Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ThaiTechTalk
•
ติดตาม
20 ม.ค. 2021 เวลา 04:29 • ธุรกิจ
ทำไม Elon Musk ถึงได้เป็นหน้าตาของบริษัท Tesla ถึงเเม้จะไม่ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งก็ตาม !!!
หลังจากที่ตำเเหน่งของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้เปลี่ยนขึ้นมาเป็นนาย Elon musk (เมื่อวันที่ 14/1/2021 จากนิตยสาร Forbes) เเทนที่ Jeff Bezos เจ้าของ Amazon ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ $203 พันล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท)
1
ส่วนสำคัญของเหตุการณ์นี้มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของหุ้นบริษัท Tesla ที่ตัว Elon ถึงครองอยู่ถึง 22% ถึงเเม้เจ้าตัวจะมีหุ้นบริษัท Tesla มากขนาดนี้ เเต่ Elon musk นั้นไม่ได้เป็นผู้ที่ก่อตั้งบริษัท Tesla ตั้งเเต่วันเเรก เเล้วทำไม Elon ถึงได้มีบทบาทมากขนาดนี้
เดี๋ยววันนี้ ThaiTechTalk จะมาเล่าวีรกรรมของเขาให้ฟังกันคับบ (Special Ep.นี้ ยาวหน่อยนะคับบ )
2
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.2003 ที่เมืองซิลิคอนวัลเลย์ วิศวกรหนุ่มสองคนนามว่า มาร์ติน อีเบอร์ฮาร์ด เเละ มาร์ก ทาร์เพนนิงได้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพรถไฟฟ้าชื่อ "เทสล่า มอเตอร์" ขึ้นมา โดยตั้งชื่อตามบิดาเเห่งวงการวิศวกรรมไฟฟ้าชาวเซอร์เบียร์อย่าง นิโคล่า เทสล่า ซึ่งทั้งสองคนมองเห็นโอกาศในตลาดรถไฟฟ้า(EV) จากที่บริษัทรถยักใหญ่อย่าง GM Motor ได้ยกเลิกการผลิตรถ EV ออกไป
1
ทั้งสองคนได้วนเวียนมาพบกับอีลอน มัสก์ ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเขาสู่ช่วงหาทุน (Raise Fund) ขณะนั้น อีลอน พึ่งจะเป็นเศรษฐีหน้าใหม่ จากการที่บริษัททางการเงินของเขาอย่าง
X.com
รวมตัวกับบริษัทคู่เเข่งอย่าง PayPal เเละถูกบริษัท Ebay เข้าซื้อ Paypal ไปในปี ค.ศ.2002 อีลอน ได้รับเงินจากดีลนี้ถึง $180 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 5400 ล้านบาท) เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก
1
เเต่เเทนที่เขาจะเสวยสุขกับเงินที่เขาใช้ไม่มีวันหมดนั้นเขากลับเลือกที่จะนำเงินทั้งหมดที่ได้มาจากดีลไปลงทุนในกิจการใหม่เเทน โดย 100 ล้านลงไปก่อตั้งบริษัทจรวด SpaceX เเละ 10 ล้านลงทุนในบริษัทโซล่าเซลล์ Solar City เเละสุดท้ายอีก 70 ล้านในบริษัทเทสล่าของมาร์คเเละมาร์ตินเเละได้ขึ้นมานั่งเป็นบอร์ดบริหารของเทสล่านั้นเอง
4
ภายหลังจากการลงทุน เทสล่าได้ปล่อยรถรุ่นเเรกในปี ค.ศ.2006 เป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าสุดหรู รูปร่างสวยงามโดยใช้ชื่อว่า "โรสเตอร์(Roaster)" ทว่าภายหลังจากการปล่อยตัวรถกลับถูกร้องเรียนปัญหาอย่างมาก ทั้งเรื่องคุณภาพของตัวรถ เเละปัญหาการผลิต ทำให้มาร์ติน อีเบอร์ฮาร์ด ต้องลงจากตำเเหน่ง CEO ของบริษัท เเละ ณ ขณะนั้น บริษัทเทสล่ากำลังจะใช้เงินลงทุนหมด
2
เพราะโดยตอนเเรกเทสล่าตั้งเป้าในการผลิต โรสเตอร์ไว้ที่ 25 ล้านดอลล่าร์ เเต่งบกลับบานปลายเป็น 140 ล้านดอลล่าร์ ตัวบริษัทเหลือเงินเพียง 9 ล้านดอลล่าร์ในการขับเคลื่อนบริษัทต่อไป ภายหลังจากการเปลี่ยน CEO มาหลายคนบริษัทก็ดูจะไม่ดีขึ้น สตาร์ทอัพรถไฟฟ้าตัวนี้ดูเหมือนจะต้องปิดตัวลง ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจ subprime ปี 2008* ในอีกส่วนหนึ่งของอีลอน การปล่อยจรวดทั้ง 3 ครั้งของ SpaceX ก็ล้มเหลว หนำซ้ำภรรยาของเขาก็จะหย่ากับเขาอีกด้วย (อีลอนเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ช่วงปี 2008 เป็นปีที่เเย่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้)
ทุกอย่างที่เขาทุ่มเทที่จะเสี่ยงกำลังจะจบลง...
เเต่กระนั้นเองอีลอน กลับไม่ยอมที่จะหนีปัญหา เขาเลือกที่จะขึ้นมาคุมบังเหียนเป็น CEO ของเทสล่า เขาได้เข้ามาเเก้ปัญหาเรื่องเงิน โดยลดปริมาณพนักงาน ควบคุมต้นทุน เเละหาทุนเข้ามาเพิ่มในบริษัททั้งจากการเงินทุนของเขาเองเเละขายหุ้นบริษัทอีก 10% ให้บริษัทรถ Daimler เป็นเงิน 50 ล้านเหรียญเเละนับเป็นโชคของเขาเทสล่าได้รับเงินกู้มูลค่า 465 ล้านเหรียญจากนโยบาลพัฒนาพลังงานสะอาดของรัฐอีก
1
โดยหลังจากยื้อบริษัทให้อยู่ต่อได้ไม่นานบริษัทเลือกที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ด้วยราคาหุ้นละ 17 เหรียญต่อหุ้นในปี 2010 เพื่อเพิ่มทุนอีกครั้ง ถึงเเม้การล่มเหลวในการผลิตรุ่นโรสเตอร์ เทสล่าได้ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเท่เเละทันสมัยให้กับรถไฟฟ้าไปเรียบร้อยเเล้ว
จากนั้นเทสล่าก็ได้ช๊อคโลกโดยปล่อยรถรุ่นโมเดล S ขึ้นมาโดยเป็นรถซีดานไฟฟ้ารูปร่างสง่างามที่ราคาถูกกว่าโรสเตอร์มากเเต่ก็ยังคงเป็นรถที่เเพงกว่าตลาดอยู่มาก ซึ่งต่อจากนั้นบริษัทก็ต้องพบกับช่วงเกือบล้มละลายอีกหลายครั้งจากปัญหาการผลิตรถไม่ทันความต้องการในปี 2013 (Model 3) เเละปี 2018 (Model X/Model Y) เเต่ในทุกๆครั้งทุกคนที่จองรถของเทสล่าก็ไม่เคยที่จะต้องสงสัยในตัว อีลอน มัสก์ เลยเเม้เเต่น้อย เพราะทุกคนรู้ว่าอีลอน ต่อสามารถเเก้ไขมันกลับมาได้นั้นเอง
1
เเละภายหลังจากปี 2018 รถทั้งหมดก็สามารถจะส่งมอบได้ตามกำหนด โดยเฉพาะ Model Y นั้นถูกส่งมอบก่อนกำหนดเสียด้วยซ้ำ !
ในทุกวันนี้เทสล่านั้นเป็นมากกว่าบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าธรรมดาเสียเเล้ว เทสล่ากลายเป็นบริษัทผู้นำทางด้านรถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับ(Fully-autonomous car) ผู้นำในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า เเละระบบการเเชร์รถยนต์อัตโนมัติ (Robo Taxis) เเละอีกมายนับไม่ถ้วนนั้นส่งผลให้หุ้นของเทสล่าพุ่งทยานไปถึง 880 ดอลล่าต่อหุ้นเลยทีเดียวในปี 2020 (เพิ่มขึ้นถึง 5400% ใน 10 ปี) เเละยังถูกมองว่าไปได้มากกว่านี้อีกหลายเท่าอีกด้วย !!!
1
จะเห็นได้ว่าอีลอน มัสก์นั้นมีส่วนในบริษัทของเทสล่ามากเเค่ไหนถึงเเม้ว้าจะไม่ได้เป็นผู้คิดค้นไอเดียนี้ขึ้นมาตั้งเเต่เริ่ม ทั้งในมุมของ ความที่จะกล้าเสี่ยง กล้าลงทุนไปกับบริษัท วิสัยทัศน์ การสร้างหน้าตาของบริษัท เเละการบริหารในเเต่ละส่วนของบริษัท จึงเป็นสาเหตุที่ผมคิดว่า "Elon Musk เป็นฮีโร่ของ Tesla นั้นเอง !!!"
1
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคับบ
เขียนโดย Sam
อ้างอิง
-Tesla, Inc. - Wikipedia
-หนังสือ: อีลอนมัสก์ เขียน แอชลีย์ เเวนซ์ แปล จันดารัตน์
-Elon Musk reveals how he saved Tesla from bankruptcy while ramping up Model 3 production | Financial Post
1
3 บันทึก
10
2
4
3
10
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย