์ต้องใช้เวลาถึง 41 ปีเศษ ถึงจะครบทุกคน...
..ฟังแล้วหนักใจแทนจริง ๆ...😬
..
เป็นไงบ้างครับ อ่านแล้ว..
ท่านคิดเห็นอย่างไรกับ"ฮาเร็ม"
จากแนวคิดที่สร้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อทางศาสนาสู่ดินแดนลึกลับทางกามารมณ์ต้องห้าม
ในประวัติศาสตร์สถานที่คล้าย ๆ ฮาเร็ม ไม่ได้มีเฉพาะในดินแดนอย่างอาหรับเท่านั้น แต่ในแผ่นดินจีน ในยุโรปหรือสยามเอง ต่างก็เคยมีฮาเร็ม
..
ยังมีอีกหลายเรื่องราวความเป็นไปของฮาเร็มที่ยังไม่ถูกเปิดเผยหรือยังค้นไม่พบหลักฐาน
ในฮาเร็มอาจจะมีทั้งเรื่องดี ๆ และเรื่องเลวร้ายให้ได้พิศวงกันต่อไปก็เป็นได้ ใครจะไปรู้...
..
ขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบจาก unsplash
ติดตามอ่านบทความได้ที่
- 18
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
