เคยสงสัยไหมว่า พลอยแท้ กับ พลอยปลอมต่างกันอย่างไร ?
แล้วพลอยเก่าเก็บ อายุ หลายสิบปี จะมีโอกาสเป็นพลอยปลอมหรือไม่ ?
วันนี้ผมจะมาสอนวิธีการแยกพลอยแท้ พลอยปลอม ฉบับเบื้องต้น
เพื่อให้ทุกคนไม่ถูกหลอกเวลาไปซื้อพลอยกันครับ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พลอยเม็ดนั่นเป็น พลอยแท้ ?
เรื่องแรก คือ ลักษณะของพลอยแท้
พลอยแท้จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ตำหนิโดยธรรมชาติ” ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการก่อร่างสร้างตัว จนกลายเป็นพลอยอย่างที่เราเห็นกัน
ดังนั้น ถ้าเราจะดูว่าพลอยเม็ดนั้นแท้ไหม ก็ให้สังเกตตำหนิตามธรรมชาติ เช่น
• รอยตำหนิที่มีรูปร่างคล้าย รอยนิ้วมือ (Fingerprint)
• รอยตำหนิที่มีรูปร่างคล้าย คริสตัล (Crystal)
• รอยตำหนิเป็นเส้นๆ คล้ายกับ เส้นเข็ม (Needle)
• รอยตำหนิที่เป็นเส้นๆ สะท้อนแสงวิบวับ ซ้อนๆกัน เหมือนเส้นไหม (Silk)
• รอยตำหนิที่เป็นของเหลว คล้ายคราบน้ำ (Liquid)
• รอยตำหนิที่เป็น เส้นแทบสี (Color Zoning)
ตำหนิพลอยแท้
แล้วพลอยปลอมละ ดูยังไง ?
พลอยปลอม มีอยู่ 2 ประเภท
ประเภทที่ 1 พลอยที่ทำจากแก้ว หรือพลาสติก
ประเภทที่ 2 พลอยที่สร้างขึ้นในห้องLab
ซึ่งสำหรับประเภทที่ 1 นั้น เราสามารถดูได้ด้วยตาเปล่า อย่างง่ายดาย
เพราะพลอยปลอมประเภทนี้ จะมีน้ำหนักเบา เนื้อสะอาด และใสมาก
โดยพลอยปลอมชนิดมักใช้ ถูกนำไปใช้แทนพลอยแท้
ซึ่งส่วนใหญ่คนซื้อก็จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นของปลอม
ส่วนพลอยปลอมประเภทที่ 2 นั้นจะดูได้ยากกว่า เพราะจุดประสงค์ของมัน คือ การสร้างเพื่อเลียนแบบให้ใกล้เคียงพลอยแท้
ซึ่งวิธีการสังเกตพลอยปลอมประเภทที่สองจะดูได้ดังนี้ครับ
1.พลอยปลอม จะมีสีที่เสมอกันทั่วทั้งเม็ด
2.พลอยปลอมจะแทบไม่มีตำหนิเลย
3.ถ้ามีตำหนิในพลอยปลอม ก็จะมีรูปคล้ายๆ ฟองอากาศ
4.จะมีตำหนิที่เป็นเส้นโค้งๆ ติดกันอยู่ทั่วทั้งเม็ด
5.จะมีตำหนิที่เป็นเส้นสีโค้งๆ ติดกันอยู่ทั่วทั้งเม็ด
6.จะมีตำหนิเลียนแบบคล้ายรอยนิ้วมือ แต่จะมีลักษณะคล้ายรังผึ้งซ้อนกัน
ตำหนิพลอยปลอม
นอกจากนี้ บางคนก็มักจะมีความเข้าใจผิดๆ อยู่ตลอดว่า พลอยเก่าเก็บ ที่เป็นมรดกตกทอดกันมาหลายรุ่น มีอายุมากกว่า 40 ปี ยังไงก็เป็นพลอยแท้แน่นอน เพราะยุคนั้นไม่น่ามีหรอก พลอยปลอม
แต่ข่าวร้ายที่ผมต้องบอกก็คือว่า มีโอกาสที่จะเป็นพลอยปลอมนะครับ
เพราะตั้งแต่ในช่วงปลายๆ ปี 1800 ก็เริ่มมีความพยายามในการสร้างพลอยปลอม หรือพลอยสังเคราะห์ขึ้น
แต่มาสร้างได้สำเร็จจริงๆในปี 1902 หรือเมื่อประมาณ 119 ปีที่แล้ว
โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Auguste Verneuil
ซึ่งวิธีการสร้างพลอยสังเคราะห์นี้ ถูกเรียกว่า Flame Fusion
และในภายหลัง โลกของเราก็คิดค้นวิธีการสังเคราะห์พลอยต่างๆได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น Crystal Pulling, Flux Growth, Hydrothermal Growth และอื่นๆ อีกมากมาย
(ซึ่งในประเด็นนี้ ผมจะมาอธิบายแยกอีกทีครับ)
เอาเป็นว่า ถ้าอ่านมาถึงตอนนี้แล้วยังรู้สึก งงๆ
เราสามารถสรุปได้ว่าพลอยสังเคราะห์ ก็คือพลอยที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยวิธีต่างๆ ของมนุษย์นั่นเอง จบแบบเข้าใจง่ายๆ 55555555
สุดท้ายนี้ วิธีการที่ผมได้แนะนำไปนั้น จะช่วยให้เราสามารถดูพลอยได้ใน “ระดับเบื้องต้น” ว่า พลอยเม็ดนั่นเป็นพลอยแท้ หรือพลอยปลอม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องบอกเลยว่า 10 ปากว่า ก็ไม่เท่าตาเห็น และ 10 ตาเห็น ก็ไม่เท่า 1 ใบเซอร์ (Certificate)
ต่อให้เราจะมีประสบการณ์มากแค่ไหน เราก็ไม่อาจมั่นใจได้ 100% จากการดูด้วยตาเปล่า
เพราะในทุกๆวันนี้วิวัฒนาการของเทคโนโลยี ก็เติบโตไปไกลมาก
ดังนั้น วิธีการปลอมพลอยให้เหมือนของแท้ ก็มีมากขึ้นเช่นกัน
ในปัจจุบัน มีทั้งการสร้างตำหนิปลอม เพื่อให้พลอยปลอมดูเหมือนจริงมากขึ้น
ซึ่งในบางครั้ง เราอาจพบ พลอยปลอมขั้นสูง ที่มีตำหนิแบบเดียวกัน เช่น ตำหนิแบบรอยนิ้วมือ (Fingerprint) อยู่ในพลอย เพื่อสร้างความสมจริง
ดังนั้นผมขอแนะนำว่า ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อพลอย เราควรขอใบเซอร์จากร้านค้าด้วย ซึ่งใบเซอร์นี้ต้องออกโดยสถาบันเซอร์ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่แค่ใบรับประกันที่ออกโดยร้านค้านั้นๆ
ยิ่งพลอยที่มีมูลค่าสูงมากๆ ก็ควรนำไปตรวจกับสถาบันระดับกลาง จนถึงระดับใหญ่
เพราะทางสถาบันเหล่านี้จะมีเครื่องมือในการตรวจเช็คที่ละเอียดมากขึ้น
ซึ่งจะทำให้เกิดความแม่นยำ และลดโอกาสเกิดความผิดพลาดลงได้ครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
