21 ม.ค. 2021 เวลา 02:40 • ธุรกิจ
รู้จัก Chick-fil-A ร้านฟาสต์ฟูด ที่ขายดีกว่า Burger King และ KFC ในสหรัฐฯ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การดูแลสุขภาพเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น
ส่งผลให้ร้านอาหารฟาสต์ฟูด ยอดขายหดตัวลง ไม่เว้นแม้แต่ McDonald’s ที่เป็นเจ้าตลาดนี้
แต่ในสหรัฐอเมริกา กลับมีร้านแซนด์วิชไก่ทอดรายหนึ่ง ชื่อว่า “Chick-fil-A”
กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง จนมียอดขายแซงหน้าเชนฟาสต์ฟูดที่คนส่วนใหญ่รู้จัก อย่าง Burger King และ KFC ไปแล้ว
Chick-fil-A ทำอย่างไรถึงขายดี จนเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ๆ ได้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Chick-fil-A เป็นเชนร้านอาหารฟาสต์ฟูด
ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1946 หรือเมื่อ 75 ปีที่แล้ว โดยคุณ Samuel Truett Cathy
จริงๆ แล้ว คุณ Cathy เริ่มต้นธุรกิจจากการเปิดร้านอาหารทั่วไป ชื่อว่า Dwarf Grill
แต่ต่อมา เขาได้คิดค้นเมนูแซนด์วิชไก่ทอดขึ้นมา ซึ่งได้รับความนิยมมาก และสามารถเสิร์ฟได้เร็วพอๆ กับร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังร้านอื่นๆ
ทำให้ในปี 1967 เขาจึงตัดสินใจรีแบรนด์ร้านใหม่เป็น “Chick-fil-A”
ซึ่งดัดแปลงมาจากคำว่า Chicken Fillet หรือ เนื้อไก่
เพื่อขายอาหารจานด่วน ที่มีแซนด์วิชไก่ทอดเป็นเมนูหลัก โดยเฉพาะ
Cr. The Chicken Wire
คุณ Cathy เลือกใช้กลยุทธ์การเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าแถบชานเมือง ที่ค่าเช่าไม่แพงมากนัก และผู้บริโภคน่าจะทานอาหารฟาสต์ฟูดบ่อยกว่า
 
ทำให้ชื่อของ Chick-fil-A เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว จนบริษัทสามารถขยายสาขาไปทั้งในและนอกตัวห้าง ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3
ผ่านมาถึงปัจจุบัน Chick-fil-A มีหน้าร้านอยู่ 2,605 สาขา
ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ
และเริ่มทดลองเปิดสาขาในต่างประเทศบ้าง
เช่น แคนาดา, สหราชอาณาจักร และเปอร์โตริโก
ความน่าสนใจของร้านฟาสต์ฟูดแบรนด์นี้
คือมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า ในช่วง 10 ปีหลัง หรือเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี
ซึ่งถือว่าเติบโตได้ดีเลยทีเดียว
 
ปี 2009 ยอดขายในสหรัฐฯ อยู่ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท
ปี 2019 ยอดขายในสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท
1
โดยถ้าลองเปรียบเทียบกับยอดขายของเชนร้านฟาสต์ฟูดชื่อดัง ในตลาดสหรัฐฯ
ร้าน McDonald’s 1.2 ล้านล้านบาท
ร้าน Starbucks 6.4 แสนล้านบาท
ร้าน Taco Bell 3.3 แสนล้านบาท
ร้าน Burger King 3.1 แสนล้านบาท
ร้าน Subway 3.0 แสนล้านบาท
ร้าน KFC 1.4 แสนล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Chick-fil-A กลายเป็นร้านอาหารจานด่วน ที่มียอดขายสูงเป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ
แซงหน้าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่มีลักษณะเมนูใกล้เคียงกันอย่าง Taco Bell, Burger King, Subway และ KFC ไปเรียบร้อยแล้ว
1
Cr. Macomb Daily
และที่น่าสนใจคือ Chick-fil-A ไม่ได้มีจำนวนร้านมากเท่ารายอื่น
คือมีเพียงประมาณ 2,600 สาขา ซึ่งยังถือว่าน้อย
เมื่อเทียบกับ McDonald’s ที่มีมากถึง หลักหมื่นสาขาในสหรัฐฯ
ทำให้บริษัทมียอดขายเฉลี่ยสูงถึง 126 ล้านบาทต่อสาขา ซึ่งมากสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม
1
ขณะที่ผู้นำตลาดอย่าง McDonald’s มียอดขายเฉลี่ย 84 ล้านบาทต่อสาขา และ Starbucks มียอดขายเฉลี่ย 42 ล้านบาทต่อสาขา
ทำให้หลายคนต่างประเมินว่า บริษัทยังมีโอกาสขยายฐานตลาดได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ในพื้นที่ภูมิภาคอื่นของสหรัฐฯ หรือในต่างประเทศ
1
รวมทั้งปัจจุบัน ร้าน Chick-fil-A จะปิดให้บริการในวันอาทิตย์ และวันหยุดคริสต์มาส ตามนโยบายที่คุณ Cathy ปลูกฝังเอาไว้ เพื่อให้พนักงานได้หยุดพักผ่อนและไปเข้าโบสถ์
ซึ่งในอนาคต หากร้านเปลี่ยนมาเปิดในวันหยุดเหล่านั้น ก็คาดการณ์ว่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงสงสัยกันแล้วว่า
อะไร คือสาเหตุที่ทำให้ ร้าน Chick-fil-A ประสบความสำเร็จ?
ปัจจัยแรก คือ คุณภาพของอาหาร
2
Chick-fil-A มุ่งเน้นขายเมนูแซนด์วิชไก่ทอดเป็นหลัก
ทำให้บริษัทสามารถพัฒนาคุณภาพให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ดีกว่าคู่แข่ง ที่ส่วนใหญ่มีเมนูอาหารแบบหลากหลาย
Cr. The Chicken Wire
และที่ผ่านมา Chick-fil-A ยังพยายามแก้ไขจุดอ่อนของฟาสต์ฟูด ที่ถูกมองว่าไม่ดีต่อสุขภาพ
โดยได้วิจัยค้นคว้าเพื่อลดปริมาณไขมันทรานส์ลง และเป็นร้านแรกที่ประกาศว่าใช้ไก่จากฟาร์มเลี้ยงที่ปราศจากสารกระตุ้นหรือยาปฏิชีวนะทั้งหมด ภายในปี 2019
1
ปัจจัยที่สอง คือ คุณภาพของบริการ
1
จากผลสำรวจความพึงพอใจลูกค้าในสหรัฐฯ ต่อแบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟูด
ปรากฏว่า Chick-fil-A ได้คะแนนอันดับ 1 มาต่อเนื่องถึง 6 ปี
โดยร้านมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการบริการด้วยความสุภาพและรวดเร็ว
เนื่องมาจาก บริษัทมีเกณฑ์คัดเลือกผู้ขอรับสิทธิ์แฟรนไชส์ที่ค่อนข้างเข้มงวด
2
โดยแต่ละปีมีผู้ได้รับเลือกแค่ราว 100 คน จากผู้สมัคร 60,000 คน ซึ่งกำหนดให้บริหารได้แค่คนละสาขา และต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างหนัก เพื่อให้ได้คนที่ต้องการดูแลธุรกิจจริงๆ ไม่ใช่แค่ลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทน
ด้วยเหตุนี้ Chick-fil-A จึงกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในธุรกิจฟาสต์ฟูดในสหรัฐอเมริกา จนบรรดาร้านเจ้าตลาดเดิมไม่อาจอยู่นิ่งเฉยต่อไปได้
โดย McDonald’s ประกาศเตรียมเปิดตัวแซนด์วิชไก่ทอดพร้อมกันถึง 3 เมนู ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับมาจาก Chick-fil-A ส่วนทางด้าน Burger King และ KFC ก็ได้เริ่มทดลองวางขายเมนูแซนวิชด์ไก่ทอด เช่นกัน
Cr. Eat This, Not That
ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจมองว่า การสร้างตัวตนในธุรกิจที่เป็นขาลง และมียักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่ อย่างธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟูด คงเป็นเรื่องยากมาก
แต่ Chick-fil-A ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นไปได้
และในบางครั้ง เราไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกด้าน
ขอเพียงแค่หาความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวให้เจอ และพัฒนาสิ่งนั้นให้แข็งแกร่ง
สุดท้าย มันก็อาจทำให้เราประสบความสำเร็จได้
2
เหมือนกับที่ Chick-fil-A ร้านที่เน้นขายแซนด์วิชไก่ทอด
จนตอนนี้ สามารถสร้างยอดขายได้ดีกว่าผู้เล่นรายสำคัญในตลาด อย่าง Burger King และ KFC ในสหรัฐฯ ไปแล้ว..
โฆษณา