21 ม.ค. 2021 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
คิดว่าแค่มีเงินและไอเดียก็ทำ Startup ที่ประสบความสำเร็จได้ใช่ไหม?
คิดผิดแล้ว
จริงอยู่ที่เงินทุนและไอเดียที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่มักถูกละเลยคือ ‘คน’
90% ของ Startup ล้มเหลว และหนึ่งในสาเหตุหลักนั้นมาจากทีมที่ยัง ‘ไม่ใช่’
แล้วทีมที่ใช่ควรประกอบไปด้วยใครบ้าง? แต่ละคนควรมีหน้าที่และคุณสมบัติอะไรบ้าง? ติดตามได้ที่นี่
#CEO #นักวาดฝัน
โดยทั่วไป CEO (Chief Executive Officer) คือผู้นำของทีม และมักจะเป็นคนที่ทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะดำเนินต่อไปในทิศทางไหน CEO ที่ดีจะต้องเป็นคนที่กล้าและเชื่อในสิ่งที่ตัวเองฝัน แม้ว่าคนอื่นจะมองว่ามันไม่มีทางสำเร็จก็ตาม เพราะถ้ากระทั่งผู้นำยังไม่เชื่อ ก็คงไม่มีผู้ตามคนไหนพร้อมลุยไปด้วยกัน
หน้าที่หลักๆ ของ CEO คือ
- วางแผนกลยุทธ์และกำหนดทิศทางบริษัท
- กำหนดวัฒนธรรมและคุณค่าเฉพาะขององค์กร
- ตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่างๆ
- โฟกัสความต้องการของทุกฝ่ายตั้งแต่นักลงทุน คนในทีม ไปจนถึงลูกค้า
#CPO #นักมองการณ์ไกล
CPO (Chief Product Officer) คือคนที่รู้จักโปรดักต์ของบริษัทตัวเองดีที่สุด ทำให้สามารถชี้ได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และจะหาทางแก้ยังไง การเป็น CPO ที่ดีนั้นจะคล้ายกับ CEO ในแง่ของการเชื่อในสิ่งที่ตัวเองฝัน แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ CPO ต้องทำให้ฝันนั้นทำออกมาได้จริงด้วยมองอนาคตให้ออกว่าสิ่งที่ตลาดต้องการคืออะไร จะได้ทำโปรดักต์ให้ออกมาตอบสนองความต้องการนั้น
หน้าที่หลักๆ ของ CPO คือ
- เข้าใจและคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าผ่านการรีเสิร์ช
- ตอบคำถามให้ได้ว่าโปรดักต์แก้ปัญหาอะไร ใครคือลูกค้า
- ตั้งราคาสินค้าโดยพิจารณาจากต้นทุนและความต้องการของตลาด
#CTO #นักลงมือทำ
2
CTO (Chief Technical Officer) คือคนที่ ‘ลงมือ’ สร้างโปรดักต์ขึ้นมาและ ‘ลงมือ’ จัดการกับปัญหาทางเทคนิค CTO จึงค่อนข้างต่างกับตำแหน่งอื่นตรงที่ใช้ Hard Skill (ความสามารถทางเทคโนโลยี) ค่อนข้างสูง และยังต้องเป็นคนที่แก้ปัญหาได้เร็วด้วย เพราะเราคงไม่อยากเสี่ยงให้ลูกค้าหงุดหงิดเวลาผลิตภัณฑ์มีปัญหากันใช่ไหม?
1
หน้าที่หลักของ CTO คือ
- สร้างและพัฒนาตัวโปรดักต์
- วางแผนการใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีให้คุ้มค่าและทำกำไรสูงสุด
- ดูแลโครงสร้างพื้นฐาน (Product Infrastructure)
- ศึกษาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่ตลอดเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน
#CSO #นักหว่านล้อม
CSO (Chief Sales Officer) คือคนที่พร้อมขายโปรดักต์ที่ทีมสร้างขึ้นมาตลอดเวลา และทำให้ไอเดียแปรเปลี่ยนเป็นกำไร CSO ที่ดีจึงต้องมีความกระตือรือร้นอยากทำตามเป้าหมายให้สำเร็จและมีทักษะการพูดโน้มน้าวเพื่อปิดการขาย
หน้าที่หลักของ CSO คือ
- ตั้งเป้าว่าต้องทำยอดขายได้เท่าไร
- วางกลยุทธ์การขาย
- วิเคราะห์ Performance ของบริษัทตัวเองและคู่แข่ง
#CMO #นักวางแผน
CMO (Chief Marketing Officer) คือคนที่ดูแลงานด้านการตลาด การโฆษณา และตัวตนของแบรนด์ CMO ที่ดีต้องมีความสามารถในการนำเสนอไอเดียที่ฟังดูธรรมดาให้ออกมา ‘ว้าว’ ทักษะการเล่าเรื่องและสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แตกต่างจึงเป็นสิ่งจำเป็น
หน้าที่หลักของ CMO คือ
- ดูแลเรื่องของการหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ติดตามลูกค้าอยู่ตลอด
- การประชาสัมพันธ์
- กำหนดภาพลักษณ์แบรนด์
- วิเคราะห์และวางแผนการตลาด
#CFO #นักการเงิน
CFO (Chief Financial Officer) คือคนที่ช่วยให้สตาร์ทอัปนำเงินทุนที่มีมาสร้างประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และวางแผนว่าเมื่อไรถึงจะพร้อมขยายกิจการ พอต้องมาทำงานที่เกี่ยวข้องกับเงิน CFO ที่ดีจึงต้องเป็นคนซื่อสัตย์ แต่ก็ต้องเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักสรรหาวิธีใหม่ๆ ในการสร้าง Value ให้กับบริษัท
หน้าที่หลักของ CFO คือ
- เตรียมงบประมาณ
- ดูแลค่าใช้จ่ายและกำไร-ขาดทุน
- วิเคราะห์และทำรายงานด้านการเงิน
- วางแผนและประเมินความเสี่ยงด้านการเงินในอนาคต
นอกเหนือจากทักษะในการทำหน้าที่ของตัวเอง สิ่งที่ทุกคนในบริษัท Startup ควรมีก็คงหนีไม่พ้นการมี Passion ในสิ่งเดียวกัน คือการอยากเห็นไอเดียของตัวเองออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และใช้สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันให้บริษัทประสบความสำเร็จในที่สุด
“Career Fact เพราะทุกอาชีพมีเรื่องราว”
#careerfact
………………
สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ ต่อได้ที่ Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว (อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเท้นท์ดีๆ)
โฆษณา