Blockdit Logo (Mobile)
TRAVEL Histopast
•
20 ม.ค. 2021 เวลา 15:00 • ประวัติศาสตร์
เท้าดอกบัว ความงานที่สุดแปลกของจีน
ในทุกยุคทุกสมัยความสวยของผู้หญิงนั้นมีอยู่ในทุกที่ ซึ่งแต่ละที่แต่ละยุคสมัยก็มีค่านิยมความงามที่แตกต่างกันออกไปตามความเชื่อของแต่ละที่
ซึ่งในวันนี้เราพูดถึงความสวยงามจากประเทศที่มีประวัติอันยาวนานานและมีเรื่องเล่ามากมาย โดยเราจะพูดถึงความงามของหญิงชาวจีน ในศตวรรษ ที่10 กัน ที่เชื่อว่าผู้หญิงที่มีเท้าเล็กนั้นคือผู้หญิงที่งดงาม ซึ่งการจะเป็นแบบนั้นพวกเธอต้องผ่านอะไร
มาบ้างต้องอดทนขนาดไหนถึงจะได้ความงามเหล่านี้มาครอบครอง
ซึ่งความงามนี้ถูกเรียกว่า เท้าดอกบัว เพราะว่ามันมีลักษณะเหทือนกับดอกบัวแต่คุณคงสงสัยว่าเท้าของเราจะสามารถทำให้เหมือนกับดอกบัวได้หรอและพวกเค้ามีวิธีการทำยังไง วันนี้เราจะมาเล่าถึงเรื่องนี้กัน
เท้าของเด็กหญิงที่ถูกดัด ให้เล็กและเหมือนกับดอกบัว
การมัดเท้าเป็นนั้นเกิดขึ้นครั้งแรกโดยเริ่มกับเด็กสาวในราชวงศ์ถังประเทศจีนเพื่อ
จำกัด การเติบโตตามปกติและทำให้เท้าเล็กที่สุด ถือว่าเป็นคุณภาพที่น่าดึงดูดแต่
ผลของกระบวนการนี้มันเจ็บปวดและคงอยู่ถาวร ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นวิธีการ
แยกแยะเด็กผู้หญิงในชนชั้นสูงจากคนชนชั้นต่ำ
การมัดเท้านี้มีที่มาจากไหน
เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในหมู่นักเต้นชั้นสูงในราชสำนักในช่วงห้าราชวงศ์และสิบก๊กในศตวรรษที่ 10 ของจีนการมัดเท้าจึงค่อย ๆ เป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงของจีนในช่วง
ราชวงศ์ซ่ง ในที่สุดการผูกเท้าก็แพร่กระจายไปสู่ชนชั้นทางสังคมส่วนใหญ่โดย
ราชวงศ์ชิงโดยการปฏิบัติจะสิ้นสุดลงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
การปฏิบัติและการใช้การมัดเท้าแตกต่างกันไปโดยรูปแบบการผูกที่รุนแรงกว่านั้น
อาจพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 16 คิดว่าในช่วงศตวรรษที่ 19 ผู้หญิงจีน 40-50% อาจ
มีเท้าดอกบัวซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 100% ในกลุ่มสตรีชั้นสูงของจีนกลายเป็นสิ่งที่พ่อแม่จัดเตรียมการแต่งงานของลูกชายโดยเลือกจากผู้หญิงที่มีเท้าเล็ก แม้จะมี
ต้นกำเนิดในหมู่นักเต้นและหญิงโสเภณี แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม
ไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังรวมถึงคุณธรรมทางศีลธรรมและความสุภาพเรียบร้อยด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดแรงกดดันจากคนในครอบครัวที่จะดำเนินการกับลูกสาวของตนเพื่อให้มีคุณสมบัติและความงามที่เหมาะสมเป็นสะใภ้ นั้นจึงทำให้เธอต้องถูกทำให้ต้องมีเท้าที่เล็กเพื่อสวมใส่รองเท้าที่ถูกเตรียมไว้ก่อนแล้ว เท้าเล็กมากยิ่งบ่งบอกว่าเธอมีความงามเป็นอย่างมากและก็จะได้แต่งงานเป็นสะใภ้กับผู้ชายที่มีฐานะร่ำรวยมากขึ้น หากผู้หญิงคนไม่ยอมที่จะมัดเท้าให้เป็นดอกบัว ว่ากันว่า จะไม่มีชายคนไหนมาแต่งงาน
ด้วย
1
เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาในจีนและแหล่งข้อมูลดังกล่าวคือ
Friar Odoric ของ Pordenone ที่ไปเยือนจีนตอนเหนือระหว่างปี 1322 ถึง 1328 CE
นักบวชได้บันทึกข้อปฏิบัติว่า
สำหรับผู้หญิงความงามที่ยิ่งใหญ่คือการมีเท้าเล็ก ๆ และด้วยเหตุนี้คุณแม่จึงต้องการให้ลูกของตัวเองมีเท้าที่เล็กจึงได้ทำการมัดเท้าของลูกสาวตั้งแต่เด็กเพื่อให้เท้ามีที่
เล็กเหมือนดอกบัว
Odoric of Pordenoneนักบวชฟรานซิสกันและนักเผยแผ่ศาสนาชาวอิตาลีในยุคกลางตอนปลาย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นดีด้วยในเรื่องนี้เนื่องจากมันเป็นการดัดแปลงฝืนร่างกาย
ตามธรรมชาติและก็มีนยังทำให้ผู้หญิงที่มัดเท้าหล่านี้ไม่สามารถที่จะเดินเหมือนคนปกติทั่วไปมีคนที่คิดจะยกเลิกเรื่องเหล่านี้อยู่หลายครั้ง
ในปีพ. ศ. 2426 Kang Youwei ได้ก่อตั้งกลุ่ม Anti-Foot Binding Society เพื่อต่อสู้กับการมัดเท้าให้ เขาได้ให้ลูกสาวไม่ต้องเข้าทำการมัดเท้าเหมือนกับหญิงชนชั้นสูงคนอื่นเพื่อแสดงเป็นตัวอย่าง แต่อย่างไรก็ตามความคิดเกี่ยวกับการมัดเท้านั้นก็ฝังแน่นเกินกว่าที่จะเอาออกได้
คัง โหย่วเหวย์ นักคิด, นักเขียน และนักปฏิรูปคนสำคัญชาวจีนในช่วงปลายราชวงศ์ชิง
ในปีพ. ศ. 2445 อัครมเหสีซูสีไทเฮาได้ออกคำสั่งต่อต้านการมัดเท้า แต่ในไม่ช้าก็
ถูกยกเลิก
ซูสีไทเฮา ตามภาษาจีนฮกเกี้ยน หรือ ฉือสี่ไท่โฮ่ว เป็นสตรีชาวแมนจูช่วงราชวงศ์ชิง ของจักรวรรดิจีน
ในปีพ. ศ. 2455 ซุนยัดเซ็นได้กระทำการออกกฎหมายว่าเรื่องการมัดเท้าเป็นการกะทำที่ผิดกฎหมายและแต่ไม่ถึงเวลานั้นการปฏิบัตินี้ก็เริ่มหมดไป
ดร. ซุน ยัตเซ็น เป็นนักประชาธิปไตยและนักปฏิวัติ ผู้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "บิดาของชาติ" ในสาธารณรัฐจีน และ "ผู้บุกเบิกการปฏิวัติประชาธิปไตย"
ความสวยงามของรองเท้าที่หญิงที่มีเท้าดอกบัวสวมใส่
มี 'รองเท้าโค้ง' บางประเภทสำหรับผู้หญิงเท้าดอกบัว รองเท้าโค้งที่ทำออกมาอย่างดีมีการปักที่หลากหลายทั้งด้านในและด้านนอกรองเท้า และผู้หญิงบางคนยังเพิ่ม
เครื่องประดับบางอย่างเช่นไข่มุกที่ส้นเท้า
แต่ความน่าสนใจคือการมัดเท้าให้เป็นดอกบัวที่สวมรองเท้าส้นสูงนั้นเป็นไปโดย
สมัครใจของผู้หญิงที่ต้องการให้ตัวเองดูงดงามในยุคสมัยนั้น
นี้คือเท้าของผู้หญิงปกติที่ลองใส่รองเท้าของผู้หญิงมีเท้าเป็นดอกบัว จะเห็นว่าขนาดของเท้าของพวกเธอมีขนาดที่เล็กมากเมื่อทำการมัดให้เป็นดอกบัวแล้ว
แล้วพวกเธอมีวิธีการทำยังไงให้เท้าเล็กได้ขนาดนั้นละไม่ต้องสงสัยไปวันนี้เราได้ไปหาวิธีที่พวกเธอใช้กันมาแล้วซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นวิธีที่แสนทรมานและเจ็บปวดเป็น
อย่างมากเพื่อที่จะได้เท้าที่เล็กเหมือนกับดอกบัว โดยมีอุปกรณ์เครื่องมือที่หาได้ไม่ยากนักได้แก่
-เตรียมน้ำอุ่นที่จะช่วยทำให้เท้านุ่ม
-ผ้ามัดหกผืนยาวอย่างน้อย 260 เซนติเมตร
-เข็มและด้ายเพื่อช่วยในการเย็บผ้าเข้าเล่ม
-ผ้าฝ้ายรองด้านในของรองเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูเวลาเดิน
-กรรไกรตัดเล็บ
ขั้นตอนการมัดเท้า
ขั้นตอนที่ 1: แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมสมุนไพรและเลือดสัตว์ สิ่งนี้ช่วยให้เท้านุ่มขึ้นเพื่อ
ให้รัดได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2: งอนิ้วเท้าทั้งสี่ข้างไปที่ฝ่าเท้าด้วยแรง
ขั้นตอนที่ 3: ใช้ผ้ามัดเพื่อกระชับเท้ากดนิ้วเท้าที่อยู่ใต้พื้นรองเท้า ในตอนเริ่มต้นเท้าถูกผูกไว้อย่างแน่นหนาเพื่อให้คุ้นเคยกับการผูกมัดจากนั้นพวกเขาก็จะถูกมัดให้แน่นขึ้นและแน่นขึ้นในภายหลัง กระบวนการนี้กินเวลาหลายวันถึงสองเดือน
ขั้นตอนที่ 4: หักนิ้วเท้าและโค้งด้วยแรงจากนั้นใช้ผ้ามัดเพื่อกระชับเท้า เท้าจะต้องกระชับด้วยวิธีนี้จนกว่าจะไม่เติบโตอีกต่อไป
ขึ้นตอนวิธีการมัดเท้าให้เล็กและเหมือนดอกบัว โดยดอกบัวนั้นแสดงถึง ความดีงาม สะอาด บริสุทธิ์ มีคุณค่า และเป็นมงคล
เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกเจ็บแทนเลยละเพราะว่าขั้นตอนการทำจะเริ่มตั้งแต่ที่เด็กผู้หญิงยังเล็กอายุตั้งแต่4ถึง9ขวบ เด็กจะถูกมัดเท้าเอาไว้ตลอดเวลายิ่งคนไหนที่มีเท้าที่ยิ่งเล็กฐานะการเป็นอยู่ก็จะยิ่งสุขสบายขึ้นด้วย
ทุกปีในวันที่ 6 เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติที่เมืองต้าถง มณฑลซันซี จะมี งานประ
กวดเท้าสวย โดยหญิงสาวจะแข่งกันอวดเท้าเล็กจิ๋วของตนให้คนที่เดินผ่านไปมา
ชื่นชม และตัดสิน โดยดูจากขนาดของเท้าและความสวยงามของรองเท้า
ที่มีลวดลายประณีตงดงาม ซึ่งเกิดจากฝีมือการเย็บปักถักร้อยของหญิงสาว แสดงให้เห็นว่าเท้าที่ถูกรัดจนพิกลพิการกับรองท้าคู่จิ๋ว ได้รับการเทิดทูนเพียงใดในสังคม
ศักดินายุคนั้น
ผลเสียของการที่เด็กหญิงจะได้รับหลังการมัดเท้าแล้ว
การติดเชื้อเป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในการผูกเท้าเนื่องจากสภาวะการดูแลสุขภาพ
ในสมัยโบราณอยู่ในระดับต่ำนิ้วเท้าจึงติดเชื้อและเน่าได้ง่าย ทำให้เท้านั้นมีกลิ่นที่
รุนแรง
ความผิดปกติของเท้า:การผูกเท้าเป็นวิธีปฏิบัติในการผูกนิ้วเท้าเข้ากับฝ่าเท้าด้วยแรงซึ่งทำให้เท้าเสียรูปนั้นหมายถึงการที่พวกเธอจะเดินนั้นก็จะลำบากไปด้วยซึ่งไม่
เพราะลักษณะเท้าที่มีความพิกลพิการแปลกไปจากธรรมชาติ
ประเพณีการรัดเท้าถูกยกเลิกในศตวรรษที่ 20 พร้อมกับการล่มสลายของจักรพรรดิจีน การรัดเท้ากลายเป็นเรื่องผิดกฏหมายและห้ามทำ และจากการสำรวจในปี 2001
พบว่า มีหญิงชาวจีนไม่ต่ำกว่าล้านคนที่ผ่านประสบการณ์การรัดเท้าอันขื่นขมมาแล้วทั้งนั้น
คุณแม่เฒ่าโจวกุ้ยเจิน วัย 86 เจ้าของเท้า ดอกบัวทองคำ
แม่เฒ่าโจวกุ้ยเจินคือหญิงที่ได้ผ่านยุดสมัยช่วงเวลาของเรื่องนี้มาซึ่งเท้าของเองก็
ได้ถูกการถุกรัดจนทำให้มีรูปร่างที่ผิดแปลกไปเช่นกันตามค่าความนิยมในยุคสมัยนั้น
เธอได้ชีวิตอย่างนี้มาเป็นเวลาถึง86ปีเลยทีเดียว
ภาพเท้าของเธอที่ได้มีการถูกมัด ดัดให้มีรูปลักษณะเหมือนกับดอกบัว
แม่เฒ่าโจวกุ้ยเจินได้ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ได้ป่านเรื่องเหล่านี้ว่าฉันไม่สามารถ
เต้นได้ เดินได้อย่างปกติ แน่นอนว่าฉันเสียใจที่มีเท้าแบบนี้ แต่ในตอนนั้นถ้าไม่ทำ
เท้าแบบนี้ก็จะไม่มีคนมาขอแต่งงาน”
บอกได้เลยว่าแฟชั่นนี้ในปัจจุบันเราคงไม่ได้เห็นแล้วละและคงไม่มีใครอยากที่จะทำให้เท้าของตัวเองเป็นแบบนี้แน่นอนแต่ในยุคสมัยนั้นความเชื่อที่ว่าเท้าเล็กแล้วสวยนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับพวกเราในปัจจุบันมาก
โฆษณา